ไม่ออกใบกำกับภาษี?

ใบกำกับภาษี เป็นเอกสารสำคัญที่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มต้องออกให้แก่ผู้ซื้อสินค้าหรือผู้ใช้บริการ เว้นแต่เข้าข่ายที่กฎหมายกำหนดว่าไม่จำเป็นต้องออกใบกำกับภาษีในบางกรณี แต่ถ้าหากผู้ซื้อสินค้าหรือผู้ใช้บริการเรียกร้องขอใบกำกับภาษี ผู้ประกอบการที่ขายสินค้าหรือผู้ให้บริการต้องออกใบกำกับภาษีให้ทันที ใบกำกับภาษีที่ออกอาจเป็นใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร หรือเป็นใบกำกับภาษีอย่างย่อตามมาตรา 86/6 แห่งประมวลรัษฎากร

เชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่สัมผัสใบกำกับภาษี โดยเฉพาะใบกำกับภาษีอย่างย่อ หากไปซื้อสินค้าหรือใช้บริการจากร้านสะดวกซื้อ โอกาสที่จะได้รับใบกำกับภาษีอย่างย่อมีมาก แต่ถ้าหากเป็นการซื้อสินค้าที่ไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มก็คงได้รับแค่ใบเสร็จรับเงินเท่านั้น การออกใบกำกับภาษีอย่างย่อ ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มต้องดูว่าตนเองมีสิทธิออกใบกำกับภาษีอย่างย่อหรือไม่ เพราะกฎหมายได้กำหนดให้กิจการบางประเภทเท่านั้นที่สามารถออกใบกำกับภาษีอย่างย่อได้ เช่น กิจการขายสินค้าหรือให้บริการรายย่อยที่มีรายรับไม่ถึง 3 แสนบาท/เดือน, กิจการค้าปลีก เป็นต้น

ใบกำกับภาษีเป็นเอกสารที่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มต้องใส่ใจและให้ความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นกรณีขายสินค้าหรือบริการ ต้องออกใบกำกับภาษีขายและนำไปเป็นหลักฐานจัดทำรายงานภาษีขาย หรือกรณีได้รับใบกำกับภาษีซื้อจากการซื้อสินค้าหรือบริการ และใช้เป็นหลักฐานในการจัดทำรายงานภาษีซื้อ เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งคำนวณจากภาษีขาย หักออกด้วยภาษีซื้อในแต่ละเดือนภาษี และใบกำกับภาษียังใช้เป็นหลักฐานตรวจสอบว่ามีธุรกรรมซื้อขายหรือใช้บริการจริงหรือไม่     

ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มบางรายเมื่อขายสินค้าหรือให้บริการแก่ลูกค้าแล้วไม่จัดทำใบกำกับภาษีหรือสำเนาใบกำกับภาษี หรือจัดทำแล้วไม่ส่งมอบให้ผู้ซื้อหรือผู้รับบริการ หรือไม่จัดทำใบกำกับภาษีหรือสำเนาใบกำกับภาษีและไม่ส่งมอบให้ผู้ซื้อหรือผู้รับบริการตามที่ผู้ซื้อหรือผู้รับบริการเรียกร้องขอใบกำกับภาษี กฎหมายได้กำหนดโทษอาญา จำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ  

กรณีไม่ออกใบกำกับภาษีเมื่อขายสินค้าหรือบริการ นอกจากโทษอาญาที่กล่าวมา กฎหมายได้กำหนดโทษทางแพ่ง เสียเบี้ยปรับ 2 เท่าของจำนวนภาษีที่คำนวณจากมูลค่าของสินค้าหรือการให้บริการที่ไม่ได้ออกใบกำกับภาษี และเสียเงินเพิ่มอีกร้อยละ 1.5 ต่อเดือนของจำนวนภาษีที่ต้องชำระ โดยเฉพาะกรณีไม่ออกใบกำกับภาษีเมื่อขายสินค้าหรือบริการ ผู้ประกอบการบางรายชักจูงลูกค้าว่าหากต้องการใบกำกับภาษี ต้องเสียเงินเพิ่มอีกร้อยละ 7 ของราคาสินค้าหรือค่าบริการ  ทำให้ลูกค้าบางรายจิตใจไขว้เขวไม่ขอรับใบกำกับภาษี การทำเช่นนี้ของผู้ประกอบการถือว่าเป็นการหลีกหนีภาษีอากร  เอาเปรียบคู่แข่งทางการค้าที่เสียภาษีอย่างถูกต้อง หากถูกเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ คิดดูแล้ว ได้ไม่คุ้มเสียจริงๆ อย่าทำเสียดีกว่า

สำหรับผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ที่ประกอบกิจการขายสินค้าหรือให้บริการรายย่อย กฎหมายได้อำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการในการขายสินค้าหรือบริการ สามารถออกใบกำกับภาษีอย่างย่อได้

ใบกำกับภาษีเป็นเอกสารหลักฐานที่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มต้องใส่ใจ ไม่ว่าจะเป็นในฐานะผู้ขายสินค้า ผู้ให้บริการ ผู้ซื้อสินค้าหรือผู้ใช้บริการ รวมถึงประชาชนทั่วไปที่ซื้อสินค้าหรือใช้บริการที่ควรจะร้องขอใบกำกับภาษีทุกครั้ง  เพราะอย่างน้อยก็ช่วยให้การหลีกหนีภาษีทำได้ยากยิ่งขึ้น สวัสดีครับ