ช็อปปิ้ง-วิ่ง-ชิมริมโขง สโลว์ไลฟ์ ‘เวียงจันทน์สไตล์’
“สโลว์ไลฟ์” หรือชีวิตแบบไม่ต้องเร่งรีบ กลายเป็นสิ่งที่คนเมืองยุคโลกาภิวัตน์จำนวนมากเฝ้าถวิลหา
โดย...ตะวัน หวังเจริญวงศ์
“สโลว์ไลฟ์” หรือชีวิตแบบไม่ต้องเร่งรีบ กลายเป็นสิ่งที่คนเมืองยุคโลกาภิวัตน์จำนวนมากเฝ้าถวิลหา โดยเฉพาะเวลาเดินทางไปท่องเที่ยว เพื่อให้ชีวิตได้ผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้า ลืมทุกสิ่งรอบกายที่ทำให้ชีวิตเหมือนวิ่งแข่งอยู่ตลอดเวลา
สำหรับชาวนครหลวงเวียงจันทน์ เมืองหลวงของลาว ก็มีสถานที่พักกายพักใจยามค่ำคืนในแบบฉบับของพวกเขา คือที่ สวนสาธารณะเจ้าอนุวงศ์ บนถนนเจ้าฟ้างุ้ม ริมฝั่งแม่น้ำโขง หรือที่รู้จักกันในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทยว่า “ตลาดกลางคืนริมโขง” หรือ “ถนนคนเดินเวียงจันทน์”
กิจกรรมบนถนนคนเดินแห่งนี้ ล้วนเป็นกิจกรรมง่ายๆ สบายๆ นักท่องเที่ยวต่างชาติเองก็สามารถสัมผัสประสบการณ์สุดแสนชิลนี้ได้ ไม่ว่าจะมาคนเดียว มากับเพื่อน มากับแฟน หรือมากับครอบครัว สำหรับกิจกรรมหลักที่ทั้งชาวลาวและชาวต่างชาตินิยมทำกันที่นี่ มีดังนี้
1.สักการะเจ้าอนุวงศ์ สุดทางด้านหนึ่งของถนนเส้นนี้ มีอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าอนุวงศ์ พระมหากษัตริย์องค์สุดท้ายแห่งอาณาจักรล้านช้าง ความสูงประมาณ 17 เมตร ตั้งอยู่ บริเวณใกล้เคียงอนุสาวรีย์จะมีประชาชนชาวลาวตั้งร้านขายดอกดาวเรืองและดอกบัวสำหรับสักการะในราคา 2 ดอก 5,000 กีบ (ราว 20 กว่าบาท) ชาวลาวบอกว่า นอกจากสักการะเพื่อแสดงความเคารพแล้ว บางคนก็ขอพรเรื่องต่างๆ จากท่านด้วย
2.ช็อปปิ้งทางตรง 1 กิโลเมตร ตั้งแต่ประมาณ 17.00 น. เป็นต้นไป บรรดาพ่อค้าแม่ขายจะเริ่มตั้งร้านของตัวเองภายใต้เต็นท์สีแดงเป็นทางยาวนับกิโลเมตร แม้สินค้าที่วางขายจำนวนมากจะคล้ายคลึงกัน แต่ก็ทำให้ตลาดแห่งนี้ดูคึกคัก และสามารถเดินเที่ยวชมไปเรื่อยๆ ได้ เพื่อเลือกสินค้าที่ “ใช่” จริงๆ
สินค้าประเภทที่มีผู้จำหน่ายมากที่สุดในตลาดแห่งนี้ หนีไม่พ้น เสื้อผ้าผู้หญิง แนวเสื้อผ้าอาจแตกต่างกันเล็กน้อยตามสไตล์ของแต่ละร้าน แต่ทุกร้านมักจะติดป้ายคล้ายคลึงกัน คือ 2.5 หมื่นกีบทุกตัว 2.8 หมื่นกีบทุกตัว 3.5 หมื่นกีบทุกตัว และ 3.8 หมื่นกีบทุกตัวตีราคาแบบหยาบๆ คือมีราคาตั้งแต่ 100-150 บาท
ประเภทถัดมาคือ เสื้อผ้าผู้ชาย จำนวนร้านที่ขายมีน้อยกว่าร้านเสื้อผ้าผู้หญิงมากนัก และมักไม่มีป้ายบอกราคาเท่ากันทุกตัวทั้งร้านแบบร้านเสื้อผ้าผู้หญิง ราคาเสื้อยืดแบบ “บอกผ่าน” สำหรับชาวไทย อยู่ที่ประมาณ 300-400 บาท
สินค้าอุปกรณ์ไอที เป็นสินค้าอีกประเภทหนึ่งที่มีวางจำหน่ายจำนวนมากในตลาดแห่งนี้ มีตั้งแต่หูฟังยันแบตสำรอง แต่สินค้าที่นิยมจำหน่ายที่สุดเห็นจะหนีไม่พ้นเคสสมาร์ทโฟน มีให้เลือกหลากสีสัน หลากราคา สำหรับสมาร์ทโฟน หลากรุ่น
นอกจากนี้ ที่นี่ยังมี เครื่องสำอาง กระเป๋าแบรนด์นอก และผ้าซิ่น จำหน่ายด้วย ไม่ว่าจะต้องการของฝากหรือซื้อไปใช้เองก็หาได้ที่นี่จริงๆ
ระหว่างเดินช็อปปิ้งอยู่กลางตลาด ไม่ต้องแปลกใจหากคุณจะรู้สึกเหมือนอยู่ประเทศไทย เพราะที่ตลาดแห่งนี้เขาเปิดเพลงไทยหลากยุค ตั้งแต่สมัยศิลปินวัยเลข 3 บางคนยังหนุ่มยังแน่น ไปจนซิงเกิ้ลใหม่ของนักร้องจากเวทีการประกวดชื่อดังที่เพิ่งปล่อยให้ได้ฟังไม่กี่เดือน
3.วิ่ง-ปั่น-สเกตกลางถนน เลียบไปกับตลาดเต็นท์แดง มีถนนสายหนึ่งทอดยาว ซึ่งปิดเฉพาะช่วงเย็นให้ผู้คนได้ใช้เป็นสถานที่ออกกำลังกาย กิจกรรมที่ทั้งชาวลาวและชาวต่างชาตินิยมมากอย่างหนึ่ง คือ การวิ่งไป-กลับบนถนนสายนี้ เรียกเหงื่อและความกระชุ่มกระชวยให้ตัวเองไปพร้อมกัน
บางคนที่ไม่อยากวิ่ง ก็มีกิจกรรมเก๋ๆ ให้เลือกทำมากมาย ตั้งแต่ปั่นจักรยาน เล่นสเกตบอร์ด ไปจนถึงเล่นแบดมินตัน แหม่ ก็ถนนเป็นของเราขนาดนี้ ขอใช้เล่นกีฬาให้คุ้มหน่อยน่า
นอกจากนี้ บริเวณครึ่งทางของตลาดเต็นท์แดง จะมีลานเล็กๆ อยู่ลานหนึ่งเชื่อมถนนออกกำลังกายและตลาดเข้าด้วยกัน ช่วง 18.00-19.00 น. บริเวณนั้นจะมีผู้คนมารวมตัวแอโรบิกพร้อมกัน นักท่องเที่ยวบางคนผ่านมาเห็นยังแทบจะอยากลุกมาเต้นตาม
4.อิ่มเอมสายชลริมฝั่งโขง ถัดจากถนนออกกำลังกาย บริเวณติดริมน้ำโขงจะมีคนจำนวนหนึ่งมาใช้เวลานั่งอยู่นิ่งๆ กินลมและบรรยากาศสบายๆ ริมแม่น้ำ ชมความงาม
ของธรรมชาติและวิถีชีวิตของผู้คน อย่างไรก็ดี ใครอยากจะลองมานั่งชิลตรงนี้ แนะนำให้หาคนรู้ใจมานั่งด้วย เพราะคนลาวที่มานั่งชมความงามริมโขงแบบนี้ มาเป็นคู่กันทั้งนั้น
5.ถึงชั่วโมงชิมอาหาร หลังเสร็จภารกิจช็อปปิ้งและการออกกำลังกาย ก็ถึงเวลารับประทานอาหารให้อิ่มหนำสำราญ อีกฟากหนึ่งของถนนเจ้าฟ้างุ้ม หรือตรงข้ามสวนเจ้าอนุวงศ์ มีร้านอาหารหลากสัญชาติตั้งอยู่เรียงรายตั้งแต่อาหารลาว อาหารไทย อาหารอินเดีย อาหารเบลเยียม และอีกมากมาย ระดับราคาก็หลากหลายเช่นกัน มีตั้งแต่ 60 บาท ไปจนถึงจานละหลายร้อยบาท จะแวะมาทานตั้งแต่หัวค่ำ หรือรอดึกหน่อยก็ได้ เพราะร้านแถวนี้ปิดกันช่วง 22.00-23.00 น.
นักท่องเที่ยวชาวไทยคนไหนอยากสัมผัสประสบการณ์สบายๆ ชิลๆ ในเวียงจันทน์ ยามค่ำคืนของสวนเจ้าอนุวงศ์ เป็นอีกสัมผัสหนึ่งที่พลาดไม่ได้จริงๆ


