น้ำพริกแม่ศรีสูตรดังจากนครปฐมสยายปีกยึดตลาดอินเตอร์

สินค้าส่วนใหญ่ส่งออกไปต่างประเทศกว่า 90% ถือเป็นน้ำพริกเจ้าแรกของเมืองไทยที่บุกตลาดต่างประเทศ สามารถนำไปวางขายยังร้านค้าผ่านตัวแทนจำหน่ายได้

โดย...ปรียนิจ กุลตั้งเจริญ

น้ำพริกแม่ศรี จากอุตสาหกรรมครอบครัวขนาดเล็กในยุคบุกเบิกที่ตำน้ำพริกแล้วมาบรรจุลงกระปุกพลาสติกและถุงพลาสติกวางขายเฉพาะในร้านของตัวเอง

ปัจจุบันพัฒนาบรรจุภัณฑ์เป็นกระปุกแก้วเข้าวางขายในห้างสรรพสินค้า แถมขยายตลาดไปได้|ทั่วโลก จนถึงทายาทรุ่นสองได้มีการขยายไลน์สินค้าจากน้ำพริกสู่สินค้าเครื่องปรุงรส เครื่องแกงสำเร็จรูป และอาหารแปรรูปกว่า 130 ชนิด จัดจำหน่ายทั้งตลาดภายในประเทศและตลาดทั่วโลก

ประสิทธิ์

ประสิทธิ์ นิยมทรัพย์ กรรมการผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด น้ำพริกแม่ศรี ทายาท สมศรี นิยมทรัพย์ เจ้าของสูตรน้ำพริกแม่ศรีที่โด่งดังของนครปฐม เล่าว่า เริ่มธุรกิจจากการเป็นอุตสาหกรรมในครอบครัวทำน้ำพริกขายตามสหกรณ์ จนกระทั่ง|มีนักเรียนไทยที่ไปเรียนต่างประเทศนำน้ำพริกไปกิน จนเป็นที่นิยม และถูกบอกต่อกันมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้สินค้าติดตลาดนักเรียนนอกอย่างรวดเร็ว และมีผู้แทนจำหน่ายเข้ามาติดต่อนำสินค้าไปขายยังต่างประเทศ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการผลิตเพื่อการส่งออก

ปัจจุบันสินค้าส่วนใหญ่ส่งออกไปต่างประเทศกว่า 90% ถือเป็นน้ำพริกเจ้าแรกของเมืองไทยที่บุกตลาดต่างประเทศ สามารถนำไปวางขายยังร้านค้าผ่านตัวแทนจำหน่ายได้ หรือหาซื้อได้ตามร้านขายสินค้าจากเอเชีย โดยมีตลาดหลักที่สำคัญได้แก่ สหรัฐอเมริกา ยุโรป ออสเตรเลีย แคนาดา ญี่ปุ่น เป็นต้น รวมทั้งยังมีการรับจ้างผลิตให้กับลูกค้าในแบรนด์อื่นๆ ของต่างประเทศ และร้านอาหารไทยในต่างประเทศหลายเจ้าก็นำเข้าน้ำพริกแม่ศรีไปใช้

จุดเด่นที่ทำให้ลูกค้าติดใจคือ เรื่องรสชาติ ที่เป็นรสชาติเดียวกับที่เมืองไทย และคุณภาพสินค้า ปลอดภัยได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองมาตรฐานตรวจสอบจากหน่วยงานสาธารณสุขของประเทศคู่ค้า ประกอบกับพยายามพัฒนาสินค้าให้ผู้บริโภคใช้ง่าย สะดวกในการนำไปปรุงอาหารต่อ ซึ่งในส่วนของเครื่องแกงสำเร็จรูปลูกค้าสามารถซื้อไปอุ่น เติมเนื้อสัตว์ พร้อมรับประทานได้เลย

สินค้ายอดนิยมส่วนใหญ่ได้แก่ น้ำพริกแกงแดง น้ำพริกแกงเขียวหวาน น้ำพริกขนมจีน ซอสปรุงรส เช่น ซอสผัดไทย น้ำจิ้มข้าวมันไก่ เครื่องต้มยำ เป็นต้น

ขณะที่ตลาดในประเทศมีสินค้าวางขายร้านหน้าโรงงานที่ จ.นครปฐม สามารถติดต่อสั่งซื้อสินค้าได้ แล้วทางร้านจะจัดส่งสินค้าไปให้ และร้านน้ำพริกแม่ศรีสาขาเทเวศร์ ด้านข้างกับธนาคารแห่งประเทศไทย รวมทั้งยังมีวางขายในซูเปอร์มาร์เก็ตของสยามพารากอน ตลาดบองมาร์เช่ เป็นต้น เน้นการทำตลาดพรีเมียม และต้องการสร้างแบรนด์ให้ลูกค้าในประเทศรู้จักมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม สินค้าที่วางขายในประเทศจะมีความหลากหลายมากกว่า เพราะพยายามที่จะผลิตสินค้าเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป โดยจะมีอาหารแช่แข็ง อาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทานวางขายอยู่ในร้านด้วย ลูกค้าก็ให้ความสนใจ แต่น้ำพริกและเครื่องแกงก็ยังเป็นสินค้าหลักของร้านอยู่เช่นเดิม

“เรามองว่าเราไม่มีคู่แข่ง แต่ละรายก็ทำสินค้าที่แตกต่างกันไป แต่ของเราเป็นนำพริกเจ้าแรกที่สามารถบุกตลาดต่างประเทศได้ ทำให้ลูกค้าติดใจ กลับมาซื้อสินค้าของเราไปรับประทานต่อ การทำตลาดส่วนใหญ่จึงเป็นวิธีการบอกปากต่อปากของลูกค้าเอง เป็นวิธีการทำตลาดที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด”

วัตถุดิบส่วนใหญ่ซื้อจากเกษตรกรคนไทยเองทั้งหมด เช่น พริกชี้ฟ้าแดง ตะไคร้ ต้นหอม ผักชี หอมแดง ใบมะกรูด วัตถุดิบเหล่านี้ต้องมีการทำสัญญากับเกษตรกรในเรื่องวิธีการปลูกให้ปลอดภัยจากสารเคมีทั้งหมด จึงต้องมีการควบคุมระบบการปลูกที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันสารตกค้าง เพราะจะส่งผลต่อการตรวจสอบคุณภาพระหว่างการส่งออกได้ โดยในระบบการคัดเลือกวัตถุดิบก็ใช้คนงานเลือกทั้งหมด เพื่อคัดแยกเครื่องปรุงที่เน่าเสียออก

พริกแห้ง กระเทียม ต้องนำเข้าจากจีนบางส่วน เพราะในเมืองไทยมีไม่เพียงพอกับความต้องการใช้ จะใช้มากถึง 180-200 ตันต่อปี ซึ่งในโรงงานผลิตน้ำพริกมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 30 ตันต่อวัน

ในช่วงฤดูกาลที่ผักแพง ก็ได้รับผลกระทบมาก โดยเฉพาะมะกรูดจากเดิมที่ราคาประมาณ 20 สตางค์ต่อลูก ขึ้นเป็น 3 บาทต่อลูก มะนาวจากลูกละ 50 สตางค์ แพงขึ้นถึง 5-6 บาทต่อลูก รวมทั้งผักชีที่ราคาพุ่งสูงขึ้นมากในช่วงหน้าร้อน แต่ทางร้านก็แก้ปัญหาโดยการพยายามควบคุมต้นทุนทางด้านอื่นๆ แทน เช่น การประหยัดพลังงาน เพราะยังไงก็ต้องซื้อวัตถุดิบเข้ามาใช้ไม่ว่าจะมีราคาสูงเท่าไหร่ เนื่องจากถ้าไม่ผลิตหรือผลิตน้อยลงลูกค้าก็จะไม่มีของขาย เมื่อมีคำสั่งซื้อเข้ามาก็ต้องผลิตให้ได้ตามคำสั่งซื้อแต่ละครั้ง

กระนั้น ทางร้านก็ยังไม่มีแนวคิดที่จะปรับราคาสินค้าขึ้นตามต้นทุนวัตถุดิบ เนื่องจากไม่ต้องการให้สินค้ามีราคาแพงจนเกินไป จนผู้บริโภครู้สึกว่าราคาสูง เพราะสินค้าอาหารเป็นสิ่งที่คนต้องกินเป็นประจำอยู่แล้ว จึงใช้วิธีคงคุณภาพ คงราคา ไปลดต้นทุนด้านอื่นๆ แทน

ขณะที่อุปสรรคอื่นๆ เช่น ปัญหาการตรวจสอบคุณภาพสินค้าอาหารของต่างประเทศ ก็พยายามทำให้ได้ตามคุณภาพที่กำหนดมากที่สุด เพื่อที่จะเข้าไปขยายตลาดสร้างความเชื่อมั่นกับลูกค้าได้ว่าสินค้าสะอาด มีคุณภาพ รวมถึงการได้รับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.) จากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ก็ยิ่งเป็นเครื่องการันตีคุณภาพให้กับตัวสินค้าได้เป็นอย่างดี

ประสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการสร้างโรงงานใหม่เพื่อขยายการผลิต มูลค่า 85 ล้านบาท คาดว่าน่าจะเดินเครื่องผลิตได้ในช่วงเดือน ก.พ. 2554 โดยสร้างเพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจในอีก 7 ปีข้างหน้า เพิ่มกำลังการผลิตจากปัจจุบัน 30 ตันต่อวัน เป็น 60 ตันต่อวัน

บริษัทตั้งเป้าหมายจะกระจายสินค้าในแบรนด์น้ำพริกแม่ศรีออกไปให้เป็นที่รู้จักมากที่สุดเท่าจะทำได้ทั่วโลก เพราะที่ผ่านมาเป็นความภาคภูมิใจมากที่ลูกค้าจากหลากหลายมุมโลกรู้จักสินค้าในน้ำพริกแบรนด์แม่ศรี ที่เป็นอุตสาหกรรมขนาดเล็ก แต่สามารถเข้าสู่ตลาดโลกได้อย่างมั่นคง แข่งขันกับสินค้าจากต่างประเทศได้เป็นอย่างดี