posttoday

กองทุน 500 Tuk Tuks หนุนสตาร์ทอัพดาวรุ่งไทย

05 มิถุนายน 2558

แนวคิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยเครื่องยนต์ดิจิทัลของภาครัฐ

โดย...ดวงใจ จิตต์มงคล

แนวคิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยเครื่องยนต์ดิจิทัลของภาครัฐ ทำให้ผู้ประกอบการหลายกลุ่มเกิดความตื่นตัวในการนำเทคโนโลยีสื่อสารและอินเทอร์เน็ตเข้ามาเป็นเครื่องมือสำคัญในการทำงาน ซึ่งรวมถึงการเกิดขึ้นของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ (ไอที) รายใหม่ ที่มีไอเดียการทำธุรกิจและหวังเติบโตแบบก้าวกระโดดด้วยเม็ดเงินจากกองทุนร่วมลงทุน (เวนเจอร์ แคปปิตอล)

ณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์ ผู้จัดการกองทุน 500 Tuk Tuks และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อุ๊คบี กล่าวว่า กองทุน 500 Tuk Tuks (ไฟว์ ฮันเดรด ตุ๊กตุ๊กส์) ก่อตั้งขึ้นในไทย พร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อปลายเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา เพราะมองเห็นโอกาสการเติบโตในกลุ่มผู้ประกอบการเทคโนโลยีสตาร์ทอัพในไทยที่มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งจากนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัลของรัฐบาลที่มีส่วนส่งเสริมให้เกิดสภาพแวดล้อมทางธุรกิจอย่างเป็นระบบ

สำหรับกองทุนฯ ดังกล่าวใช้เงินทุนเริ่มต้น 10 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 300 ล้านบาท 90% เป็นสัดส่วนของนักลงทุนชาวไทย คือ อิทธิพัทธ์ กุลพงษ์วณิชย์ เจ้าของธุรกิจเถ้าแก่น้อย กระทิง เรืองโรจน์ พูนผล และตนเอง และสัดส่วนการลงทุนอีก 10% เป็นของนักลงทุนจากต่างชาติ เช่น กลุ่ม 500 สตาร์ทอัพ ที่จะเน้นลงทุนและสนับสนุนเทคโนโลยีในกลุ่มผู้ประกอบการเกิดใหม่ที่เป็นของคนไทย

ที่ผ่านมาธุรกิจเทคโนโลยีสตาร์ทอัพของคนไทยยังขาดปัจจัยด้านเงินลงทุน องค์ความรู้ และสายสัมพันธ์ด้านเครือข่ายธุรกิจเพื่อติดต่อต่างชาติ เป็นต้น ซึ่งกองทุน 500 Tuk Tuks ต้องการเข้ามาช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจไอทีที่กำลังเริ่มต้นให้สามารถขยายบริษัทให้เติบโต เพื่อให้ได้เงินทุนเพิ่มเติมจากนักลงทุนจากต่างประเทศได้เช่นเดียวกับอุ๊คบี

ขณะที่รูปแบบการลงทุนของกองทุนฯ นี้ เบื้องต้นจะมุ่งเน้นธุรกิจในอุตสาหกรรมไอที หรือ สตาร์ทอัพคนไทย เฉลี่ยลงทุน 1-3 ล้านบาท/บริษัท โดยเน้นการลงทุนในกลุ่มเทคโนโลยีซอฟต์แวร์ อีคอมเมิร์ซ ฯลฯ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาได้เข้าไปลงทุนในกลุ่มธุรกิจสตาร์ทอัพไทยแล้ว 3 ราย คือ 1.Blisbyผู้ให้บริการมาร์เก็ต เพลส สินค้าดีไอวาย และสินค้าทำมือ 2.OMISE ผู้ให้บริการเพย์เมนต์ เกตเวย์ และ 3.HUBBA เป็นพื้นที่ให้เช่าทำงานหรือประชุมสัมมนา

“ในช่วงที่ผ่านมาไทยยังขาดกองทุนที่มีลักษณะเฉพาะเจาะจงสำหรับสตาร์ทอัพจริงๆ เพราะยังเป็นเรื่องใหม่ ซึ่งในเมืองไทยการมีสตาร์ทอัพ อีโค ซิสเท็ม จะเกิดขึ้นไม่ได้หากไม่มีกองทุนเข้ามาสนับสนุน เช่นเดียวกับกูเกิลหรือเฟซบุ๊กที่เติบโตมาจากสตาร์ทอัพเช่นกันอุ๊คบีเองก็ได้ประสบการณ์มาจากจุดนี้ด้วยและเป็นที่มาของการนำกองทุนดังกล่าวเข้ามาในไทย” ณัฐวุฒิ กล่าว

สำหรับคุณสมบัติของสตาร์ทอัพไทยที่น่าสนใจต่อการเข้าไปลงทุน ในเบื้องต้นนั้น กองทุนฯ จะมีการพิจารณาทั้งจากการนำองค์ความรู้ หรือโนว์ฮาวเข้ามาใช้ร่วมในธุรกิจ มีโปรโตไทป์ (Prototype) ต้นแบบทางธุรกิจที่ชัดเจนว่าจะทำอะไร หรือมีรูปแบบธุรกิจ (บิซิเนส โมเดล) ที่ชัดเจน การมีตัวอย่างให้นักลงทุนพิจารณาได้ทันที หรือหากจะให้ดีกว่านี้ธุรกิจควรเปิดตัวหรือทำตลาดไปก่อนสักระยะหนึ่ง เพื่อเสริมความเข้าใจให้กับนักลงทุน

นอกจากนี้ กลุ่มผู้ก่อตั้งธุรกิจหรือทีมฟาวเดอร์ยังจะต้องมีความสามารถสร้างความมั่นใจในธุรกิจว่าสามารถทำได้จริงหรือไม่ในอนาคต เป็นต้น   

ณัฐวุฒิ กล่าวว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้อุ๊คบีประสบความสำเร็จทางธุรกิจออนไลน์และมีนักลงทุนสนใจเข้ามาร่วมลงทุนธุรกิจ ประกอบด้วย 1.แพลตฟอร์มธุรกิจที่เปิดโอกาสให้เกิดการติดต่อค้าขายร่วมกันได้สะดวก 2.รูปแบบธุรกิจ (บิซิเนส โมเดล) ที่ดีเป็นตัวกลางในการทำตลาด 3.วางเป้าหมายชัดในการใช้เทคโนโลยีเข้ามาทดแทนกระดาษที่ทำให้ต้นทุนทางธุรกิจต่ำลง และ 4.การทดลองทำโครงการต่างๆที่สตาร์ทอัพอาจมองเป็นไกด์ไลน์ในการพัฒนาธุรกิจของตัวเองได้เช่นกัน

ทั้งนี้ หลังจากเปิดตัวกองทุนนี้อย่างเป็นทางการแล้ว ยังเตรียมแผนเข้าไปลงทุนในอีก 6-7 บริษัทในปีนี้ และคาดว่าภายในปี 2558 กองทุน 500 Tuk Tuks จะสามารถเข้าไปลงทุนสตาร์ทอัพให้ได้ 10-20 บริษัท และภายใน 3 ปีจะเข้าไปลงทุนให้ได้ประมาณ 50-60 บริษัท

ข่าวล่าสุด

ไทยพาณิชย์ชู 3 แกนพัฒนาคน รับรางวัล HR Leader for Social Impact 2025