เสียอากรแสตมป์เป็นตัวเงิน

โดย...สมชาย ชูเกตุ

อากรแสตมป์ เป็นภาษีอากรที่จัดเก็บตามประมวลรัษฎากร โดยมีลักษณะตราสาร 28  ประเภท ตามบัญชีอัตราอากรแสตมป์ 

การชำระอากรแสตมป์มี 3 วิธี  คือ ใช้แสตมป์ปิดทับ หรือใช้แสตมป์ดุน หรือเสียเป็นตัวเงิน

ตราสารบางลักษณะกฎหมายกำหนดให้ชำระอากรแสตมป์เป็นตัวเงินเท่านั้น ไม่สามารถใช้อากรแสตมป์ปิดทับบนตราสารได้ แต่ถ้าตราสารใดกฎหมายไม่ได้กำหนดให้ชำระเป็นตัวเงิน สามารถชำระเป็นตัวเงิน หรือใช้อากรแสตมป์ปิดทับบนตราสารได้

ตราสารที่ต้องชำระอากรแสตมป์เป็นตัวเงิน สรุปได้ดังนี้

การจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ให้ชำระอากรแสตมป์ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้รับจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมในขณะที่จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมที่กรมที่ดิน หรือชำระกับเจ้าพนักงานบังคับคดี กรมบังคับคดี กรณีขายทอดตลาดอสังหาริมทรัพย์

ตราสารเช็ค ตั๋วแลกเงิน ให้ธนาคารซึ่งเป็นผู้รับชำระเงินค่าอากรแสตมป์จากผู้ที่ต้องเสีย แล้วนำส่งสำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาในท้องที่เดือนละ 2  งวด กรณีรับชำระค่าอากรแสตมป์จากผู้ที่ต้องเสีย ตั้งแต่วันที่ 1-15 ของเดือน ให้นำส่งฯ ภายในวันที่ 22 ของเดือนนั้น แต่ถ้ารับชำระค่าอากรแสตมป์ตั้งแต่วันที่ 16-วันสิ้นเดือน ให้นำส่งฯ ภายในวันที่ 7 ของเดือนถัดไป

ตราสารใบหุ้นหรือหุ้นกู้ที่บริษัทได้ออกและมีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นนายทะเบียนหุ้น โดยที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นผู้รับชำระค่าอากรแสตมป์จากผู้ที่ต้องเสีย แล้วนำส่งสำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขา กำหนดเวลานำส่งเช่นเดียวกับตราสารเช็ค   ตั๋วแลกเงิน   

ตราสารตั๋วสัญญาใช้เงินที่บริษัทเงินทุนหรือบริษัทเครดิต
ฟองซิเอร์เป็นผู้ออกให้ผู้ออกตั๋วสัญญาใช้เงินชำระค่าอากรแสตมป์ พร้อมนำส่งสำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขา กำหนดเวลานำส่งเช่นเดียวกับตราสารเช็ค ตั๋วแลกเงิน   

ตราสารใบรับสำหรับการขายฝากหรือโอนกรรมสิทธิ์ล้อเลื่อนหรือรถ ซึ่งมีการจดทะเบียนตามกฎหมาย ให้เสียต่อพนักงานเจ้าหน้าที่หรือนายทะเบียนผู้รับจดทะเบียนก่อนหรือวันที่มีการรับจดทะเบียน ณ กรมการขนส่งทางบก

ตราสารอื่นๆ เช่น การเช่าที่ดิน โรงเรือน สิ่งปลูกสร้างอย่างอื่น หรือแพ ที่มีค่าเช่าตั้งแต่  1  ล้านบาทขึ้นไป, การเช่าที่ดิน ฯลฯ กรณีรัฐบาล องค์การของรัฐบาล เทศบาล องค์การบริหารราชการส่วนท้องถิ่นเป็นผู้เช่า, การเช่าที่ดิน ฯลฯ กรณีที่ต้องจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้รับจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามประมวลกฎหมายที่ดิน, การจ้างทำของ ที่มีสินจ้างตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป, การจ้างทำของเฉพาะที่รัฐบาล องค์การของรัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นผู้ว่าจ้าง และมีวงเงินค่าจ้างตั้งแต่ 200,000 บาทขึ้นไป, การเช่าซื้อทรัพย์สินเฉพาะที่ธนาคาร บริษัทประกันภัย บริษัทเงินทุนและบริษัทเครดิต ฟองซิเอร์เป็นผู้ให้เช่าซื้อทรัพย์สิน, การกู้ยืมเงินหรือการตกลงให้เบิกเงินเกินบัญชีจากธนาคาร,  กรมธรรม์ประกันภัย, ตั๋วสัญญาใช้เงินหรือตราสารทำนองเดียวกันที่ใช้อย่างตั๋วสัญญาใช้เงิน, เลตเตอร์ออฟเครดิต, ใบรับของเฉพาะกิจการรับขนส่งทางอากาศ, ค้ำประกัน, คู่ฉบับหรือคู่ฉีกแห่งตราสาร, และใบรับสำหรับการขายเรือกำปั่น เรือที่มีระวางตั้งแต่ 6 ตันขึ้นไป เรือกลไฟ หรือเรือยนต์ที่มีระวางตั้งแต่ 5 ตันขึ้นไป 

ท่านสามารถศึกษาได้จากประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่่ยวกับอากรแสตมป์ ฉบับที่  37 

สวัสดีครับ