"คงคาเฟอร์นิเจอร์"ชูศิลปะจีนมัดใจลูกค้า

โดย...วราภรณ์ เทียนเงิน

หนึ่งในแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ไม้ฝังมุก และเป็นตำนานที่อยู่ในประเทศไทยร่วม 38 ปีแล้วคือ “คงคาเฟอร์นิเจอร์” แบรนด์นี้มุ่งดีไซน์เฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้นที่ผสมทั้งศิลปะ วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์จีน และลวดลายแบบแฮนด์เมด ทำให้สินค้าได้รับความนิยมยาวนาน ทั้งในประเทศไทยและตลาดต่างประเทศ

“มาดี เลิศขจรสุข” หนึ่งในผู้บริหาร บริษัท คงคาเฟอร์นิเจอร์ ผู้ประกอบธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ไม้ฝังมุก แบรนด์ “คงคาเฟอร์นิเจอร์” (Kongka Furniture) เปิดเผยว่า แบรนด์อยู่ในตลาดมานานกว่า 38 ปีแล้ว โดยเริ่มธุรกิจจากรุ่นคุณพ่อที่พัฒนาดัดแปลงจากรุ่นคุณปู่ มีสาขาแรกอยู่ที่เยาวราช และขณะนี้ตนเองได้เข้ามาช่วยบริหารธุรกิจ จุดเด่นสำคัญของแบรนด์คือ การดีไซน์สินค้าที่มีเอกลักษณ์ คุณภาพสินค้าที่ใช้งานคงทน

การออกแบบสินค้าที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์มาจากทีมดีไซน์จำนวน 3 คนของแบรนด์ ที่มีความเชี่ยวชาญแตกต่างกัน ดีไซเนอร์คนแรกที่มีความเชี่ยวชาญประวัติศาสตร์จีน ดีไซเนอร์คนที่สองเน้นด้านฟังก์ชั่นการใช้งาน ออกแบบที่ผสมทั้งแบบคลาสสิกและแบบสมัยใหม่ และดีไซเนอร์คนที่สามจะออกแบบลวดลายแบบฝังมุก ที่แต่ละลวดลายจะมีเอกลักษณ์ที่ไม่ซ้ำกัน

ซึ่งทีมดีไซเนอร์สามคนจะทำงานร่วมกัน ทำให้สินค้าแต่ละแบบมีดีไซน์ ลวดลายสวยงามและมีเสน่ห์ทุกชิ้น รวมทั้งสินค้ามีศิลปะและวัฒนธรรมของจีนผสมอยู่ เพราะช่างที่แกะสลักสืบทอดมาจากประเทศจีน ซึ่งได้สืบทอดการแกะสลักมาจากราชวงศ์ในประเทศจีน จึงถือว่าแบรนด์อยู่ในประเทศไทยยาวนานที่สุด โดยได้รับความนิยมจากลูกค้าไทยและชาวจีนสูงมาก

หากไปสำรวจตลาดในประเทศจีน จะพบว่า มีแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ฝังมุกกว่า 100 แบรนด์ โดยชาวจีนถือว่าเฟอร์นิเจอร์ไม้ฝังมุกเป็นอารยธรรมดั้งเดิมของจีน แสดงถึงการส่งเสริมฐานะ และเป็นการลงทุน เพราะไม้ที่นำมาผลิตเฟอร์นิเจอร์เป็นไม้หายาก และราคาสูงขึ้นทุกปี อีกทั้งบริษัทมีสาขาของตัวแทนจำหน่ายที่เมืองเซี่ยงไฮ้ โดยราคาสินค้าของคงคา เฟอร์นิเจอร์ถูกกว่าแบรนด์ในประเทศจีนประมาณ 1.5 เท่า เพราะอยู่ใกล้แหล่งวัตถุดิบ

นอกจากนี้ บริษัทมีการส่งออกสินค้าไปในประเทศแถบยุโรป สหรัฐ และอินเดีย สัดส่วนยอดขายมาจากตลาดในประเทศ 60% และต่างประเทศ 40% ส่วนลูกค้าในประเทศจะเป็นเจ้าของธุรกิจ องค์กร ลูกค้าทั่วไป และกลุ่มคนรักศิลปะ โดยทุกคนจะพูดว่า แบรนด์คงคาไม่ได้ขายแค่เฟอร์นิเจอร์ แต่คงคาขายศิลปะในงานทุกชิ้น

ส่วนในประเทศมีช็อปจำนวน 6 แห่ง ได้แก่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ เซ็นทรัล บางนา ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ (ซีดีซี) และเยาวราช โดยสินค้าเฟอร์นิเจอร์มีกว่า 200 แบบในแต่ละปี ก็จะออกคอล
เลกชั่นใหม่ 5 ชุด รวมทั้งมีบริการให้ลูกค้าสั่งซื้อสินค้าผ่านออนไลน์ และบริการหลังการขาย เป็นจุดแข็งที่เสริมบริการและการดูแลที่ดีแก่ลูกค้า ทำให้มีลูกค้าประจำที่ซื้อสินค้าต่อเนื่อง

“มาดี” กล่าวถึงการแข่งขันในตลาดเฟอร์นิเจอร์ไม้ฝังมุก ถือว่าไม่รุนแรง เพราะเป็นตลาดเฉพาะกลุ่ม (นิชมาร์เก็ต) ที่มีลูกค้าชัดเจน แต่ความท้าทายขององค์กรคือ การแข่งขันกับตัวเองเรื่องวัตถุดิบและช่างฝีมือ เพราะไม้ที่นำมาใช้เพื่อผลิตคงคาเฟอร์นิเจอร์หายาก และต้องใช้ไม้เนื้อแข็ง เช่น ชุดรับแขกแบบที่ช่างอาจารย์ทำชุดหนึ่งเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว ราคาประมาณ 1 ล้านบาท แต่ปัจจุบันราคาอยู่ที่ 7 ล้านบาท สาเหตุหลักจากไม้และช่างฝีมือ

ซึ่งจากการที่แบรนด์ได้รับความนิยมมายาวนาน มีกระบวนการผลิตที่ประณีต จึงได้รับความสนใจจากรายการระดับโลกคือ Discovery Channel มาถ่ายทำขั้นตอนการผลิตสินค้าเฟอร์นิเจอร์ฝังมุกที่ประเทศไทยและที่โรงงานของบริษัทที่ บางใหญ่ ช่วงเดือน มิ.ย.นี้ และนำไปออกในช่วงรายการ “How it’s made” ที่จะออกอากาศทั่วโลก รวม 180 ประเทศ และแปลเป็นภาษาต่างๆ 36 ภาษา เชื่อว่าจะสร้างแบรนด์ให้ทั่วโลกรู้จักมากขึ้น

“ลูกค้าทุกคนเมื่อใช้เฟอร์นิเจอร์ก็จะชอบและรักแบรนด์ รวมถึงพนักงานทุกคนก็อยู่ในองค์กรยาวนาน โดยทุกคนทำงานในองค์กรต้องมีความสุขซึ่งเป็นเรื่องที่คุณพ่อปลูกฝังมาตลอด” มาดี กล่าว

แผนของแบรนด์ต่อไปจะขยายลูกค้าไปยังคนรุ่นใหม่เพื่อเพิ่มลูกค้าให้กว้างขึ้น แต่คงเอกลักษณ์ของแบรนด์คือ คลาสสิกและโมเดิร์น ส่วนระยะยาวเตรียมเปิดช็อปในเมืองใหญ่ๆ ของโลก