แผ่นประคบทุ่งทรายทอง สมุนไพรผสานผ้าไหม
สมุนไพรไทยนั้นเลื่องชื่อ เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย รวมทั้งในต่างประเทศ จากจุดเด่นของสมุนไพรไทย
โดย...อชัถยา ชื่นนิรันดร์
สมุนไพรไทยนั้นเลื่องชื่อ เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย รวมทั้งในต่างประเทศ จากจุดเด่นของสมุนไพรไทย ผสานกับความประณีตพิถีพิถันของการทอผ้าไหมไทย ก็ทำให้เกิดผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เป็นนวัตกรรม แผ่นประคบร้อนผ้าไหม ซึ่งใช้เป็นส่วนประกอบของการแต่งกายได้อย่างลงตัว
พนารัตน์ กิตติกูล รองประธานกลุ่มผู้บริหารการตลาดวิสาหกิจชุมชนกลุ่มสมุนไพรไทยทุ่งทรายทอง ต.หนองพยอม อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร เล่าถึงที่มาของแผ่นประคบร้อนผ้าไหม ในแบรนด์ “ทุ่งทรายทอง” ว่า ชาวบ้านรวมตัวกันตั้งแต่ปี 2542 เริ่มจากสมาชิก 22 คน จำหน่ายสินค้าประเภทแผ่นสมุนไพรประคบร้อนทุ่งทรายทอง จากวิถีภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ
“ทุ่งทรายทองมีแผ่นสมุนไพรประคบร้อนที่เอว ที่ไหล่ บ่าหลัง ที่มือและเท้า ใช้ผ้าคอตตอนและผ้าไหมประดิษฐ์ ยังมีลูกประคบ อบตัว กระโจม ส่วนประกอบสำคัญ เมล็ดธัญพืช ไพล ตะไคร้ พิมเสน การบูร และสมุนไพรอื่นๆ ใช้สำหรับประคบร่างกายประกอบการนวดเพื่อการผ่อนคลายความอุ่นของแผ่นประคบจะช่วยให้รู้สึกสบาย และกลิ่นหอมของสมุนไพรช่วยให้ความรู้สึกสดชื่นและผ่อนคลาย”
วิธีใช้แผ่นสมุนไพรประคบร้อน คือ เปิดปากถุงพลาสติกซึ่งบรรจุแผ่นสมุนไพรประคบร้อนนำถุงที่เปิดปากแล้ววางในไมโครเวฟ ตั้งอุณหภูมิตามที่ระบุไว้ จากนั้นนำแผ่นสมุนไพรประคบบริเวณที่ต้องการจนแผ่นประคบหมดความร้อน และสามารถนำไปอบเพื่อประคบได้อีกตามต้องการ
พนารัตน์ บอกว่า การทำตลาดร่วมกับกรมพัฒนาชุมชนและหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องออกบูธกันทั่วประเทศและต่างประเทศ เช่น ที่ประเทศจีน อินโดนีเซีย และพม่า เมื่อทำการตลาดเป็นเวลานานทำให้สินค้า
เป็นที่รู้จักแพร่หลาย และเป็นที่ต้องการของตลาดโดยเฉพาะกลุ่มคนรักสุขภาพและเปิดจำหน่ายทางเว็บไซต์ www.saithongherb.com
“นอกจากนี้ ยังส่งออกไปที่ประเทศญี่ปุ่น คูเวต และฮ่องกง การส่งออกที่ประเทศญี่ปุ่นเริ่มมา 7 ปีแล้ว สร้างรายได้ให้ชาวบ้าน กลุ่มชุมชนมีรายได้ตั้งแต่การปลูกสมุนไพรนำมาส่ง มีรายได้กันมากขึ้นเฉลี่ยคนละไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นบาท/เดือน”
พนารัตน์ บอกว่า การทำธุรกิจของกลุ่มเน้นการทำธุรกิจแบบพอเพียงไม่เป็นหนี้ ยึดพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาใช้ทำธุรกิจเศรษฐกิจแบบพอเพียง
เอกลักษณ์เด่นของสินค้าจะใช้ผ้าไหมประดิษฐ์ด้วยเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าสวยงาม เป็นสินค้าเด่นของไทย ราคาสินค้าตั้งแต่ 850-1,300 บาท
สำหรับแนวโน้มการเติบโตของตลาดดีขึ้นเรื่อยๆ กำลังการผลิตวันละ 200-500 ชิ้น และมีความพร้อมมีวัตถุดิบ มีกำลังคนพร้อมในการผลิตรองรับตลาดอาเซียนได้เป็นอย่างดี รวมทั้งจะขยายตลาดในกลุ่มอาเซียนด้วย


