'มงคลทิพย์'กระจูดเดคูพาจ สินค้าพื้นบ้านสู่อินเตอร์

โดย...อชัถยา ชื่นนิรันดร์

คนภาคใต้นั้นรู้จักสิ่งของเครื่องใช้ซึ่งทำจาก “กระจูด” พืชตระกูลเดียวกับกก มายาวนาน ไม่ว่าจะสานเป็นเสื่อรองนั่ง หรือทำกระเป๋า รวมทั้งของใช้อื่นๆ ในอดีตการสานกระจูดอาจไม่ใช่อาชีพที่สร้างรายได้หลัก แต่เป็นงานอดิเรก ยามว่างจากงานหลักในเรือกสวน ไร่ นา หรืออาชีพประมงแต่ปัจจุบันของใช้จากกระจูด โดยเฉพาะกระเป๋าสาน กระเป๋าถือ หมวก กล่องบรรจุของ กลายเป็นสินค้าที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย ยิ่งการนำมาผสมผสานกับการนำกระดาษภาพต่างๆ หรือเดคูพาจทับลงไปในลายกระจูด ยิ่งทำให้ผลิตภัณฑ์จากกระจูดมีความสวยงามมากยิ่งขึ้น

จุฑาทิพย์ รองพล ผู้บริหาร กระจูดมงคลทิพย์ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ซึ่งขยายตลาดผลิตภัณฑ์กระเป๋ากระจูดออกไปอย่างแพร่หลาย บอกว่า ปัจจุบันตลาดตอบรับผลิตภัณฑ์ดีมาก โดยกระจูดมงคลทิพย์นั้นเริ่มต้นธุรกิจมาได้เพียงแค่ 3 ปีเท่านั้น

“ต้นกระจูดเป็นพืชท้องถิ่นขึ้นเองตามธรรมชาติ  แหล่งใหญ่อยู่ที่ จ.นครศรีธรรมราช และขยายฐานการผลิตมาที่ ภูเก็ต  มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การออกแบบ ให้มีรูปแบบแตกต่างจากตลาดทั่วไป เน้นลวดลาย สีสัน ราคาตั้งแต่ 25 บาท ถึง 1,400 บาท”

จุฑาทิพย์ บอกว่า ตลาดหลักของเธอคือร้านขายของที่ระลึก แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของภูเก็ต เกาะพีพี เกาะลันตา จ.กระบี่ และเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี โดยลูกค้าส่วนใหญ่ 80% เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ ส่วนลูกค้าคนไทยมีเพียง 20% เท่านั้น แต่หลังจากที่เธอขยายตลาดส่งขายไปยังพื้นที่ภาคอีสานที่ จ.หนองคาย อำนาจเจริญ ก็พบว่า การตอบรับดีเช่นกัน

“สินค้าประเภทเดคูพาจ นักท่องเที่ยวชาวจีนและญี่ปุ่น จะชื่นชอบอย่างมาก เพราะเป็นงานฝีมือคนไทยที่มีความละเอียดอ่อน ประณีต วัสดุพื้นบ้านของไทย ลวดลายสีสัน สดใส ถูกใจ ลูกค้ากลุ่มนี้นิยมซื้้อสินค้าประเภทกระเป๋าสตางค์ กระเป่าถือสตรี ส่วนตลาดยุโรป จะชอบ สินค้าที่ไม่มีลวดลาย ชอบแบบดั้งเดิม”

นอกจากการผลิตแล้วจุฑาทิพย์ยังเปิดบ้านที่ ต.สาคู อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ให้เป็นศูนย์เรียนรู้ในการศึกษาดูงานของ สถานศึกษา ส่วนราชการต่างๆ รวมทั้งนักท่องเที่ยวที่สนใจ ซึ่งสร้างความประทับใจให้กับผู้มาเยือนและอุดหนุนผลิตภัณฑ์กระจูดของเธอที่มีอยู่หลายชนิด ซึ่งทุกชิ้นการันตีว่าไม่นำของไม่ดี ผลิตแบบไม่มีคุณภาพมาขายอย่างเด็ดขาด เพราะต้องการรักษาชื่อเสียง และทำให้แบรนด์มงคลทิพย์ ได้รับความเชื่อถือ