ไทม์ทูบีแฮปปี้ทราเวล ตั้งเป้าเซียนเอเชียใต้

โดย...จารุพันธ์ จิระรัชนิรมย์

หลายๆ คนอาจมองว่าธุรกิจนำเที่ยวคงจะใกล้ไปถึงจุดอวสานทุกที ในเมื่อคนรุ่นใหม่หันมาเดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเองกันหมดแล้ว อนาคตจะยังเหลือลูกค้าที่ไหนใช้บริการบริษัทนำเที่ยวอีก

แต่ในความเป็นจริงแล้วแม้จะมีกลุ่มคนที่เดินทางเอง ทุกยุคทุกสมัยก็ยังมีกลุ่มที่ต้องการความสะดวก โดยเฉพาะการเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางที่ระบบสาธารณูปโภคยังไม่เอื้ออำนวยต่อการเดินทางเอง การดำเนินการต่างๆ ด้วยตัวเองทำได้ยาก จึงต้องการบริษัทนำเที่ยวมาคอยดูแลจัดการการเดินทางทุกอย่างให้อยู่

บุณยาพร เสนามนตรี เจ้าของบริษัท ไทม์ ทูบี แฮปปี้ ทราเวล วัย 29 ปี เปิดเผยว่า เรียนจบคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  และเคยเป็นผู้ช่วยทนายความ แต่สุดท้ายแล้วก็ตัดสินใจเปลี่ยนแนวมาทำบริษัทนำเที่ยวแทน เนื่องจากชอบเดินทางและหลังเดินทางไปทางอินเดียและเนปาลบ่อยครั้ง ได้เห็นวิถีชีวิตของผู้คน เชื่อว่าหากคนอื่นได้มาสัมผัสก็จะรู้สึกเข้าใจกับชีวิตมากขึ้น โดยจดทะเบียนเปิดบริษัทนำเที่ยว พร้อมวางเงินหลักประกันไว้ตามเกณฑ์ที่กำหนดวันที่ 27 พ.ค. 2557 ภายใต้ชื่อ บริษัท ไทม์ ทูบี แฮปปี้ ทราเวล

“หลังตัดสินใจเปิดบริษัทนำเที่ยวก็ได้ไปลงเรียนและสอบเป็นมัคคุเทศก์อย่างถูกต้อง เมื่อเปิดบริษัทแล้วก็เน้นนำเที่ยวด้วยตัวเองทุกทริป เป็นคนจัดการเรื่องต่างๆ เกือบทุกอย่าง ทำให้ต้นทุนการดำเนินธุรกิจไม่สูงมาก” บุณยาพร กล่าว

แนวทางที่วางไว้คือ จะเป็นบริษัทนำเที่ยวที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะในภูมิภาคเอเชียใต้ เริ่มต้นจากอินเดียและเนปาลที่ถนัดก่อน อย่างไรก็ตามจากเหตุแผ่นดินไหวในเนปาลที่ผ่านมา ทำให้บริษัทต้องยกเลิกการจัดนำเที่ยวไปเนปาล 2 กรุ๊ป ซึ่งก็คืนเงินลูกค้าไปทั้งหมดแล้ว และคาดว่าคงต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 3 ปี การท่องเที่ยวทั่วไปในเนปาลจึงจะกลับมาเป็นปกติ เดินทางได้สะดวก เหลือเพียงการเดินทางไปปีนเขาที่เนปาลที่คาดว่าจะเริ่มจัดได้อีกครั้งในเดือน ต.ค. ซึ่งจะเป็นช่วงเริ่มต้นฤดูกาลปีนเขา ก็คาดว่าจะเริ่มกลับไปจัดนำเที่ยวปีนเขาที่เนปาล เพื่อเป็นการช่วยเหลือการท่องเที่ยวเนปาลอีกทางหนึ่ง

ขณะเดียวกันในช่วงที่จุดหมายเนปาลกำลังประสบปัญหา บริษัทก็ให้ความสำคัญกับการโปรโมทโปรแกรมท่องเที่ยวจุดหมายอื่นมากขึ้น เช่น อินเดียในเมืองใหม่ๆ ภูฏาน ศรีลังกา รวมถึงการไปหาพันธมิตรโรงแรมและสายการบินในมัลดีฟส์ เพื่อให้บริการจำหน่ายตั๋วเครื่องบิน พร้อมที่พัก สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางไปมัลดีฟส์ และการให้น้ำหนักจัดนำเที่ยวพม่าในรูปแบบการทำทัวร์สำหรับกลุ่มส่วนตัวมากขึ้น

บุณยาพร กล่าวว่า แนวทางการทำตลาดของบริษัทคือ จะเน้นช่องทางติดต่อบริษัทของเพื่อน คนรู้จัก เพื่อนพ่อ เพื่อนแม่ อาศัยเรื่องปากต่อปากจากคนใกล้ตัวเป็นหลัก และอีกส่วนได้ใช้งบทำตลาดกว่า 3 แสนบาท ในการนำแบรนด์บริษัท โปรแกรมท่องเที่ยวไปโฆษณาตามช่องทางออนไลน์ต่างๆ ที่มีคนเข้าไปชมมากๆ การออกงานท่องเที่ยวเพื่อให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ซึ่งปีนี้ได้ไปออกงานเที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลกที่จัดไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา และปีหน้าก็จะไปออกงานนี้อีกครั้ง ซึ่งเมื่อมีลูกค้ามาใช้บริการแล้ว ก็จะเน้นให้บริการลูกค้าอย่างดีที่สุด เพื่อที่เขาเหล่านั้นจะได้บอกต่อไปยังคนอื่นๆ นำฐานลูกค้าใหม่เข้ามา

“หลักๆ แล้วจะพยายามวางแผนจัดการเดินทางไปแต่ละครั้งไม่เกินกลุ่มละ 16 คน เพราะเข้าใจดีว่าประเทศที่เน้นจัดทัวร์ไปหาห้องน้ำยาก หากมีคนไปมากเกินไป อาจไม่มีความสุข เพราะต้องเดินทางช้าลง เนื่องจากแต่ละคนก็อยากเข้าห้องน้ำในเวลาที่ต่างกัน”

ทั้งนี้ วางเป้าหมายของการทำทัวร์ว่า หากจัดกลุ่มออกเดินทางได้เดือนละ 2 ครั้งก็พอใจแล้ว ไม่ได้คาดหวังการกอบโกยกำไรมากเป็นเรื่องสำคัญ แต่ต้องการได้รับพลังความสุขจากการที่เราพาคนอื่นไปเที่ยวแล้วคนอื่นมีความสุข ส่วนกำไรนั้นเป็นผลพลอยได้ที่ตามมา เบื้องต้นวางเป้าหมายไว้ว่า ปีนี้ธุรกิจจะคุ้มทุน และจะเริ่มมีกำไรบ้างในปี 2559 ส่วนจำนวนลูกค้าปี 2559 น่าจะเพิ่มขึ้น 100% จากปีนี้

สำหรับหลักสำคัญที่ยึดถือคือ แม้จำนวนผู้ร่วมเดินทางจะไม่ถึงตามเป้าหมาย แต่หากคำนวณค่าใช้จ่ายแล้วไม่ขาดทุนก็จะออกทริปทันที ขณะที่หลักการเลือกสายการบินจะใช้สายการบินที่ให้บริการเต็มรูปแบบ (ฟูล เซอร์วิส) พักในระดับใกล้เคียง 4 ดาว หรือดีที่สุดในพื้นที่นั้น ราคาที่นำเสนอเมื่อเทียบกับบริษัทนำเที่ยวในตลาดที่ใช้สายการบินเดียวกัน โปรแกรมเดินทางคล้ายกัน ถือว่าถูกที่สุด เป็นเพราะเป็นมัคคุเทศก์เอง เป็นเจ้าของบริษัทนำเที่ยวจัดการทุกอย่างเอง ทำให้ต้นทุนไม่สูง ต่างจากบริษัทนำเที่ยวอื่นที่ต้องจ้างเจ้าหน้าที่มาดูแลลูกค้าอีกทอดจึงมีต้นทุนสูงกว่า

ด้านแนวทางที่ใช้ในการทำธุรกิจ บริษัทนำเที่ยวก็คือ ซื่อสัตย์ พูดอย่างไรออกไปต้องทำให้ได้อย่างนั้น ทำให้ดีที่สุดแล้วหากคนสนใจการท่องเที่ยวแบบที่เราทำ ก็จะมาหาเราเอง ขณะที่การใช้ชีวิตแม้จะต้องประหยัดขึ้นเพราะรายได้ที่เข้ามาไม่ได้แน่นอนทุกเดือน แต่ก็ยินดี เพราะเป็นหนทางที่เลือกแล้ว

จัดเป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรงที่ตบเท้าเข้ามาสู่ธุรกิจบริษัทนำเที่ยวด้วยใจรัก ซึ่งการทำอะไรด้วยใจรักมักได้ผลดี แต่สิ่งสำคัญคือต้องรักษาคุณภาพและมาตรฐานเอาไว้ให้ดีที่สุด นานที่สุดเท่าที่จะทำได้