‘ซีเอฟโอ คู่ใจอาณาจักร WHA’

โดย...พณิตศรณ์ หวังจงชัยชนะ

กว่า “อรรถวิทย์ เฉลิมทรัพยากร” จะก้าวขึ้นมาเป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (ซีเอฟโอ) คู่ใจของหมอสมยศ อนันตประยูร ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) ไม่ได้ง่ายแต่ก็ไม่ยากเกินความสามารถของเขา

“อรรถวิทย์” เริ่มต้นด้วยการเป็นวาณิชธนากร (ไอบี) กับบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กิมเอ็ง เมื่อปี 2544 ซึ่งขณะนั้นเพิ่งควบรวมกิจการกับ บล.หยวนต้า มาหมาดๆ และอยู่ภายใต้การขับเคลื่อนของ “มนตรี ศรไพศาล” ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับประเทศเพิ่งหายบอบช้ำจากวิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้งเมื่อปี 2540 ทำให้มีงานด้านวาณิชธนกิจเข้ามาให้ได้เรียนรู้อย่างหลากหลาย

ไม่ว่าจะเป็นการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้ลูกค้าระดมทุนทั้งตลาดทุนและตลาดตราสารหนี้ผ่านการเสนอขายหุ้นเข้าตลาดหลักทรัพย์ต่อประชาชนครั้งแรก (ไอพีโอ) และหุ้นกู้ การรวมกิจการเพื่อขยายให้ธุรกิจมีขนาดใหญ่ขึ้น ทำให้ “อรรถวิทย์” ได้มีโอกาสเรียนรู้การทำงานจากประสบการณ์จริง นับเป็นครูชั้นยอดและเยี่ยมกว่าการนั่งเรียนรู้จากเอกสาร

“อรรถวิทย์” ยอมรับว่าเป็นประสบการณ์ที่ดี เพราะ “มนตรี” ได้สอนการทำงานด้านไอบีแบบไม่มีแทงกั๊ก และยังได้เรียนรู้วิชาบริหารคน การดูแลลูกน้อง การรับมือกับปัญหาเฉพาะหน้า การควบคุมสถาน การณ์ต่างๆ และนำวิชาเหล่านี้มาปรับใช้กับการทำงานใน WHA อีกด้วย

ถึงจะทำงาน กับกิมเอ็งด้วยดี แต่ด้วยอุปนิสัยส่วนตัวชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และเป็นจังหวะเดียวกับที่ธนาคารกสิกรไทยเปิดสายงานใหม่ขึ้นมาเพื่อดูแลผลิตภัณฑ์โดยภาพรวม และต้องการคนที่มีประสบการณ์ด้านไอบีมาก่อน “อรรถวิทย์” จึงตัดสินใจไปร่วมงานกับธนาคารกสิกรไทย แต่ทำได้ 6-7 เดือนเท่านั้น

เขาบอกว่าเป็นงานที่มีกรอบการทำงาน ซึ่งขัดกับนิสัยส่วนตัวที่ชอบคิดนอกกรอบ ทำให้ตัดสินใจหวนกลับคืนวงการไอบีอีกครั้ง ซึ่งขณะนั้น “บุญชัย ศรีปรัชญาอนันต์” เริ่มต้นปลุกปั้น บล.กรุงไทย และได้ชักชวนให้มาร่วมงาน หลังจากนั้นยังได้มีโอกาสไปร่วมงานด้านไอบี กับ บล.ซีไอเอ็มบี ซึ่งมี “สิทธิไชย มหาคุณ” ดูแลสายงานไอบีในขณะนั้น

ในจังหวะนั้นเองธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) อยู่ระหว่างขยายงานด้านวาณิชธนกิจ เพื่อตอบโจทย์ความเป็นธนาคารพาณิชย์ให้บริการแบบครบวงจร (ยูนิเวอร์แซล แบงก์กิ้ง) จึงได้ย้ายมาทำงานฝ่ายไอบีของที่นี่ และที่ SCB นี่เองทำให้มีโอกาสได้รู้จักกับ “คุณหมอสมยศ อนันตประยูร” ประธานกรรมการ WHA เพื่อช่วยในการเสนอขายกองทุนอสังหาริมทรัพย์ และท้ายที่สุดคุณหมอสมยศได้ชักชวนให้มา
ร่วมงาน

“ความต่างระหว่างการเป็นไอบี กับการเป็นผู้บริหาร WHA อยู่ตรงที่งานไอบีนั้นดูแลเป็นธุรกรรมไป ส่วนผู้บริหารต้องอยู่กับบริษัทตลอดเวลา แต่มีความเหมือนตรงที่ว่าทุกงานจะต้องทำเต็มที่”

ข้อดีของการเป็นไอบีก่อนจะมาเป็นผู้บริหาร ทำให้รู้มุมมองของฝั่งที่ปรึกษาทางการเงิน และสามารถต่อรองให้บริษัทได้ประโยชน์ ขณะเดียวกันไม่ทำให้ฝั่งสถาบันการเงินเสียประโยชน์เกินไป เรียกได้ว่า win-win ทั้งสองฝ่าย เพื่อรักษาความสัมพันธ์ในระยะยาว เพราะบริษัทยังต้องพึ่งพาธนาคารพาณิชย์อีก

นอกจากนี้ ยังคงใช้ทักษะและประสบการณ์ของการเป็นไอบีมาใช้ใน WHA ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนการเงิน การบริหารการเงิน หรือแม้แต่การเข้าไปซื้อกิจการทั้งในส่วนของบริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน (HEMRAJ) และการเข้าไปร่วมทุนกับกลุ่มเคพีเอ็นที่แทบจะไม่ต้องว่าจ้างที่ปรึกษาการเงินเข้ามาช่วย