posttoday

บูติกโฮเต็ลยังแรง โรงแรมนานาชาติแห่ชิง

05 พฤษภาคม 2558

โรงแรมให้ความสำคัญเรื่องการออกแบบมากและเลือกให้ตัวเองเป็นบูติก โฮเต็ลมากขึ้น แทนที่จะเป็นโรงแรมมาตรฐานสากล

โดย...จารุพันธ์ จิระรัชนิรมย์

การใช้บริการโรงแรมในอดีตไม่ได้คำนึงเรื่องการออกแบบตกแต่งมากนัก แต่ในยุคนี้ที่พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน อยากมีประสบการณ์ท่องเที่ยวเฉพาะตัวไม่ซ้ำใคร จึงต้องการพักโรงแรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ (บูติก โฮเต็ล) มากขึ้น โรงแรมจึงให้ความสำคัญเรื่องการออกแบบมากและเลือกให้ตัวเองเป็นบูติก โฮเต็ลมากขึ้น แทนที่จะเป็นโรงแรมมาตรฐานสากลที่มีทุกสิ่งทุกอย่างในโรงแรมแบรนด์เดียวกันเหมือนกันทุกที่

บูติก โฮเต็ลให้ความสำคัญเรื่องการออกแบบตกแต่งทั้งภายนอกและภายใน สิ่งของเครื่องใช้ในโรงแรม ครอบคลุมการออกแบบบริการที่บุคลากรในโรงแรมจะมอบให้ลูกค้า จำนวนห้องพักไม่มาก ซึ่งมากสุดไม่เกิน 200 ห้อง ปัจจุบันเครือโรงแรมระดับนานาชาติคลอดแบรนด์บูติก โฮเต็ลต่อเนื่อง ได้แก่ โฮเต็ล อินดิโก้ บูติก โฮเต็ล 5 ดาวของอินเตอร์คอนติเนนตัล โฮเต็ลส์ กรุ๊ป (ไอเอชจี) ไวบ์ บูติก โฮเต็ล ระดับกลาง 3-4 ดาว ของเบสท์ เวสเทิร์น อินเตอร์เนชั่นแนล และอลอฟท์ บูติก โฮเต็ล ระดับกลาง 3-4 ดาว ของ สตาร์วูด โฮเท็ล แอนด์ รีสอร์ท บางแบรนด์เปิดในไทยแล้ว ทำให้บูติก โฮเต็ล ไทยแท้ที่ไร้เครือข่ายต้องเผชิญการแข่งขันสาหัสขึ้น

สุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร กรรมการผู้จัดการ โรงแรมเอเชียและนายกสมาคมโรงแรมไทย กล่าวว่า การมีบูติก โฮเต็ลของเครือนานาชาติ มาเปิดในไทยอาจทำให้การแข่งขันในกลุ่มบูติก โฮเต็ลสูงขึ้นบ้าง สิ่งสำคัญที่จะทำให้ผู้ประกอบการไทยแข่งขันได้ก็คือ ผู้ประกอบการต้องหาจุดขายที่แตกต่างให้ได้ อาจต้องใช้เงินลงทุนทำอะไรในโรงแรมมากขึ้น แต่ก็จะทำให้ขายห้องพักได้ราคาสูงขึ้นเช่นกัน

“แบรนด์ระดับนานาชาติจะได้เปรียบเรื่องของการทำตลาด จากการมีเครือข่ายที่แข็งแกร่ง มีโรงแรมในทุกภูมิภาคทั่วโลก ทำให้ชื่อเสียงเป็นที่รู้จักดี แต่การลงทุนทำโรงแรมเพื่อเป็นแบรนด์ระดับนานาชาติก็สูงมาก เพราะต้องทำโรงแรมให้ได้มาตรฐานตามที่แบรนด์กำหนดและค่าจ้างบริหารสูง ขณะที่ไทยมีสถาปนิกเก่งๆ มีความคิดสร้างสรรค์แปลกใหม่ในการออกแบบอาคาร การตกแต่งภายใน ส่วนในแง่การบริการ ไทยก็ถือว่ามีความโดดเด่นมากเช่นกัน ดังนั้นผู้ประกอบการอาจใช้จุดเด่นเหล่านี้ให้เป็นประโยชน์ โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งแบรนด์ต่างชาติก็ได้” สุรพงษ์ กล่าว

ชนินทธ์ โทณวณิก กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า การที่เครือบริหารโรงแรมขนาดใหญ่หันมาทำแบรนด์บูติก โฮเต็ลกันนั้นเป็นเพราะต้องการขยายฐานลูกค้า อีกทั้งเครือโรงแรมระดับนานาชาติจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ต่างชาติ จึงต้องหาช่องทางขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ธุรกิจเติบโต อย่างไรก็ตามไม่กังวลกับการแข่งขันเพราะเชื่อว่าโรงแรมไทยมีศักยภาพสู้ได้

ม.ล.สุรวุฒิ ทองแถม รองประธานกรรมการอาวุโส ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ ผู้บริหารโรงแรมอมารี โอโซ และชามา กล่าวว่า เจ้าของโรงแรมบูติก โฮเต็ล รายเดี่ยวอาจจะแข่งขันยากขึ้น เพราะบูติก โฮเต็ลแบรนด์ระดับนานาชาติมีจุดเด่นเรื่องความน่าเชื่อถือของแบรนด์ และมีมูลค่าเพิ่ม หลังจากที่มีแบรนด์เหล่านี้เข้าไปลงทุนเปิดในพื้นที่ใดก็จะเกิดการลงทุนในพื้นที่แวดล้อมตามมาด้วย เช่น ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ ทำให้บูติก โฮเต็ล แบรนด์ใหญ่ยิ่งได้เปรียบ

ดังนั้น การเลือกไปใช้บริการเครือโรงแรมต่างๆ ที่รับบริหารจัดการโรงแรม โดยให้ใช้แบรนด์โรงแรมเดิมที่มีอยู่ได้ไม่จำเป็นต้องใช้แบรนด์ที่เครือมีก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะโรงแรมสามารถแข่งขันได้ดีขึ้นด้านต้นทุนซื้อวัตถุดิบจากการรวมซื้อกับเครือนั้น โดยแบรนด์เดิมยังอยู่

ชัชวาล ศูรางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารการตลาดและพัฒนาแบรนด์ เซเรนนาต้า โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท กรุ๊ป ซึ่งมีโรงแรมในเครือเป็นบูติก โฮเต็ล กล่าวว่า ยอมรับว่าด้านการตลาดอาจยังสู้แบรนด์ระดับนานาชาติไม่ได้ เพราะเครือข่ายน้อยกว่าแต่ก็พยายามเพิ่มความแข็งแกร่งในการทำตลาดออนไลน์อย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันมั่นใจในจุดแข็งเรื่องทำเลที่ตั้งของโรงแรม ผสมผสานกับการออกแบบที่สอดคล้องกับพื้นที่ ทำให้นักท่องเที่ยวเข้าใจแนวคิดของโรงแรมไม่ยาก เมื่อพักแล้วเกิดประสบการณ์ที่ดีทั้งโรงแรมและพื้นที่แวดล้อม

คนไทยมีความโดดเด่นเรื่องความคิดสร้างสรรค์อยู่แล้ว หากนำมาปรับใช้กับการทำบูติก โฮเต็ลให้โดดเด่นมากพอ ทั้งการออกแบบและบริการก็สู้ต่างชาติได้ไม่ยาก เพราะเรื่องการตลาดยุคนี้มีโลกออนไลน์ให้พึ่งพิงสำหรับขยายฐานลูกค้าทั่วโลกง่ายขึ้น

ข่าวล่าสุด

ศาลชั้นต้น พิพากษาประหารชีวิต “เชษฐ์ปาดัง” เลขานายกปาดังเบซาร์