ลีสซิ่งกสิกรทำใจ สินเชื่อโตต่ำ10%
ลีสซิ่งกสิกรไทยรับสภาพยอดขายรถป้ายแดงวูบ ปล่อยกู้ใหม่ต่ำกว่า 10% จับตาเอ็นพีแอลไม่ให้ปูดเพิ่ม
ลีสซิ่งกสิกรไทยรับสภาพยอดขายรถป้ายแดงวูบ ปล่อยกู้ใหม่ต่ำกว่า 10% จับตาเอ็นพีแอลไม่ให้ปูดเพิ่ม
นายสุรัตน์ ลีลาทวีวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย เปิดเผยว่า ช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมาบริษัทสามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท ต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 10% ซึ่งเป็นไปตามสภาพตลาดโดยรวมที่ยอดขายรถยนต์ใหม่เติบโตลดลงราว 10% แต่บริษัทก็ได้เพิ่มฐานลูกค้ารถบรรทุกที่เป็นองค์กรแทน โดยร่วมมือกับธนาคารกสิกรไทย เนื่องจากตลาดขนส่งหรือโลจิสติกส์ยังเติบโตได้ดีอยู่
อย่างไรก็ตาม หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ยังคงอยู่ที่ระดับเดิมประมาณ 1.21% แต่ปีนี้บริษัทห่วงว่าถ้าเศรษฐกิจยังเป็นอย่างนี้อยู่ ก็มีแนวโน้มที่เอ็นพีแอลอาจขยับขึ้นอีก ซึ่งบริษัทก็ต้องพยายามควบคุมให้ได้ และคงต้องรอดูสถานการณ์ในช่วงกลางปีนี้อีกครั้ง
“ปกติถ้าเอ็นพีแอลเข้ามามากก็ต้องนับจากช่วงที่ปล่อยกู้ไปแล้ว 1-1 ปีครึ่ง ซึ่งจากสถิติแล้วพบว่า ถ้าลูกค้าผ่อนค่างวดผ่านพ้นมาได้ตามนั้น ส่วนใหญ่จะผ่อนได้ต่อไปจนครบกำหนด หรือไม่ก็ยังขายรถได้ราคานำมาปิดบัญชีได้ ดังนั้น ช่วงที่ต้องจับตาเป็นพิเศษก็คงเป็นช่วงที่ปล่อยกู้ให้กับลูกค้าไปในช่วงปลายปี 2556 เพราะช่วงนั้นถือได้ว่าเศรษฐกิจยังไม่มีปัญหา ลูกค้ายังมีรายได้สูงอยู่ แต่ในปีที่ผ่านมาถึงปัจจุบันเศรษฐกิจเริ่มมีปัญหา รายได้อาจลดลง และส่งผลต่อการจ่ายค่างวดได้ เช่น กลุ่มค้าขาย กลุ่มเกษตรกร ชาวนา และชาวสวนยาง” นายสุรัตน์ กล่าว
นายสุรัตน์ กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทจึงต้องบริหารจัดการให้ดี โดยการติดตามหนี้ให้เร็วขึ้นและลดค่าใช้จ่าย เพื่อให้มีกำไรได้ตามเป้ามากที่สุด ขณะเดียวกัน การปล่อยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ
สินเชื่อเพื่อผู้แทนจำหน่ายหรือดีลเลอร์รถยนต์ และสินเชื่อรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ หรือบิ๊กไบค์ คาดว่าจะยังได้ตามเป้าอยู่ ส่วนตลาดรถยนต์มือสองยังไม่มีนโยบายเข้าไปปล่อยสินเชื่อ แม้ราคารถยนต์มือสองจะเริ่มกลับมานิ่งแล้วก็ตาม เนื่องจากยังมีความเสี่ยงสูงแม้ว่าจะได้รับดอกเบี้ยสูงก็ตาม
ทั้งนี้ ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อใหม่และสินเชื่อเช่าใช้รถยนต์ 71,796 ล้านบาท เพิ่มจากปีที่แล้ว 17.6% จะมียอดสินเชื่อคงค้างรวม 89,923 ล้านบาท บนฐานยอดขายรถใหม่ 9 แสนคันขึ้นไป


