เมอริส ปั้นน้ำดอกเกลือ เทียบแบรนด์หรูฝรั่งเศส
ถือเป็นตลาดที่เติบโตร้อนแรงสำหรับอุตสาหกรรมเครื่องสำอางจากสมุนไพร
โดย...วราภรณ์ เทียนเงิน
ถือเป็นตลาดที่เติบโตร้อนแรงสำหรับอุตสาหกรรมเครื่องสำอางจากสมุนไพร ที่ประเมินว่า ในตลาดโลกมีมูลค่ากว่า 2.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ จากตลาดรวมเครื่องสำอาง มูลค่ากว่า 3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ในอนาคต“กุศล สุขสินชาญกุล” กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท สยาม เมอริท โปรดักส์ ผู้ผลิตและทำตลาดผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและความงามแบรนด์“เมอริส” (Meris) เปิดเผยว่า บริษัทมุ่งเน้นนวัตกรรมมาสร้างสินค้า โดยนำสมุนไพรไทยมาผสมกับนวัตกรรม ได้สินค้าใหม่ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้น เพื่อสร้างความแตกต่างในตลาด
ล่าสุด ได้พัฒนาสินค้าจากน้ำดอกเกลือธรรมชาติ ซึ่งเชื่อว่าดอกเกลือ เป็นเกลือที่มีคุณภาพสูง ส่วนใหญ่นำมาสร้างผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและทำความสะอาดร่างกาย สร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้ากว่า 3 เท่า และเป็นไอเดียใหม่ในประเทศ โดยตั้งเป้าหมายจะสร้างแบรนด์ให้ก้าวสู่สินค้าระดับบน (พรีเมียม แบรนด์) เทียบเคียงกับผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจากทะเลของประเทศฝรั่งเศส
“การสร้างสินค้าใหม่ที่มีนวัตกรรม สิ่งสำคัญในช่วงแรก คือ ต้องทำความเข้าใจและสื่อสารกับผู้บริโภคถึงสินค้า เพราะน้ำดอกเกลือยังไม่มีใครทำมาก่อนในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา จึงต้องทำให้ผู้บริโภครู้จักสินค้า เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ซึ่งการแข่งขันในตลาดขณะนี้ยังไม่รุนแรง เพราะบริษัทเป็นแบรนด์เดียวที่นำน้ำดอกเกลือมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิว” กุศล กล่าว
สำหรับช่วงแรกเน้นทำตลาดผ่านเว็บไซต์ www.merisshop.com และสาขาของมะมาเฮิร์บ จำนวน 91 สาขาทั่วประเทศ ซึ่ง สยาม เมอริท เป็นบริษัทในเครือของ มะมาเฮิร์บ ที่พัฒนาผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร โดยมีผลิตภัณฑ์สเปรย์จากน้ำดอกเกลือผสมสมุนไพรและเซรั่มปลูกคิ้ว นำร่องบุกตลาด
กุศล กล่าวว่า บริษัทมุ่งลงทุนในการพัฒนาและลงทุนเทคโนโลยี (อาร์แอนด์ดี) ในระดับสูงทุกปี โดยร่วมมือกับนักวิจัยในมหาวิทยาลัยในประเทศ ซึ่งต้องใช้เวลาในการพัฒนานานกว่าและใช้งบจำนวนมาก แต่บริษัทก็พร้อมทุ่มงบประมาณกับเรื่องนี้ เพื่อพัฒนาสินค้านวัตกรรมใหม่ๆ ออกสู่ตลาด
ในปีนี้บริษัทจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ผ้าเปียกจากน้ำดอกเกลือ ระยะต่อไปจะเปิดตัวสินค้ากลุ่มเจลแต่งผมจากธรรมชาติ และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น พัฒนาจากสมุนไพรธรรมชาติ โดยมีแผนเปิดตัวสินค้าใหม่ประมาณ 1 รายการ/ปี ขณะนี้กำลังพัฒนาสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ทั้งสบู่ และครีมกันแดด ที่มาจากน้ำดอกเกลือ
กุศล เล่าว่า การทำธุรกิจในช่วงที่ผ่านมา เจอวิกฤตครั้งสำคัญ เกิดขึ้นในช่วงประสบปัญหาน้ำท่วมครั้งใหญ่ในประเทศไทย ที่เป็นปัจจัยภายนอก มีผลให้วัตถุดิบผลิตสินค้าจากสมุนไพรขาดแคลน ทำให้การหาสมุนไพรเป็นไปด้วยความยากลำบาก ดังนั้น เมื่อผ่านปัญหาดังกล่าวได้ ทำให้บริษัทปรับแผนหันมาปรับการสต๊อกวัตถุดิบสมุนไพรมาสกัดเป็นวัตถุดิบไว้ ทำให้สามารถผลิตสินค้าได้ตลอดปี
“บริษัทไม่มีปัญหาสภาพคล่องทางธุรกิจตั้งแต่เริ่มทำธุรกิจมาก่อน เพราะมีหลักการบริหารองค์กรที่ควบคุมการสต๊อกสินค้า ไม่ให้มีสต๊อกสินค้ามากเกินไป และผลิตให้ตรงกับยอดคำสั่งซื้อของลูกค้า เพื่อให้มีเงินหมุนเวียนในธุรกิจได้ต่อเนื่อง” กุศล กล่าว
แผนงานต่อไป บริษัทจะสร้างแบรนด์ “เมอริส” ให้ผู้บริโภครู้จักมากขึ้น และกำลังขยายลูกค้าไปยังคนรุ่นใหม่ ที่ชื่นชอบสินค้าแบบใหม่ๆ โดยปีนี้มั่นใจว่าจะสร้างยอดขายเติบโต 10% ใกล้เคียงกับปีก่อน ส่วนช่วงต้นปีที่ผ่านมา ยอดขายเติบโต 30-40% ตามความนิยมที่เพิ่มขึ้น
กุศล ทิ้งท้ายว่า โอกาสของสินค้าในตลาดประเทศไทยและตลาดโลกมีอีกมหาศาล ตามการเติบโตของตลาดรวมเพื่อความงาม รวมถึงตลาดในอาเซียน ที่ยังไม่มีสินค้ากลุ่มดังกล่าวมาก่อน คาดว่าจะเริ่มส่งออกไปในตลาดอาเซียนในปีนี้ เน้นประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งสนใจขยายกลุ่มร้านค้าสปาต่างๆ และช่องทางจำหน่ายสินค้าในร้านค้าปลีก
เป็นอีกหนึ่งแบรนด์เอสเอ็มอีไทย ที่มุ่งสร้างสินค้าเพื่อการบำรุงผิวให้มีเอกลักษณ์ความเป็นไทย ด้วยการนำสมุนไพรไทยผสมกับน้ำดอกเกลือ จากแหล่งทำนาเกลือจ.เพชรบุรี เป็นภูมิปัญญาไทยมาสร้างเป็นสินค้าในแบบฉบับเมอริส รับเทรนด์ทั่วโลกในยุคที่ใครๆ ก็รักความงามขั้นสูงสุด
แนวคิดธุรกิจ 'เมอริส'
ใช้นวัตกรรมนำหน้าธุรกิจ
สร้างแบรนด์จากการบอกปากต่อปาก
มุ่งทำให้สินค้าไทยโดดเด่นแตกต่าง
บริหารสต๊อกให้มีประสิทธิภาพ


