เคล็ดลับแบรนด์ 'นกยูง' ตำนานชาไทย100ปี
ขุมทรัพย์สำเพ็งครั้งนี้ นำไปพบกับหนึ่งในตำนานธุรกิจชาในประเทศไทย ที่มีอายุยาวนานเกือบ 100 ปี กับชา “ตรานกยูง”
โดย...วราภรณ์ เทียนเงิน
ขุมทรัพย์สำเพ็งครั้งนี้ นำไปพบกับหนึ่งในตำนานธุรกิจชาในประเทศไทย ที่มีอายุยาวนานเกือบ 100 ปี กับชา “ตรานกยูง” ที่ยังสามารถสร้างธุรกิจให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรง ตรานกยูงยังคงสู้ด้วยกลยุทธ์ที่แตกต่าง โดยมุ่งเน้นนำเสนอความคุ้มค่าแก่ลูกค้า และทำธุรกิจด้วยความสุข
“ประคุณ ธรรมิกวงศ์” กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทวภัณฑ์ (ตั้งซี่เส็ง) ผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ชาตรานกยูง (Peacock Tea) กล่าวว่า ธุรกิจใบชาตรานกยูง มีอายุกว่า 93 ปีแล้ว และมีจุดเริ่มต้นมาจากย่านธุรกิจที่สำคัญคือ สำเพ็ง โดยนำชาจากประเทศจีนมาบรรจุหีบห่อและบรรจุในประเทศไทยที่โรงงานของบริษัท บริเวณถนนทรงวาด หนึ่งในถนนตำนานของนักธุรกิจชาวจีนที่สร้างธุรกิจในถนนแห่งนี้จำนวนมาก
“สิ่งสำคัญที่ทำให้ธุรกิจเติบโตมาถึงขณะนี้ คือ การให้ความคุ้มค่าแก่ลูกค้า พร้อมวางจำหน่ายสินค้าในราคาไม่แพง เพื่อให้ลูกค้าทุกกลุ่มซื้อสินค้าได้สะดวก ที่ผ่านมามีแบรนด์ชาในตลาดที่ทำธุรกิจพร้อมกันในช่วงแรกจำนวนมาก แต่ปัจจุบันแบรนด์ชาลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 4-5 แบรนด์เท่านั้น” ประคุณ กล่าว
พร้อมกับยึดแนวทางค่อยๆ ขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคง ไม่เร่งรีบลงทุน และไม่ได้มุ่งกำไรในระดับมากๆ เพราะหากต้องการทำธุรกิจเพื่อให้ได้กำไรมากๆ ก็คงไม่ได้ขายสินค้าในราคาเท่านี้ และทำธุรกิจด้วยความไม่เครียด แต่ให้มีความสุขในการทำงานและทำธุรกิจ
อย่างไรก็ตาม แม้ที่ผ่านมาธุรกิจจะประสบปัญหา แต่องค์กรยังยืนหยัดต่อไปได้ โดยเชื่อมั่นในตลาดชาที่มีศักยภาพเติบโตได้ เพราะเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ และชาวจีนก็นิยมดื่มชา รวมถึงเป็นเครื่องดื่มที่สามารถดื่มได้ตลอดวัน และเป็นเครื่องดื่มไว้สำหรับต้อนรับแขกที่มาบ้าน ซึ่งปัจจุบันเริ่มเห็นแนวโน้มคนรุ่นใหม่หันมาดื่มชามากขึ้น
นอกจากนี้ ได้ขยายธุรกิจมาทำร้านดอกไม้เทวภัณฑ์ (ตั้งซี่เส็ง) ในสำเพ็ง เป็นดอกไม้จากผ้าที่ทำมานานกว่า 30 ปี เพื่อเพิ่มความหลากหลายให้ธุรกิจ
“ธเนศ ธรรมิกวงศ์” ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เทวภัณฑ์ (ตั้งซี่เส็ง) ในฐานะทายาทรุ่น 4 ที่บริหารธุรกิจต่อจากรุ่นคุณพ่อ กล่าวว่า หลังจากได้เข้ามาบริหารธุรกิจจึงได้มีการปรับธุรกิจไปจำหน่ายในช่องทางออนไลน์ และผ่านอีคอมเมิร์ซชื่อดังในประเทศ พบว่าได้รับการตอบรับที่ดีมาก มีลูกค้าสนใจสั่งซื้อสินค้าออนไลน์เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากที่ผ่านมาช่องทางหลักจำหน่ายสินค้าเป็นร้านค้าทั่วไป ห้างสรรพสินค้า และห้างค้าปลีกทั่วประเทศ รวมทั้งมีอุปกรณ์ดื่มชาแบบครบวงจร
พร้อมกันนี้ได้ปรับรูปแบบสินค้าใหม่ (รีแพ็กเกจจิ้ง) ครั้งใหญ่ในรอบหลายปี เพื่อให้มีบรรจุภัณฑ์ขนาดเล็กลงและดื่มได้สะดวกขึ้น ภายใต้การรักษาคุณภาพสินค้า และขยายกลุ่มลูกค้าเป้าหมายไปยังคนรุ่นใหม่ อายุ 20-30 ปี พบว่าสินค้าได้รับความสนใจจากคนรุ่นใหม่มากขึ้น โดยสินค้าที่ขายดีในช่องทางออนไลน์จะเป็นชาดำ ชาอิงลิช และชาแดง อีกทั้งสินค้าก็ได้รับความสนใจจากกลุ่มผู้ดื่มชาใน “สมาคมผู้รักชาและวัฒนธรรมจีน” เป็นสมาคมที่ก่อตั้งจากคนรุ่นใหม่ที่นิยมดื่มชา
รวมทั้งได้ขยายการรับซื้อชาจากผู้ผลิตในประเทศ ทั้งจาก จ.เชียงราย และเชียงใหม่ ที่เป็นแหล่งปลูกชาคุณภาพสูง เพื่อร่วมส่งเสริมธุรกิจชาในประเทศไทย และกำลังจะวางแผนขยายธุรกิจ ทั้งสนใจเปิดช็อปจำหน่ายชาแบบครบวงจร และมีเครื่องดื่มนานาชนิดจำหน่ายในร้าน หรือที่เรียกว่า Tea Garden ซึ่งเป็นแผนงานที่วางไว้ระยะยาว
“ธเนศ” กล่าวว่า ขณะนี้แม้ว่าต้นทุนการทำธุรกิจจะเพิ่มขึ้น แต่สิ่งที่บริษัทยึดมาตลอด คือ การรักษาความคุ้มค่าและคุณภาพ จึงไม่ได้มีการปรับขึ้นราคา ชาคงจุดเด่นคือ ไม่ใส่สี ไม่ใส่กลิ่น และเป็นรสชาติของชาที่แท้จริง รวมทั้งมีช่องทางจำหน่ายสินค้าที่ครบวงจร รวมถึงในประเทศเพื่อนบ้านที่มีแบรนด์สินค้าไปวางจำหน่ายเช่นกัน ผ่านตัวแทนจำหน่ายสินค้าในพื้นที่ชายแดน
อีกทั้งบริษัทมีแบรนด์ที่หลากหลายเจาะกลุ่มลูกค้าทุกกลุ่ม ทั้งแบรนด์นกยูง แบรนด์ผีเสื้อ เป็นต้น ทำให้มั่นใจว่าในปีนี้ภาพรวมยอดขายจะเติบโตได้ 10% จากปีก่อน พร้อมกับการมุ่งสร้างแบรนด์ “นกยูง” ให้ลูกค้าจดจำและรู้จักมากที่สุด และขยายธุรกิจด้วยความมั่นคงต่อไป
ถือเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ในสำเพ็งที่อยู่มายาวนาน กำลังก้าวสู่มือทายาทรุ่นที่ 4 ที่พัฒนา ปรับปรุงช่องทางขายใหม่ผ่านออนไลน์ ปรับแพ็กเกจจิ้ง เพื่อขยายคนรุ่นใหม่ พร้อมกับยึดแนวคิดของรุ่นพ่อที่ทำมาตลอด คือ รักษาคุณภาพ ทำให้สินค้าราคาไม่แพง และทำธุรกิจด้วยความสุข


