โรตีกรอบ ‘อับดุลเลาะ’ จากพื้นเมืองขึ้นชั้นอินเตอร์

โดย...ปรีชา วุฒิพงศ์

หนึ่งในของฝากจากชายแดนใต้ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดี คือ โรตีกรอบ ผลิตภัณฑ์พื้นที่ที่นำแป้งโรตีทอดในน้ำมันจนกรอบ แล้วราดด้วยนมข้นหวานและน้ำตาล เป็นทั้งขนมและอาหารว่าง รับประทานคู่กับน้ำชา กาแฟ หาซื้อได้ทั่วไปในพื้นที่ชายแดนภาคใต้

แต่ตลาดภาคใต้นั้นไม่เพียงพอต่อความคาดหวังให้ของดีขึ้นชื่อที่ว่านี้แพร่หลายออกไป ทำให้ “อับดุลเลาะ เจ๊ะอุบง” เจ้าของแบรนด์ “อับดุลเลาะห์”ซึ่งมีผลิตภัณฑ์เด่นทั้งโรตีกรอบ เป็นของหวานและอาหารว่าง กับโรตีแช่แข็ง รับประทานกับแกงพื้นเมืองและอาหารอาหรับ ภายใต้แบรนด์เดียวกัน พัฒนาช่องทางการตลาดเพื่อให้สินค้าขยายแพร่หลายออกไปให้กว้างขึ้น

“เราเริ่มต้นจากการออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความทันสมัย สวยงาม และสะดวกมากขึ้น จากเดิมซึ่งมีการบรรจุอยู่ในถุงพลาสติก ก็ออกแบบมาเป็นแบบบรรจุในกล่อง โดยรสชาติความอร่อยยังเป็นแบบต้นตำรับที่ทุกคนคุ้นชินกันอยู่แล้ว” อับดุลเลาะ บอกถึงจุดเริ่มต้นการทำตลาดแนวใหม่ของสินค้าพื้นเมือง

จุดเด่นของโรตีแบรนด์อับดุลเลาะ คือ แป้งที่ใช้เป็นแป้งสาลีที่มีคุณภาพ มีคุณค่าอาหารเพื่อสุขภาพ ไม่มีการใช้สารกันบูด หรือสารเคมีอื่นๆ ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพในกระบวนการผลิต จึงเป็นโรตีกรอบและโรตีแช่แข็งพร้อมรับประทาน สด กรอบ ใหม่ อร่อย มีคุณค่าทางโภชนาการ เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ซึ่งมีวิถีชีวิตที่ต้องเร่งรีบ

อับดุลเลาะ เล่าว่า การต่อยอดธุรกิจสินค้าพื้นเมืองนั้น เขามีพื้นฐานจากกิจการร้านเบเกอรี่ของครอบครัวที่ทำกันมานานกว่า 30 ปี ซึ่งการพัฒนาผลิตภัณฑ์นั้นจำเป็นที่จะต้องหาตลาดใหม่ๆ เพิ่มขึ้นจากกลุ่มลูกค้ากลุ่มเดิมในพื้นที่

“เรากำลังเจรจากับร้านสะดวกซื้อรายใหญ่ระดับประเทศ ซึ่งจะนำสินค้าโรตีกรอบไปวางจำหน่าย โดยเริ่มต้นเฉพาะสาขาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ก่อน จากนั้นค่อยขยายไปยังพื้นที่อื่นๆ นอกจากนี้เพิ่งทำสัญญาส่งโรตีกรอบของเราให้กับสายการบินกาตาร์แอร์เวย์ส เพื่อเสิร์ฟให้กับผู้โดยสารอีกวันละ 2,000 กล่อง”

แม้จะขยายธุรกิจเติบโตขึ้นอีกหลายเท่า แต่อับดุลเลาะยังไม่หยุดแค่นี้ เขาวางแผนขยายกิจการต่อไปด้วยการเตรียมลงทุนตั้งโรงงานเพื่อผลิตสินค้าให้ทันตามออร์เดอร์ที่เข้ามามากขึ้น นอกจากนี้ยังมองไปถึงการจัดการกระจายสินค้าไปยังพื้นที่อื่นๆ ในอนาคต รวมทั้งขยายตลาดไปยังประเทศมาเลเซียให้มากขึ้น

“ปัจจุบันเรามีการวางขายสินค้าของเราทั้งโรตีแช่แข็งและโรตีกรอบในพื้นที่รัฐกลันตัน ซึ่งมีชายแดนติดกับ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส แต่อนาคตก็คาดหวังว่าจะขยายต่อไปในพื้นที่เมืองอื่นๆ ของมาเลเซีย ซึ่งผมก็ได้ไปออกบูธแนะนำสินค้าที่กรุงกัวลาลัมเปอร์”

นอกจากตลาดประเทศเพื่อนบ้านแล้ว อับดุลเลาะยังคาดหวังถึงตลาดประเทศมุสลิมอื่นๆ โดยเฉพาะซาอุดิอาระเบียและดูไบ ซึ่งเขากำลังซุ่มศึกษาตลาด รวมทั้งพัฒนาปรับปรุงรสชาติให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละประเทศ

ความสำเร็จของการขยายธุรกิจ อับดุลเลาะ บอกว่า มาจากความรักที่จะทำ ซึ่งทำให้เขาทุ่มเท ทั้งการขยายตลาด การแสวงหาความร่วมมือจากหลายๆ ฝ่าย ทั้งความรู้และแหล่งทุน