‘เอส 11 กรุ๊ป’ หวังก้าวกระโดด & ปันผลสูง
“บริษัท เอส 11 กรุ๊ป” (S11) ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ให้กับบุคคลธรรมดาที่เป็นรายย่อยทั่วไป
โดย...บงกชรัตน์ สร้อยทอง
“บริษัท เอส 11 กรุ๊ป” (S11) ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ให้กับบุคคลธรรมดาที่เป็นรายย่อยทั่วไป ที่มีกำหนดเสนอขายหุ้นให้ประชาชนครั้งแรก (ไอพีโอ) จำนวน 80 ล้านหุ้น และจดทะเบียนเข้าซื้อขายในหมวดเงินทุนและหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ภายในปลายเดือน ก.พ.นี้
บริษัทเริ่มต้นด้วยทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท ในปี 2554 โดย “สามารถ จิระดำรง” ประธานกรรมการ และกลุ่มเพื่อนนักธุรกิจชาวต่างชาติ ซึ่งเขาเคยเป็นผู้บริหารบริษัท กรุ๊ปลีส (GL) ที่นำทีมผู้บริหาร ลูกน้อง และพนักงานที่เคยทำงานด้วยกันมามากกว่า 20 ปี ออกมาทำงานด้วยกัน
บริษัทเพิ่มทุนและเจริญเติบโตเรื่อยมาจนกระทั่งปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 533 ล้านบาท และเมื่อขายหุ้นไอพีโอ 80 ล้านหุ้น แล้วเสร็จจะทำให้มีทุนจดทะเบียนเพิ่มเป็น 613 ล้านบาท
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานปี 2554 แม้จะดำเนินงานเพียง 9 เดือน มีรายได้ 70 ล้านบาท ปี 2555 มีรายได้ 400 ล้านบาท ปี 2556 จำนวน 689 ล้านบาท และ 9 เดือน ปี 2557 มีรายได้ 678 ล้านบาท ส่งผลให้มีกำไรสุทธิปี 2554 ประมาณ 10.6 ล้านบาท ปี 2555 มีกำไร 75 ล้านบาท ปี 2556 มีกำไร 116 ล้านบาท และ 9 เดือน ปี 2557 มีกำไร 148 ล้านบาท
“สุรศักดิ์ เข็มทองคำ” กรรมการผู้จัดการ S11 กล่าวว่า S11 แตกต่างจากคู่แข่งที่วิธีคิดและมีความเข้าใจในอุตสาหกรรม เข้าใจในธรรมชาติของลูกค้า เพราะผ่านการวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้ามาตลอดกว่า 20 ปี วัฒนธรรมองค์กรที่มีรูปแบบการทำงานไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัว สามารถปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงมีระบบไอทีในการรองรับการชำระค่างวด หรือการประสานงานระหว่างบริษัทผู้ชำระค่างวดและดีลเลอร์ให้มีความเชื่อมโยงและสัมพันธ์กันเป็นอย่างดี
ยกตัวอย่างกลุ่มที่ให้บริการสินเชื่อหลายประเภท ต่างออกกฎมาว่าผู้ที่ขอสินเชื่อได้ต้องมีรายได้เท่านี้ ต้องมีสลิปเงินเดือนถึงสามารถขอสินเชื่อได้ แต่ธรรมชาติของผู้ซื้อรถจักรยานยนต์เป็นรายบุคลทั่วไป ถือเป็นอาชีพที่หลากหลาย มีรายได้ที่ไม่แน่นอน การทำให้ทุกอย่างตามเกณฑ์มาตรฐานสากลเป็นไปได้ยาก ดังนั้นควรออกแบบหรือการทำการตลาดให้บริการสินเชื่อที่เอื้อต่อการอำนวยความสะดวกรองรับการขอสินเชื่อที่หลากหลาย และสอดคล้องกับสถานการณ์มากขึ้นของผู้ขอสินเชื่อ เพราะดีกว่าไม่มีการจ่ายค่างวดกลับมาเลย
นอกจากนั้น ต้องพยายามรักษาความสัมพันธ์กับผู้แทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ (ดีลเลอร์) ซึ่งก็มีหลายรายที่ใช้บริการ S11 มาตั้งแต่บริษัทเก่า โดยเริ่มจากขอบริหารสินเชื่อเพียง 1-2 สาขา ของแต่ละร้านค้า ซึ่งปัจจุบันบริษัทให้สินเชื่อหมด 63 ร้านค้า หรือทั้งหมด 139 สาขาก่อน จากนั้นค่อยขยับไปยังสาขาที่เหลือของแต่ละร้านค้า ซึ่งจะทำให้บริษัทมีการเติบโตขึ้นได้แบบตามปกติ
บริษัทกำหนดอัตราเงินดาวน์ 500-3 หมื่นบาท มีวงเงินสินเชื่อ 4.8-5 หมื่นบาท โดยได้อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยอยู่ที่ 1.25-2.3% ต่อเดือน เทอมในการผ่อนชำระเดือนละ 1 ครั้ง ที่ผ่อนชำระ 6-36 เดือน
ปัจจุบันบริษัทให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ครอบคลุมไปยังพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล 70% หรือประมาณ 2,000 คัน/เดือน จากยอดที่มีผู้ซื้อรถมอเตอไซค์ประมาณ 3.4 หมื่นคัน/เดือน ส่วนอีก 30% บริการผู้เช่าซื้อแถวชลบุรี ระยอง จันทบุรี พระนครศรีอยุธยา และฉะเชิงเทรา จากเครือข่ายที่เป็นพันธมิตรทางธุรกิจในตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ โดยตอนนี้มีที่ S11 บริการสินเชื่อให้ทั้งหมด 63 ร้านค้า หรือทั้งหมด 139 สาขา สัดส่วนรายได้ส่วนใหญ่ คือ รายได้ดอกเบี้ยจากสัญญาเช่าซื้อเฉลี่ยอยู่ที่ 95-96% รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการ 3% อื่นๆ 1%
ขณะที่การบริหารความเสี่ยงของบริษัท คือ การไม่ทำสัญญาชำระค่ารถจักรยานยนต์ไม่เกิน 36 เดือน หรือ 3 ปี การยืดหยุ่นในบางกรณีที่ทำให้ได้รับเงินมาบางส่วนที่ดีกว่าที่ไม่รับเงินจ่ายค่างวดจากลูกค้าแต่อย่างใดในอนาคต
สำหรับการเข้า ตลท.เป็นเป้าหมายของบริษัทตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง เพราะเห็นประโยชน์ว่าที่ผ่านมา ตลท.จะช่วยให้บริษัทมีสภาพคล่องและเงินทุนหมุนเวียนมากขึ้น มีอัตราดอกเบี้ยที่ถูกลง และที่สำคัญ คือ ในอนาคตยังสามารถระดมทุนจากเครื่องมืออื่นๆ ในตลาดทุนได้อีกหลังเข้าจดทะเบียนใน ตลท.แล้ว
ทั้งนี้ มูลค่าพอร์ตสินเชื่อปัจจุบันอยู่ที่ 3,000 ล้านบาท ส่วนการเติบโตของยอดสินเชื่อต่อปี S11 ตั้งเป้าหมายจะต้องมากกว่าระดับอุตสาหกรรมเป็นหลัก
“อย่างปี 2557 อุตสาหกรรมติดลบ 15% แต่บริษัทเติบโต 15% หรือปีนี้มองกันว่าอุตสาหกรรมจะเติบโต 3-5% แต่บริษัทก็เชื่อว่าจะโตมากกว่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการเติบโตจากการเน้นขยายรองรับบริการสินเชื่อจากเจ้าของดีลเลอร์ร้านค้าที่มีปัจจุบัน 63 ร้านค้า จากนั้นก็จะทำไปลักษณะขยายไปในภูมิภาคนั้นให้เต็มที่จนเกิดเครือข่าย ก่อนที่จะเริ่มขยายไปยังภูมิภาคอื่น”
ปัจจุบันบริษัทมีหนี้ที่ก่อไม่เกิดรายได้(เอ็นพีแอล) 8% ซึ่งในอุตสาหกรรมเฉลี่ยอยู่ไม่เกิน 15% เอ็นพีแอลจริงไม่เกิน 1% และส่วนต่างของดอกเบี้ยรับและดอกเบี้ยจ่ายอยู่ที่ 26.3% และมีเงินอัตราหนี้สินต่อทุน (ดี/อี) 2 เท่า นโยบายบริษัทต้องไม่เกิน 2.5 เท่า
สำหรับธุรกิจนาโนไฟแนนซ์ ด้วยความที่เป็นบริษัทใหม่จึงขอดูคนที่พร้อมก่อนว่าใครสนใจจะทำ หรือทำแล้วเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งก็ยอมรับว่าก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจและศึกษาอยู่ แต่จะทำหรือไม่คงต้องพิจารณารายละเอียดให้ดี
สุรศักดิ์ กล่าวว่า S11 จะเป็นหุ้นที่เป็นทั้งการเติบโตแบบก้าวกระโดด และหุ้นที่มีการจ่ายปันผลที่ดี เพราะยังมีโอกาสขยายงานอีกมากทั้งในส่วนสาขาอื่นของร้านค้าที่บริการให้สินเชื่อเดิม และยังสามารถขยายไปยังภูมิภาคอื่นๆ ได้อีก โดยเฉพาะในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ เนื่องจากปัจจุบันขายเพียง 2,000 คัน/เดือน แต่ตลาดโดยรวมอยู่ที่หลัก 3.4 หมื่นคัน/เดือน
ขณะนี้เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวการซื้อรถจักรยานยนต์เพิ่ม ทั้งนี้แม้ว่าเมื่อต้นเดือน ม.ค. กำลังซื้อจะชะลอตัวมาก แต่นับตั้งแต่ 5 วันสุดท้ายของเดือน ม.ค.ถึงปัจจุบัน พบว่าพฤติกรรมผู้บริโภคเริ่มมีสัญญาณที่ดีต่อเนื่องอยู่ เพราะมีการซื้อจักรยานยนต์ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ต้องมาติดตามดูว่าจากนี้จะมีการฟื้นตัวที่ชัดเจนหรีอไม่ ส่วนหนึ่งอาจจะมาจากที่ผู้ผลิตรถจักรยานยนต์มีการเปลี่ยนโมเดลใหม่ด้วย โดยต้นปีทางฮอนด้ามีการผลิตโมเดลใหม่ถึง 2 รุ่นด้วยกัน ส่วนความเสี่ยงการทำธุรกิจตอนนี้ คือ เรื่องนโยบายต่างๆ ที่มีการปรับเปลี่ยนของรัฐบาล เพราะตัวแปรอื่นที่มีการเปลี่ยนแปลง
S11 มีบริษัท ทรีนีตี้ แอ๊ดไวซอรี่ 2001 เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย เสนอขายหุ้นทั้งหมด 80 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 1 บาท หรือ 13.05% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว


