แอบรัก... (การลงทุน) ออนไลน์

โดย...สวลี ตันกุลรัตน์ [email protected]

ไม่ได้อินกับละคร เรื่อง “แอบรักออนไลน์” เลยสักนิด (ก็แค่แอบสงสาร “บอส” และหมั่นไส้ “ยัยพริบพราว” เท่านั้นเอง) แต่พอเห็นว่าละครเรื่องนี้เป็นเรื่องราวชีวิตรักของคนในบริษัทหลักทรัพย์ หรือโบรกเกอร์ ที่สอดแทรกความรู้เรื่องการลงทุนในตลาดหุ้นแบบง่ายๆ ก็เลยคิดว่า นอกจากคนดูจะอินกับละครแล้ว ก็น่าจะอินกับการลงทุนและอยากจะลองเริ่มต้น “เปิดพอร์ต” ดูบ้าง

แต่ถ้าเราอยากเป็นนักลงทุน แต่ยังเขินๆ อายๆ ขอแนะนำให้เริ่มจากแอบรัก... “การลงทุนออนไลน์”

แอบรัก... เพราะสะดวกสบาย

ทุกวันนี้การลงทุนออนไลน์ หรือ Internet Trading ทำได้ง่าย “แค่ปลายนิ้ว” เพราะแค่ดาวน์โหลดโปรแกรม Streaming ซึ่งเป็นระบบการซื้อขายหลักทรัพย์มาไว้บนเครื่องคอมพิวเตอร์ และที่สะดวกสบายที่สุด คือ ดาวน์โหลดเก็บไว้ในแท็บเล็ตหรือสมาร์ทโฟน

ทีนี้แทนที่จะเล่นเกม อ่านเฟซบุ๊ก เช็กไลน์ ตามอินสตาแกรม เราก็เพิ่มกิจกรรมการลงทุนเข้าไปอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งสามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลา

กลางดึกนึกคึกอยากจะซื้อขายหุ้นก็ทำได้ หรือนั่งกินข้าวกลางวันอยากจะรู้ว่าตอนนี้หุ้นที่อยากซื้อราคากี่บาทก็ทำได้

แอบรัก... เพราะเริ่มต้นง่ายๆ

แต่ก่อนจะลงทุนแบบสะดวกสบายต้องเริ่มจากการเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์กันก่อน แต่ถ้ายังไม่รู้จะไปเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์แห่งไหนดี ก็ลองถามเพื่อนๆ คนใกล้ตัว หรือจะเข้าไปหาข้อมูลในสังคมออนไลน์ ในเว็บไซต์ที่ให้ความรู้เรื่องการลงทุน

ถ้าไม่รู้จริงๆ ว่า จะไปเปิดบัญชีได้ที่ไหน ง่ายที่สุด คือ ที่ธนาคาร หรือสาขาของโบรกเกอร์ที่อยู่ในห้างสรรพสินค้า แล้วเดินไปบอกว่า อยากจะเปิดบัญชีซื้อขายหุ้น หรือคอยติดตามการจัดงานด้านการเงินการลงทุน เช่น SET in the City ของตลาดหลักทรัพย์ฯ หรืองานมหกรรมทำเงินให้งอกเงย ของหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ ซึ่งจะจัดระหว่างวันที่ 6-8 ก.พ.นี้แล้ว

และถ้าจะให้ง่ายกว่านั้นอีก คือ เข้าไปที่ www.settrade.com แล้วเลือกหัวข้อนักลงทุนมือใหม่ จากนั้นก็แค่คลิกไปที่เปิดบัญชีกับบริษัทหลักทรัพย์ แล้วเลือกสมัครออนไลน์

จากนั้นก็กรอกเอกสารตามแบบฟอร์มขอเปิดบัญชี คำขอให้หักบัญชีเงินฝากอัตโนมัติ ATS จากนั้นก็จัดส่งเอกสารการเปิดบัญชี ซึ่งไม่ได้ยุ่งยากอะไร และจากข้อมูลของ settrade.com บอกว่า “รอผลการพิจารณาประมาณ 1 สัปดาห์ จะได้รับ Username และ Password”

เมื่อได้ Username และ Password ก็ถึงเวลา Login เข้าระบบซื้อขาย เช่น ระบบ Streaming ที่เราดาวน์โหลดเอาไว้ที่เครื่องได้เลย

แรกๆ อาจจะต้องเรียนรู้การทำงานระบบซื้อขายกันสักหน่อย ซึ่งรับรองว่าไม่ยากและสามารถเรียนรู้ได้ แต่สำหรับคนที่คิดว่าการลงทุนหุ้นเป็นเรื่องยาก ก็ยังมีการลงทุนแบบอื่นๆ ที่สามารถลงทุนออนไลน์ได้ง่ายๆ และอาจจะง่ายกว่าการเลือกซื้อหุ้น คือ การลงทุนผ่านกองทุนรวม

เพราะการลงทุนผ่านกองทุนรวมไม่ต้องมาเลือกซื้อหุ้นด้วยตัวเอง แค่เลือกลงทุนกับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) หลังจากนั้นผู้จัดการกองทุนจะเป็นคนตัดสินใจเรื่องการซื้อขายหุ้นให้เราเอง

การลงทุนกองทุนรวมผ่านอินเทอร์เน็ตก็เพียงเปิดบัญชีกับ บลจ. หรือตัวแทนขาย จากนั้นเราก็ส่งคำสั่งซื้อขายผ่านระบบออนไลน์ได้สะดวกสบายเหมือนกัน

แอบรัก... เพราะเงินลงทุนไม่มาก

ข้อดีอีกอย่างหนึ่งของการลงทุนออนไลน์ คือ ใช้เงินลงทุนไม่มาก ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนหุ้น หรือกองทุนรวม

ถ้าเป็นกองทุนรวมเริ่มต้นลงทุนขั้นต่ำแค่ 2,000 บาท จากนั้นอยากจะซื้อทีละร้อยสองร้อยบาทก็ไม่ว่ากัน (ส่วนใหญ่กำหนดขั้นต่ำในการซื้อครั้งต่อๆ ไปไว้ที่ 500 บาท)

แต่ถ้าเป็นการลงทุนในหุ้นใช้เงินเริ่มต้น 5,000 บาท ก็สามารถลงทุนได้แล้ว โดยการเปิดบัญชี หรือเปิดพอร์ตประเภท “บัญชีเงินฝาก” (Cash Balance Account) โดยก่อนที่จะซื้อหุ้นก็ต้องนำเงินไปฝากไว้ที่โบรกเกอร์ หรือโอนเงินจากบัญชีเงินฝากธนาคารไปที่บัญชีโบรกเกอร์ถึงจะซื้อขายได้

จำนวนเงินขั้นต่ำในการโอนแต่ละครั้งอยู่ที่ 5,000 บาท ส่วนเราจะซื้อหุ้นครั้งละกี่บาทก็ไม่ว่ากัน แต่จำนวนที่ซื้อขั้นต่ำต้อง 100 หุ้น เพราะฉะนั้นถ้าเกิดไปแอบรักหุ้นราคาหุ้นละ 30 บาท อยากจะเก็บไว้สัก 100 หุ้น ก็เป็นเงิน 3,000 บาท แต่ถ้าอยากจะซื้อ 200 หุ้นก็ต้องโอนเงินเข้าไปเพิ่ม เพราะเราจะซื้อหุ้นได้เท่ากับจำนวนเงินที่ฝากไว้กับโบรกเกอร์เท่านั้น

แอบรัก... เพราะค่าธรรมเนียมถูก

นอกจากจะใช้เงินลงทุนไม่มากแล้ว การซื้อขายผ่านอินเทอร์เน็ตยังมีค่าธรรมเนียมการซื้อขาย หรือค่าคอมมิชชั่น ไม่มากด้วยเหมือนกัน โดยการคิดค่าคอมมิชชั่นจะคิดแบบขั้นบันไดเริ่มจาก 0.1-0.2% ของมูลค่าการซื้อขาย ซึ่งถูกกว่าการซื้อขายผ่านเจ้าหน้าที่การตลาด หรือมาร์เก็ตติ้ง

เพราะฉะนั้นถ้าเราแอบรักการลงทุนออนไลน์ มาร์เก็ตติ้งอาจจะไม่รักเราก็ได้ เพราะรายได้ของมาร์เก็ตติ้งจะมาจากค่าคอมมิชชั่น ที่คิดจากมูลค่าการซื้อขายของนักลงทุน ยิ่งนักลงทุนซื้อๆ ขายๆ มากเท่าไร รายได้จากค่าคอมมิชชั่นมากตามไปด้วย (เพราะฉะนั้นมาร์เก็ตติ้งในละครเลยต้อง “ทำยอด” ให้ได้มากๆ

แอบรัก... เพราะปลอดภัย

เคยได้ยินข่าวสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ลงโทษมาร์เก็ตติ้งที่ทำความผิดไหม เช่น ทำผิดที่เอาเงินลูกค้าไปลงทุน แล้วเอากำไรเข้ากระเป๋าตัวเอง

เพราะฉะนั้นยิ่งเราไว้ใจมาร์เก็ตติ้งมากแค่ไหน ก็มีโอกาสที่เงินลงทุนของเราไม่ปลอดภัย และแม้ว่า ทั้ง ก.ล.ต. ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และตัวโบรกเกอร์เองจะพยายามปิดช่องทางการโกงในหลายๆ รูปแบบ แต่เราก็ยังเห็นการทำผิดอยู่บ่อยๆ

แต่ถ้าเป็นการลงทุนออนไลน์ สบายใจได้ไม่มีใครโกงเราได้ เว้นแต่เป็นความผิดพลาดของเราเอง

เพราะระบบซื้อขาย เช่น Streaming จะมี “รหัสผ่าน 2 ชั้น ภายใต้ระบบความปลอดภัยมาตรฐาน” ซึ่งมันจะแปลว่า อะไรก็ไม่รู้ รู้แต่ว่า “ล็อก 2 ชั้น” ก็เพิ่มความปลอดภัยได้มากขึ้น

แอบรัก... เพราะมีข้อมูลมากมาย

ในโลกออนไลน์มีความรู้และข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับการตัดสินใจลงทุนให้อ่านมากมาย และที่สำคัญ คือ ฟรี ไม่มีค่าบริการ เพราะฉะนั้นจึงเหมาะมากกับนักลงทุนที่ชอบศึกษาหาข้อมูล

แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องระวัง เพราะข้อมูลที่ทะลักล้นอยู่ในโลกออนไลน์ก็มีทั้งที่ดีและไม่มี มีทั้งที่เชื่อถือได้และน่าเชื่อถือ (แต่เชื่อไม่ได้) โดยเฉพาะ “ข่าวปล่อย” และ “ข่าวลือ” ซึ่งบางครั้งก็เป็นแค่ “ข่าวลวง”

นอกจากข้อมูลมากมายแล้ว ทุกวันนี้เรายังมี "กูรูผู้รู้" ในโลกออนไลน์อยู่มาก ซึ่งแต่ละคนอาจจะมีแนวคิดแนวทางการลงทุนที่แตกต่างกัน เพราะฉะนั้นโปรดใช้วิจารณญาณในการเลือกเชื่อกูรู

แอบรัก... เพราะไม่อยากเปิดตัว

นี่ไงเหตุผลของการแอบรักที่เราต้องแอบรัก เพราะเราไม่อยากเปิดตัว

โดยทั่วไปแล้วหลังจาก “เปิดพอร์ต” เพื่อซื้อขายหุ้นแล้ว เราจะมีมาร์เก็ตติ้ง หรือ “มาร์” ส่วนตัว และมาร์ก็จะเป็นคนคอยดูแลลูกค้า ซึ่งก็คือนักลงทุนอย่างเรา ตั้งแต่ส่งบทวิคราะห์ให้อ่าน แนะนำการลงทุนที่เหมาะสม และรับส่งคำสั่งซื้อขายหุ้น โดยคุยกันผ่านทางโทรศัพท์

เพราะฉะนั้นมาร์เก็ตติ้งก็จะเป็นอีกคนหนึ่งที่อาจจะทำให้เราได้กำไรจากการลงทุน แต่บ่อยครั้งที่นักลงทุนใจอ่อนอย่างเราอาจจะถูกมาร์ “กดดัน” ให้ซื้อหรือขายหุ้นทั้งๆ ที่เรายังไม่พร้อม และหลายครั้งเราก็เลือกจะเชื่อมาร์มากกว่าเชื่อตัวเอง และอีกหลายครั้งที่เราโทษมาร์ว่าเป็นคนชักนำทำให้เรา “ติดดอย” หรือ “ขายหมู”

แต่ที่ทำให้นักลงทุนปวดใจมากที่สุด คือ ในเวลาที่เราต้องการมาร์ แต่มาร์กลับไม่พร้อมจะคุยกับเรา โดยเฉพาะในเวลาวิกฤตที่นักลงทุนแห่กันโทรศัพท์เข้าไปหามาร์เก็ตติ้งของตัวเอง แต่มาร์ก็เป็นคนธรรมดา มีสองหู หนึ่งปาก จะรับโทรศัพท์พร้อมกับหลายๆ สายก็คงจะลำบาก

แต่ถ้าเป็นการลงทุนออนไลน์ เราจะต้องตัดสินใจด้วยตัวเอง ส่งคำสั่งซื้อขายเอง ไม่ได้เจอกับมาร์ ไม่ว่าจะเป็น “มาร์ตัวแม่” หรือ “มาร์รูปหล่อ”

และแม้ว่ามาร์เก็ตติ้งจะเต็มใจบริการนักลงทุนรายเล็กรายน้อยอย่างเรา แต่การซื้อขายทีละไม่กี่ร้อยหุ้น ก็คงทำให้เราเขินอายเกินกว่าจะเปิดตัวให้มาร์รู้ว่าเราคือใคร

เพราะฉะนั้นเราก็คงได้แต่แอบรักการลงทุนออนไลน์แบบเงียบๆ กันต่อไป