posttoday

ศูนย์โจโจ้เฮาส์ฯ บริการฝึกสุนัข

16 ธันวาคม 2557

จุดเริ่มต้นมาจากที่บ้านเลี้ยงสุนัขไว้เป็นจำนวนมาก และมีการจ้างครูมาสอนเป็นประจำ เมื่อคนรู้จักเห็นก็สนใจอยากนำสุนัขมาฝึกด้วย ทำให้ สุนทรา สัจจะวัชรพงศ์ ร่วมกับครูฝึก หันมาเปิดศูนย์ฝึกสุนัข โจโจ้เฮาส์ ด๊อก มาสเตอร์ (jojo house DOG MASTER) ร่วมกัน ที่ปัจจุบันดำเนินกิจการมานานร่วม 12 ปี

จุดเริ่มต้นมาจากที่บ้านเลี้ยงสุนัขไว้เป็นจำนวนมาก และมีการจ้างครูมาสอนเป็นประจำ เมื่อคนรู้จักเห็นก็สนใจอยากนำสุนัขมาฝึกด้วย ทำให้ สุนทรา สัจจะวัชรพงศ์ ร่วมกับครูฝึก หันมาเปิดศูนย์ฝึกสุนัข โจโจ้เฮาส์ ด๊อก มาสเตอร์ (jojo house DOG MASTER) ร่วมกัน ที่ปัจจุบันดำเนินกิจการมานานร่วม 12 ปี

สุนทรา บอกว่า โรงเรียนฝึกสุนัข “โจโจ้เฮาส์ ด๊อก มาสเตอร์” มีจุดเด่นอยู่ที่ต้องการให้สุนัขรู้สึกผ่อนคลายจากการฝึกมากกว่าบังคับให้สุนัขต้องได้รับการฝึก ซึ่งแตกต่างไปจากโรงเรียนฝึกสุนัขที่มีอยู่ในปัจจุบัน ที่จะเน้นการฝึกที่จริงจังมากเกินไป หรือเกินความต้องการของเจ้าของ โดยนำประสบการณ์ส่วนตัวตรงที่ต้องการฝึกสุนัขเพื่อให้เขาเชื่อฟังเราในเวลาเริ่มดื้อ เริ่มกระโจน หรือการสร้างวินัยภายในบ้าน

“สุนัขทุกตัวที่นำมาฝึกจะต้องได้รับการฝึกร่วมกับเจ้าของด้วย เพราะปัญหาของการฝึกสุนัขที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่คือสุนัขจะเชื่อฟังแต่กับครูฝึก เมื่อกลับมายังบ้านจะไม่ยอมทำตามคำสั่งเจ้าของ”

จากการมองเห็นปัญหาในข้างต้น ทำให้โจโจ้เฮาส์ฯ วางแผนทำธุรกิจในปี 2558 เตรียมขยายหลักสูตรสำหรับการสอนคน หรือเจ้าของสุนัขด้วย เพื่อให้เข้าใจภาษาต่างๆ ของสุนัขที่สื่อออกมาทั้งทางกาย หรือภาษาพูด (เห่า) ของพวกเขา ด้วยแต่ละสายพันธุ์จะมีความแตกต่างและวิธีการดูแลแตกต่างกันออกไป

พร้อมยกตัวอย่างการที่สุนัขทะเลาะกัน มักเป็นเรื่องของสัญชาตญาณต้องการการเป็นจ่าฝูง ซึ่งหากมีเจ้าของอยู่ด้วย สุนัขจะไม่มีปัญหาเพราะรู้ว่าเจ้าของเป็นจ่าฝูงพวกมัน หรืออย่างปัญหาสุนัขกัดแทะเฟอร์นิเจอร์ ก็อาจเป็นเพราะไม่ได้เอาไปออกกำลังกาย

ทั้งนี้ หลักสูตรใหม่จะเปิดราวเดือน มี.ค.ปีหน้า ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างกำหนดอัตราค่าเล่าเรียน โดยจับกลุ่มเป้าหมายเจ้าของสุนัข และชาวต่างชาติที่มีแนวโน้มสนใจเข้ามาเรียนการฝึกสุนัขกับโรงเรียนมากขึ้น ด้วยมองเห็นโอกาสจากตลาดผลิตภัณฑ์สินค้าบริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยงที่เติบโตสูง โดยเฉพาะสุนัขที่ปัจจุบันเจ้าของยินดีควักกระเป๋าจ่ายเพื่อดูแลสุนัขของตัวเอง
มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ก่อนธุรกิจจะดำเนินกิจการจนประสบความสำเร็จมาถึงปัจจุบัน โจโจ้เฮาส์ฯ ได้ใช้กลยุทธ์การตลาดทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์ โดยเปิดเว็บไซต์แนะนำศูนย์ฝึกควบคู่ไปกับการลงโฆษณากับนิตยสารสัตว์เลี้ยงแทน แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร

จนเมื่อ 3-4 ปีก่อนเริ่มมองเห็นความสำคัญของอินเทอร์เน็ตยิ่งขึ้น พร้อมหันไปลงโฆษณาผ่าน Google AdWords เพราะรู้สึกว่ามีฐานข้อมูล และผู้ใช้งานค่อนข้างกว้าง และยังสอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันด้วย ที่อยากรู้ข้อมูลอะไรก็จะใช้วิธีค้นหา (เสิร์ช) ข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต

จากการใช้กลยุทธ์การตลาดออนไลน์ ทำให้ในปีที่ผ่านมาโจโจ้เฮาส์ฯ มีผู้สนใจเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 50-60% โดยในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ จะมีลูกค้านำสุนัขเข้ามาใช้บริการเฉลี่ย 50 ตัว จากปกติมีสุนัขที่เข้ารับการฝึกประจำที่โรงเรียนอยู่ที่ 35-50 ตัว/สัปดาห์ โดยคิดอัตราค่าบริการเฉลี่ย 1.5-2.7 หมื่นบาท/หลักสูตร ซึ่งโรงเรียนตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 2 ไร่ ย่านถนนรามคำแหง 30

โดยในปีหน้าหลังจากเปิดให้บริการหลักสูตรใหม่แล้ว คาดจะผลักดันให้ธุรกิจมีรายได้เติบโตเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 50%

ข่าวล่าสุด

รองนายกฯ “เอกนิติ” มอบรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น ประจำปี 2568