posttoday

ถอดรหัส M&A ทางลัดขยายธุรกิจต่างแดน

27 พฤศจิกายน 2557

หนึ่งในกลยุทธ์เพื่อขยายธุรกิจอย่างรวดเร็วในตลาดต่างแดนที่หลายองค์กรเลือกใช้ คือ การควบรวมและซื้อกิจการ (M&A)

โดย...สมหทัย โมสิกะ

หนึ่งในกลยุทธ์เพื่อขยายธุรกิจอย่างรวดเร็วในตลาดต่างแดนที่หลายองค์กรเลือกใช้ คือ การควบรวมและซื้อกิจการ (M&A) โดยจุดเด่นของการเดินเกมแบบนี้ก็คือ การได้เครือข่ายธุรกิจ ฐานลูกค้าความเชี่ยวชาญในตลาดท้องถิ่นและบุคลากร

แต่การประสบความสำเร็จในการซื้อกิจการก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก เพราะเป็นการรวมตัวขององค์กร 2 แห่ง ซึ่งอาจมีความแตกต่างกันหลายด้าน แต่หากสามารถปรับเปลี่ยนและหล่อหลอมจุดดีของทั้งสองฝ่ายเข้าด้วยกันได้ การก้าวสู่ความสำเร็จก็ไม่ใช่เรื่องไกลเกินเอื้อม

ในงานสัมมนาเรื่อง Cracking the Code of M&A จัดโดยสมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย พรชัย ปัทมินทร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายธุรกิจขนาดใหญ่ ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย แนะนำว่า สิ่งที่ผู้ประกอบการจะต้องคิดก่อนตัดสินใจดำเนินการด้าน M&A คือ ประโยชน์ที่คาดหวังว่าจะได้ จะต้องมีความชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว มีทรัพยากรบุคคลและเงินเพียงพอหรือไม่ และที่สำคัญคือ หากล้มเหลวจะสามารถยอมรับได้หรือไม่

ด้าน จิรพันธ์ พงษ์พานิช ผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน บริษัท เจเนอรัล อิเล็กทริก (จีอี) กล่าวว่า จีอีจะพิจารณาปัจจัยต่างๆ ของเป้าหมายก่อนตัดสินใจทำดีลประเภทนี้ เช่น ดูว่าบริษัทเป้าหมายมีเทคโนโลยี มีทรัพย์สินทางปัญญาหรือไม่ มีผลิตภัณฑ์ที่จีอียังขาดอยู่หรือไม่ รวมถึงพิจารณาศักยภาพการให้บริการ ฐานลูกค้าและเครือข่ายในตลาด และโอกาสเติบโตของธุรกิจ

สอดคล้องกับ นาดิม ซาลฮานี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มัดแมน ที่เพิ่งซื้อกิจการธุรกิจอาหารและแฟชั่นอย่าง เกรย์ฮาวด์ เขาบอกว่า การซื้อกิจการหมายถึงการทำให้พอร์ตโฟลิโอของบริษัทในตลาดรวมดีขึ้น อย่างเช่น การซื้อธุรกิจเกรย์ฮาวด์ ที่มองว่าเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียง สามารถต่อยอดธุรกิจของบริษัทได้อีกมากในอนาคต ขณะเดียวกันการซื้อกิจการก็ต้องคำนึงถึงผลตอบแทนที่ผู้ถือหุ้นจะได้รับด้วย

ทั้งนี้ แม้ว่าการทำ M&A จะเป็นทางลัดสำหรับธุรกิจที่ต้องการขยายตลาดในต่างประเทศอย่างรวดเร็ว แต่ต้องยอมรับว่า มีบริษัทจำนวนไม่น้อยที่ล้มเหลวในเส้นทางนี้ ซึ่งบรรดานักบริหารที่คุ้นเคยกับดีลแบบนี้ได้ชี้ถึงคุณสมบัติของผู้ที่จะประสบความสำเร็จไว้หลายข้อ

นาดิม แจกแจงว่า คุณสมบัติสำคัญของการทำดีลให้สำเร็จคือ ต้องใจกว้าง มีความยืดหยุ่นสูง มีความน่าเชื่อถือ และที่สำคัญต้องความสัมพันธ์ที่ดีกับธนาคาร เพราะอาจต้องขอเงินกู้เพื่อมาซื้อกิจการ

“คนทำดีลต้องมีความยืดหยุ่น เพราะเราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรบ้าง ต้องปรับตัวเพื่อรับมือกับสิ่งเหล่านั้น รู้ว่าคนขายต้องการอะไร รู้จักธรรมชาติเจ้าของกิจการที่เราจะซื้อ หากมัดใจเขาได้ ก็จะทำให้ดีลสำเร็จ บางครั้งเรื่องเงินเป็นสิ่งที่พูดกันทีหลัง”

ด้าน จิรพันธ์ ชี้ว่า คนสำคัญในการทำดีลคือ ผู้นำการซื้อและควบรวมกิจการ ที่จะต้องเป็นซูเปอร์ลีดเดอร์ เพราะจะต้องประสานงานกับฝ่ายต่างๆทั้งหน่วยงานภาครัฐที่ดูแลเรื่องสื่อมวลชน รวมถึงพนักงานของบริษัทที่จะเข้าไปซื้อกิจการ

เช่นเดียวกับ จีรวุฒิ วงศ์พิมลพร ผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศ ของบริษัท เลอโนโว (ประเทศไทย) ที่ย้ำว่า การรับมือกับลูกค้าและพนักงานเป็นสิ่งสำคัญ คนทำดีลจะต้องสร้างความมั่นใจให้แก่คนกลุ่มนี้ได้ว่า ก่อนและหลังการซื้อและควบรวมกิจการ พวกเขายังสามารถมีอนาคตอยู่กับบริษัทได้ต่อไป

สำหรับแนวโน้มการทำดีล M&A ในอนาคต พรชัย เชื่อว่าจะเห็นดีลแบบนี้มากขึ้นหลังการรวมตัวเป็นประชาคมอาเซียน โดยเฉพาะบริษัทขนาดกลางจนถึงขนาดใหญ่ ในหลายอุตสาหกรรม เช่น อุปโภคบริโภค ธุรกิจบริการ โรงแรม พลังงาน อุตสาหกรรมเกษตร โลจิสติกส์ และที่สำคัญจะเห็นบริษัทไทยทำดีลกันเองมากขึ้น

ข่าวล่าสุด

บอลวันนี้ ดูบอลสด ถ่ายทอดสด โปรแกรมฟุตบอล วันจันทร์ที่ 15 ธ.ค. 68