ซีเกทกับอุตฯ HDD ของไทย
ซีเกทกับอุตสาหกรรม HDD ของไทยเมื่อวันที่ 20 พ.ย. 2557 นายแพททริค โอ มาลเล่ย์ ประธานฝ่ายการเงิน พร้อมคณะผู้บริหารบริษัท ซีเกท เทคโนโลยี (ประเทศไทย) ได้เข้าเยี่ยมคารวะนายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมแสดงความสนใจจะจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ (HDD) ในประเทศไทย โดยมีเป้าหมายร่วมเสนอจะร่วมมือกับสถาบันการศึกษาในการพัฒนาหลักสูตรสําหรับช่างเทคนิคในอุตสาหกรรมอิเล็คทรอนิกส์ เพื่อให้มีศักยภาพและจํานวนช่างเทคนิคเพิ่มมากขึ้น รวมถึงผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูง โดยเฉพาะเทคโนโลยีหัวอ่านและบันทึกข้อมูลฮาร์ดดิสก์ซึ่งสามารถประยุกต์และต่อยอดไปใช้ในอุตสาหกรรมอื่นๆได้
ซีเกทกับอุตสาหกรรม HDD ของไทยเมื่อวันที่ 20 พ.ย. 2557 นายแพททริค โอ มาลเล่ย์ ประธานฝ่ายการเงิน พร้อมคณะผู้บริหารบริษัท ซีเกท เทคโนโลยี (ประเทศไทย) ได้เข้าเยี่ยมคารวะนายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมแสดงความสนใจจะจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ (HDD) ในประเทศไทย โดยมีเป้าหมายร่วมเสนอจะร่วมมือกับสถาบันการศึกษาในการพัฒนาหลักสูตรสําหรับช่างเทคนิคในอุตสาหกรรมอิเล็คทรอนิกส์ เพื่อให้มีศักยภาพและจํานวนช่างเทคนิคเพิ่มมากขึ้น รวมถึงผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูง โดยเฉพาะเทคโนโลยีหัวอ่านและบันทึกข้อมูลฮาร์ดดิสก์ซึ่งสามารถประยุกต์และต่อยอดไปใช้ในอุตสาหกรรมอื่นๆได้
ปัจจุบัน บริษัท ซีเกท เป็นผู้ผลิต HDD รายใหญ่อันดับ 2 ของโลก มีส่วนแบ่งตลาดโลก 40% รองจากบริษัท เวสเทิร์นดิจิตอล (WD) ที่มีส่วนแบ่ง 45% ซึ่งทั้งสองบริษัทมีฐานผลิตใหญ่ในไทย และครองตลาดโลกรวมกัน 85%
สำหรับซีเกทเป็นผู้บุกเบิกอุตสาหกรรม HDD ในไทย เมื่อปี 2526 ระยะแรกมีพนักงานเพียง 50 คน ปัจจุบันมีฐานผลิต 2 แห่ง ที่เทพารักษ์ จ.สมุทรปราการ และนครราชสีมา ซึ่งนับว่าเป็นจุดยุทธศาสตร์ดีเยี่ยม เนื่องจากเมื่อเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ปลายปี 2554 ทำให้ไม่ได้รับผลกระทบ
ฐานการผลิตในไทยของบริษัทซีเกททั้ง 2 แห่งที่เทพารักษ์และนครราชสีมาไม่ได้จมน้ำแต่อย่างใด
ขณะที่ฐานผลิต HDD ของบริษัท WD ทั้งสองแห่งในไทย คือ ที่อุตสาหกรรมนวนคร จ.ปทุมธานี และเขตอุตสาหกรรมบางปะอิน จมน้ำทั้งคู่ เหลือแต่ฐานผลิตของบริษัทในเครือ คือ HGST ที่เขตอุตสาหกรรม 304 จ.ปราจีนบุรี แต่ปริมาณผลิต HDD ลดลงมาก ทำให้ขาดตลาดทั่วโลก ส่งผลให้ซีเกทขาย HDD เป็นเทน้ำเทท่าและแซงขึ้นเป็นอันดับ 1 ของโลกในช่วงนั้น
ปัจจุบัน ซีเกทและ WD ต่างเร่งวิจัยและพัฒนาเพื่อวางจำหน่าย HDD ที่มีสมรรถนะและความจุสูงขึ้นก่อนคู่แข่ง โดยเทคโนโลยี HDD ได้พัฒนาอย่างรวดเร็วจาก MR สู่ GMR และมาสู่ PMR ซึ่งแผ่นดิสก์มีความหนาแน่นของข้อมูลถึง 200300 GB/ตร.นิ้ว
จากนั้นบริษัท HGST ในเครือ WD ได้พัฒนาเทคโนโลยีใหม่เปิดตัวเมื่อเดือน พ.ย. 2556 โดยบรรจุก๊าซฮีเลียมแทนอากาศธรรมดาภายใน HDD ซึ่งทำให้สามารถบรรจุแผ่นดิสก์ไว้ภายใน HDD ชิดมากขึ้น โดยเพิ่มจาก 6 แผ่น เป็น 7 แผ่น ทำให้เป็นบริษัทแรกของโลกที่วางจำหน่าย HDD ขนาดความจุ 6TB
ต่อมาปลายเดือน ส.ค. 2557 ซีเกทได้เกทับ โดยเปิดตัว HDD ขนาดความจุ 8TB เป็นครั้งแรกของโลก โดยใช้เทคโนโลยีใหม่ คือ Shingled Magnetic Recording (SMR) เป็นการนำเทคโนโลยี PMR มาปรับปรุงให้ข้อมูลแต่ละแทร็คเลื่อมกันเหมือนกับกระเบื้องมุงหลังคาแต่ละแผ่นจะเลื่อมกัน โดยทางทฤษฎีเทคโนโลยี SMR สามารถเพิ่มความหนาแน่นไปอยู่ที่ระดับ 1.52 TB/ตร.นิ้ว
ถัดมาต้นเดือน ก.ย. 2557 บริษัท HGST ได้เกทับ โดยเปิดตัว HDD เทคโนโลยี SMR ควบรวมกับเทคโนโลยีก๊าซฮีเลียม ทำให้เพิ่มความจุเป็น 10TB รายแรกของโลก
ในอนาคต ทั้งสองบริษัทต่างเร่งวิจัยและพัฒนาเต็มที่ไปสู่เทคโนโลยีใหม่ Thermal Assisted Magnetic Recording (TAMR) ซึ่งจะติดเครื่องฉายแสงเลเซอร์ติดเข้ากับหัวอ่าน HDD เพื่อสามารถเพิ่มความหนาแน่นของข้อมูลเป็นมากถึง 10 TB/ตร.นิ้ว เพื่อหนีห่างจากคู่แข่งซึ่งไม่ใช่แต่เป็นผู้ผลิต HDD ด้วยกันเท่านั้น แต่ต้องแข่งกับ Solid State Drive (SSD) ที่กำลังมาแรงอีกด้วย


