"นาซ่า เวกัส" ปลุกที่รถไฟลุยค้าปลีก-โรงแรม 5 ดาว
หลังสาธารณูปโภคอำนวยความสะดวกเดินหน้าเพียบพร้อมทั้งทางบก ทางน้ำ
โดย...จะเรียม สำรวจ
หลังสาธารณูปโภคอำนวยความสะดวกเดินหน้าเพียบพร้อมทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ กลุ่มธุรกิจโรงแรมนาซ่า เวกัส ก็เล็งเห็นโอกาส หันมาพัฒนาที่ดินซึ่งได้สัมปทานจากการรถไฟแห่งประเทศไทยอีกกว่า 25 ไร่ จากทั้งหมดกว่า 30 ไร่ บริเวณ ฝั่งตรงข้ามกับโรงแรมนาซ่า เวกัส ติดกับถนน รามคำแหง พัฒนาเป็นธุรกิจค้าปลีกและโรงแรม
การพัฒนาพื้นที่ส่วนที่เหลือดังกล่าว ได้แบ่งการก่อสร้างเป็น 3 เฟส คือ เฟสแรก พัฒนาที่ดินประมาณ 8.6 ไร่ เป็นธุรกิจค้าปลีกไลฟ์สไตล์มอลล์ภายใต้ชื่อ เอลิงค์ บริหารงานโดยบริษัท แอร์พอร์ตลิงค์ สแควร์ และพัฒนาเป็นธุรกิจโรงแรมภายใต้ชื่อ นิราศบางกอก
ไชยา เริงเกษตรกรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอร์พอร์ตลิงค์ สแควร์ กล่าวว่า บริษัทได้สัมปทานที่ดินจากการรถไฟแห่งประเทศไทยมาตั้งแต่ปี 2528 รวมกว่า 30 ไร่ หลังจากได้ที่ดินมาก็นำมาพัฒนาเป็นโรงแรมนาซ่า เวกัส 650 ห้อง ตลอดเวลาที่เปิดให้บริการมาลูกค้าให้การตอบรับเป็นอย่างดี และปรับตัวเพิ่มขึ้นภายหลังจากแอร์พอร์ตลิงค์เปิดให้บริการ
จากการเดินทางที่สะดวกมากขึ้น ภายหลังจาก แอร์พอร์ตลิงค์เปิดให้บริการ เนื่องจากสถานีรามคำแหง อยู่ตรงบริเวณที่ดินที่ ไชยา สัมปทานได้พอดี จึงเห็นโอกาสต่อยอดธุรกิจ ด้วยการสร้างไลฟ์สไตล์มอลล์ เอลิงค์ จำนวน 6 ชั้น ขึ้นมา เพื่อเจาะกลุ่ม เป้าหมายนักท่องเที่ยวและกลุ่มคนทำงานในย่าน คลองตันและรามคำแหง หลังจากทดลองเปิดให้บริการไปเมื่อเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ลูกค้าให้การตอบรับเป็นผลที่น่าพอใจ
“ช่วงแรกเราจะเน้นการสร้างแบรนด์ของ เอลิงค์ ด้วยการสร้างตลาดนัด เอามันส์ ขึ้นมากว่า 300 แผง หลังจากทดลองเปิดเมื่อเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ลูกค้า ตอบรับเป็นที่น่าพอใจโดยเฉพาะกลุ่มสินค้าแอกเซสซอรี่ไอที และสินค้ากิฟต์ช็อป แต่เพื่อให้แบรนด์ตลาดนัดมีความโดดเด่นและสื่อถึงตัวไลฟ์สไตล์มอลล์ด้วย บริษัทจึงมีแผนจะเปลี่ยนชื่อตลาดนัด เป็นเอลิงค์ มาร์เก็ต สตรีท และเปิดเป็นทางการวันที่ 12 พ.ย.นี้” ไชยา กล่าว
สำหรับตัวไลฟ์สไตล์มอลล์ เอลิงค์ ขณะนี้มีผู้สนใจเข้ามาเช่าพื้นที่ขายสินค้าแล้ว 60% คาดเดือน ม.ค. 2558 จะขยายพื้นที่เช่าได้ 80% พร้อมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการประมาณเดือน ก.พ. และบริษัท จะเปิดให้บริการในส่วนของโรงแรมนิราศบางกอก ระดับ 5 ดาว จำนวน 74 ห้อง
ไชยา กล่าวต่อว่า เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการไม่ว่าจะทางรถไฟสายตะวันออก แอร์พอร์ตลิงค์ ทางรถยนต์ หรือทางเรือ บริษัทได้ใช้งบลงทุนส่วนหนึ่งสร้างสถานีรถไฟทองหล่อรามคำแหง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่เดินทางโดยรถไฟ
ขณะที่ลูกค้าที่เดินทางมาจากสนามบินสุวรรณภูมิ ต่อด้วยแอร์พอร์ตลิงค์ ก็อำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าด้วยการสร้างทางเชื่อมเข้าไลฟ์สไตล์มอลล์ และโรงแรมนาซ่า เวกัส ส่วนลูกค้าที่ขับรถมาก็ได้สร้างอาคารจอดรถชั้นใต้ดินจำนวน 600 คัน พร้อมกันนี้ ยังได้สร้างท่าเรือนิราศบางกอก ขึ้นมาใหม่บริเวณด้านหน้าโรงแรมนิราศบางกอก เพื่อใช้ทดแทนท่าเรือ คลองตัน ซึ่งจะปิดให้บริการไปในเร็วๆ นี้
“หลังจากบริษัทเปิดให้บริการโครงการในเฟสแรกครบทั้งในส่วนของค้าปลีกและโรงแรม ซึ่งใช้งบลงทุนไปกว่า 2,000 ล้านบาท บริษัทมั่นใจว่าโครงการดังกล่าวน่าจะถึงจุดคุ้มทุนภายใน 67 ปี เนื่องจากทำเลที่นำมาพัฒนาธุรกิจเป็นทำเลที่มีศักยภาพในด้านของการเดินทาง” ไชยา กล่าว
ด้วยศักยภาพของทำเลที่มีความพร้อมทุกการ เดินทาง หลังจากเปิดให้บริการไลฟ์สไตล์มอลล์ และโรงแรมนิราศบางกอก ไชยาก็จะก่อสร้างโครงการ เฟสที่ 2 เป็นอาคารจอดรถอีกประมาณ 1,000 คัน และคอนเวนชั่น ฮอลล์ หากใน 2-3 ปีนี้ ไลฟ์สไตล์มอลล์ เอลิงค์ และโรงแรมนิราศบางกอก ได้ผลการตอบรับเป็นอย่างดีก็มีแผนที่จะใช้งบอีกประมาณ 500 ล้านบาท สร้างบูติก โฮเต็ล เพื่อรองรับลูกค้า ที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต
“เหตุผลที่เราเน้นขยายธุรกิจออกมาในรูปแบบของโรงแรมเป็นหลัก เพราะเรามีความชำนาญในธุรกิจดังกล่าว นอกจากบริษัทจะมีโรงแรมนาซ่า เวกัส และโรงแรมนิราศบางกอกที่กำลังจะเปิดให้บริการในปีหน้าแล้ว บริษัทยังมีโรงแรมเรวดี รีวอร์ท จำนวน 15 ห้อง ที่เกาะกูดอีกด้วย ซึ่งในส่วนของโรงแรมเรวดี รีสอร์ท บริษัทไม่ได้ทำในรูปแบบของธุรกิจ แต่ทำไว้เพื่อพักผ่อนและรองรับแขกผู้ใหญ่” ไชยากล่าว
การออกมาประกาศขยายธุรกิจในครั้งนี้ของกลุ่มโรงแรมนาซ่า เวกัส นอกจากจะทำให้ธุรกิจมีความแข็งแกร่งมากขึ้นแล้ว ยังทำให้ธุรกิจในย่านรามคำแหงและคลองตันมีความคึกคักตามไปด้วย เพราะที่ดิน ที่กลุ่มโรงแรมนาซ่า เวกัส ได้มา ถือเป็นทำเลที่มีศักยภาพ เนื่องจากสามารถเชื่อมต่อการเดินทางได้ ทุกรูปแบบ แต่จะประสบความสำเร็จแค่ไหน คงต้องขึ้นอยู่กับฝีมือบริหาร ว่าจะมัดใจนักท่องเที่ยวและคนในย่านรามคำแหงและคลองตันได้แค่ไหน


