posttoday

อุตสาหกรรมHDD ในไทย

04 พฤศจิกายน 2557

ไทยกับอุตสาหกรรม HDDอุตสาหกรรม Hard Disk Drive (HDD) ของไทยเริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 2526 เมื่อบริษัท ซีเกท ได้รับการส่งเสริมการลงทุน โดยมีพนักงานเริ่มแรกช 50 คน จากนั้นได้เติบโตอย่างรวดเร็วนับจากปี 2535 เมื่อซีเกทขยายกิจการครั้งใหญ่ ตั้งฐานผลิตแห่งใหม่ที่นครราชสีมา และมีผู้ผลิตรายใหม่อีก 2 ราย คือ บริษัทไอบีเอ็ม (ปัจจุบันขยายกิจการให้บริษัท HGST) ตั้งฐานผลิตที่เขตอุตสาหกรรม 304 จ.ปราจีนบุรี และบริษัท เวสเทิร์น ดิจิตอล (WD) เข้ามาตั้งฐานผลิตในไทย

ไทยกับอุตสาหกรรม HDDอุตสาหกรรม Hard Disk Drive (HDD) ของไทยเริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 2526 เมื่อบริษัท ซีเกท ได้รับการส่งเสริมการลงทุน โดยมีพนักงานเริ่มแรกช 50 คน จากนั้นได้เติบโตอย่างรวดเร็วนับจากปี 2535 เมื่อซีเกทขยายกิจการครั้งใหญ่ ตั้งฐานผลิตแห่งใหม่ที่นครราชสีมา และมีผู้ผลิตรายใหม่อีก 2 ราย คือ บริษัทไอบีเอ็ม (ปัจจุบันขยายกิจการให้บริษัท HGST) ตั้งฐานผลิตที่เขตอุตสาหกรรม 304 จ.ปราจีนบุรี และบริษัท เวสเทิร์น ดิจิตอล (WD) เข้ามาตั้งฐานผลิตในไทย

ที่เขตอุตสาหกรรมนวนคร ต่อมาบริษัท WD ตั้งฐานผลิตเพิ่มอีกแห่งที่นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน

คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ซึ่งมี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน และพินิจ จารุสมบัติ รมว.อุตสาหกรรม เป็นรองประธานช่วงนั้น ได้สนับสนุน HDD เต็มอัตราศึกโดยปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์ส่งเสริมการลงทุน HDDเมื่อต้นปี 2547 เสนอสิทธิประโยชน์จำนวนมาก พร้อมเชิญชวนให้ย้ายฐานผลิตจากสิงคโปร์มาไทย ซึ่งประสบผลสำเร็จอย่างมาก ทำให้ไทยแซงหน้าสิงคโปร์ขึ้นเป็นฐานผลิต HDD ใหญ่อันดับ 1 ของโลก ในปี 2548 โดยส่งออกHDD และชิ้นส่วนสูงถึง 4.2 แสนล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 10% ของส่งออกรวมของประเทศ แต่ต่อมาไทยถูกจีนซึ่งเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงรายใหม่แซงขึ้นเป็นอันดับ 1

สำหรับสถานการณ์ HDD ของไทยในปัจจุบันไม่ค่อยดีนัก เนื่องจากปัญหาหลายประการ

ประการแรก อุปสงค์ต่อ HDD แม้นับตามหน่วยความจำแล้ว มีแนวโน้มเติบโตอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง เนื่องจากหน่วยความจำต่อชิ้นของ HDD ได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่หากนับตามจำนวนชิ้นกลับมีแนวโน้มลดลงช้าๆ จากที่เคยสูงสุด เป็นประวัติการณ์ 652 ล้านชิ้น เมื่อปี 2553 ได้ลดลงตามลำดับเหลือ 551 ล้านชิ้น ในปี 2556 เนื่องจากยอดจำหน่ายคอมพิวเตอร์ลดลง ประชาชนหันไปซื้อแท็บเล็ตซึ่งใช้หน่วยความจำแบบ Solid State Drive (SSD) และหน่วยความจำ SSD เริ่มรุกเข้าตลาดโน้ตบุ๊ก

เนื่องจากบาง เบา กินไฟน้อย ทำให้แบตเตอรี่ใช้งานยาวนานขึ้น

อย่างไรก็ตาม ในปี 2557 สถานการณ์เริ่มปรับตัวดีขึ้น ยอดจำหน่าย HDD เมื่อนับเป็นจำนวนชิ้นแล้ว คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี มาอยู่ที่ 560570 ล้านชิ้น เพิ่มขึ้น 23% จากปี 2556 แต่ยังน้อยกว่า SSD ที่เติบโตถึง 24%

ประการที่สอง ความไม่สงบกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนอย่างมาก เนื่องจากห่วงโซ่อุปทาน HDD เป็นแบบทันเวลา หากหยุดลงจะกระทบรุนแรงเป็นลูกโซ่ การปิดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและท่าอากาศดอนเมืองปลายปี 2551 กระทบต่อการผลิต HDD อย่างมาก เนื่องจากใช้บริการขนส่งทางอากาศ

ประการที่สาม เหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ปลายปี 2554 กระทบโรงงาน HDD ของบริษัท WD ทั้งสองแห่ง ได้รับความเสียหายแทบทั้งหมด ปัจจุบันแม้นิคมอุตสาหกรรมของภาคเอกชนได้ลงทุนจำนวนมากก่อสร้างเขื่อนป้องกันอุทกภัย แต่ภาครัฐแทบจะยังไม่ได้เริ่มก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมอย่างเป็นรูปธรรม ดังนั้น แม้ในอนาคตน้ำไม่ท่วมนิคมอุตสาหกรรม การผลิตก็จะยังคงหยุดชะงักอยู่ดี เพราะไม่สามารถขนส่งได้

เนื่องจากน้ำท่วมภายนอกนิคม ทำให้ไม่สามารถขนส่งได้

ปัจจุบัน ผู้ผลิต HDD จึงหันไปขยายการผลิตในประเทศอื่นๆ เพื่อลดความเสี่ยง โดยเฉพาะจีน มาเลเซีย และสิงคโปร์ แต่บางครั้งก็หนีเสือปะจระเข้ เช่น JCY ผู้ผลิตชิ้นส่วน HDD ได้ลดการผลิตที่โรงงานที่สระบุรีลง หันไปขยายการผลิตที่เกาะปีนังแทน แต่เมื่อเดือน ส.ค. 2557 โรงงานมาเลเซียเผชิญเหตุจลาจล ต้องปิดกิจการไปพักหนึ่ง ส่วนบริษัท HGST ได้ขยายกิจการในจีน แต่ก็เผชิญกับค่าจ้างสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงประกาศจะย้ายฐานผลิตบางส่วนจากจีนไปยังฟิลิปปินส์

ข่าวล่าสุด

BUZZEBEES สร้างประวัติการณ์! กวาดฐานผู้ใช้งานทะลุ 200 ล้านบัญชี