Biz Monitor

บาจาขยายสาขาเจาะแหล่งเที่ยวรุกออนไลน์

นายอนวัช สังขะทรัพย์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท บาจา (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมลงทุนเปิดสาขารูปแบบใหม่ๆ มากขึ้น โดยเฉพาะขนาดใหญ่ 1,000 ตร.ม. ในจุดหมายท่องเที่ยว เพื่อขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่และทำให้ยอดขายบริษัทโตก้าวกระโดดได้ โดยปีหน้าจะลงทุนขยายสาขาใหม่และปรับปรุงสาขาเดิมรวม 121 ล้านบาท จากนั้นจะขยายต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 20 สาขา/ปี ทำให้ปี 2560 มี 400 สาขา จากปัจจุบันมี 280 สาขา โดยปีหน้าตั้งเป้ายอดขายเติบโต 10% และเติบโต 20% ในปี 2560 ขณะปีนี้ได้รับผลกระทบปัญหาการเมือง คาดว่าทั้งปีน่าจะโตได้แค่ 4% รวมทั้งจะให้ความสำคัญกับการขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น เพื่อให้ยอดขายออนไลน์เพิ่มเป็น 10-15 ล้านบาท

สำหรับกำลังผลิตรองเท้าในไทยปัจจุบันอยู่ที่ 2-3 แสนคู่ต่อปี มีแผนจะเพิ่มกำลังผลิตรองความต้องการที่ขยายตัว ขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาในรูปแบบขยายโรงงานในพื้นที่เดิมหรือหาพื้นที่ใหม่ใกล้เคียงโรงงานเดิม เบื้องต้นใช้งบ 150-200 ล้านบาท เริ่มลงทุนช่วงครึ่งปีหลังปีหน้า คาดว่าจะทำให้กำลังผลิตในไทยเพิ่มเป็น 6-9 แสนคู่ต่อปี เพียงพอความต้องการในไทยและขยายตลาดประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ พม่า เวียดนาม ลาว ในอีก 5-10 ปี เนื่องจากบาจาไม่ได้มีโรงงานในไทยอย่างเดียว แต่มีหลายประเทศ ซึ่งในเอเชียนั้น จีนเป็นศูนย์กลางการผลิตหลักอยู่แล้ว

นายคาร์ลอส กราเซส กรรมการผู้จัดการ บริษัท บาจา (ประเทศไทย) กล่าวว่า ได้ฉลองครบรอบ 120 ปี บาจา จัดกิจกรรมตัดรองเท้ารุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่น 1,200 คู่ในโลก ภายใต้แบรนด์เดอะ วัน เป็นรองเท้าหุ้มส้นสีดำคลาสสิกผลิตด้วยมือในอิตาลี ในจำนวนนี้เป็นของไทย 70 คู่ เน้นมอบให้ผู้บริหารระดับสูงและสาวกบาจา นอกจากนี้ยังจัดโปรโมชั่น มอบส่วนลดสูงสุด 70% วันที่ 1-30 พ.ย. นี้ที่ร้านบาจา 46

คอฟฟีเมตลุ้นครีมเทียมฟื้นปีหน้า

นายคริสโตฟ สเติร์น ผู้อำนวยการบริหารหน่วยธุรกิจกาแฟและครีมเทียม บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) เปิดเผยว่า ตลาดครีมเทียมเริ่มกลับมาโตอีกครั้งหลังชะลอตัว 3-4 ปีที่ผ่านมา หลังจากผู้บริโภคที่เคยไปทดลองกาแฟสำเร็จรูปหลาย รูปแบบ เริ่มกลับมาดื่มกาแฟชงเองและใช้ครีมเทียม รวมทั้งการเติบโตของตลาดร้านกาแฟ โดยมูลค่าตลาดปีนี้อยู่ที่ 2,000 ล้านบาท คาดว่าปีหน้าจะโต 45% ซึ่งบริษัทตั้งเป้ารักษาส่วนแบ่งตลาดครีมเทียมไว้ที่ 90% โดยล่าสุดได้เปิดตัว เนสท์เล่ คอฟฟีเมต มิลค์กี้ ครีมเมอร์ ครีมเทียมผสมนม พรีเมียม ถือเป็นผลิตภัณฑ์ครีมเทียมผสมนมตัวแรกของเนสท์เล่ พร้อมทุ่มงบทำตลาด 80 ล้านบาทคาดว่าจะเป็นตัวสำคัญที่ช่วยผลักดันให้ตลาดครีมเทียมกลับมาเติบโตอีกครั้ง เพราะผลิตภัณฑ์จะช่วยให้คนเริ่มกลับมานึกถึงครีมเทียม เป็นการสร้างความสดใสให้กับแบรนด์ โดยจะใช้งบทำตลาดผลิตภัณฑ์ตัวนี้ 80 ล้านบาทเฉพาะปีนี้ ผ่านโฆษณาโทรทัศน์ ไวรัลคลิปทางสังคมออนไลน์ รวมทั้งชงให้ทดลองชิมตามศูนย์การค้าและอาคารสำนักงาน 40 แห่ง รวม 5 แสนแก้ว ขณะที่ราคาสินค้าแบบซอง 160 กรัม ราคา 60 บาท

"ได้สำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคคนไทย พบว่า 98% จะชอบดื่มกาแฟผสมนม และคนไทยมีรูปแบบการใช้ชีวิตที่ชอบไปนั่งดื่มกาแฟตามร้านมากขึ้น เน้นกาแฟที่มีรสชาติหอม หวานมัน การออกผลิตภัณฑ์ครีมเทียมผสมนม จะช่วยตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ดื่มกาแฟอยู่แล้วและเคยใช้ครีมเทียมชงยกระดับมาใช้ครีมเทียมผสมนม เพื่อให้เกิดประสบการณ์ดื่มที่ดีขึ้น" นาย สเติร์น กล่าว

นอกจากนี้มองว่า บริษัทต่างๆ เริ่มมีแนวโน้มให้พนักงานทำงานที่บ้านได้มากขึ้น ประกอบกับคนเริ่มให้ความสำคัญเรื่องการสร้างสมดุลระหว่างการใช้ชีวิตและการทำงาน ซึ่งแนวโน้มนี้จะทำให้คนไทยมีเวลาในการชงกาแฟดื่มเองที่บ้านเพื่อให้รสชาติตามแบบที่ตัวเองต้องการมากขึ้น