เซรามิกส์ ‘เปรมประชา’ ดีไซน์เด่น นำเทรนด์โลก

เซรามิกส์ไทยชื่อดังจาก จ.เชียงใหม่ สามารถสร้างยอดขายและยืนหยัดในตลาดส่งออกมานานหลายสิบปี กับแบรนด์ “เปรมประชา” ที่มีดีไซน์จากจุดเด่นการมีเอกลักษณ์การออกแบบสินค้าถูกใจลูกค้าต่างชาติ

“อัมพร ขันชัยทิศ” ผู้จัดการ บริษัท เปรมประชา คอลเลคชั่น และผู้ก่อตั้งแบรนด์ เปรมประชา (PREMPRACHA) เปิดเผยว่า การผลิตเซรามิกส์ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้นั้น มาจากการมุ่งสร้างดีไซน์สินค้าที่มีความโดดเด่นในแต่ละแบบและรูปทรงสินค้าใหม่ รวมทั้งเป็นดีไซน์ที่ไม่มีในตลาด ทำให้ลูกค้าชื่นชอบ และเมื่อเห็นสินค้าก็จะรู้ทันทีว่า นี้คือแบรนด์ เปรมประชา

ขณะเดียวกัน การผลิตในแต่ละแบบที่ใช้ฝีมือ (แฮนด์เมด) จึงมีความประณีตสูง ทำให้งานแต่ละชิ้นต้องใช้การผลิตแบบหลายขั้นตอน ทำให้คู่แข่งไม่สามารถลอกเลียนแบบสินค้าได้ เพราะเป็นการผลิตที่ยากและมีต้นทุนสูงกว่าการผลิตเซรามิกส์แบบทั่วไป ที่เน้นผลิตจำนวนมากและมีต้นทุนต่ำ

 

ดังนั้น เมื่อสินค้ามีรูปแบบเฉพาะตัว ทำให้สามารถเจาะตลาดลูกค้าระดับกลางและระดับบนได้เป็นอย่างดี โดยมีทีมดีไซเนอร์สินค้าทั้งคนไทยและคนญี่ปุ่นที่มาร่วมออกแบบสินค้า โดยเฉลี่ยแล้วจะมีคอลเลกชั่นใหม่ออกมาสู่ตลาดในทุกเดือน ซึ่งสินค้ามีดีไซน์ที่เป็นแบบเฉพาะตัวมากกว่า 1,000 ชิ้น และมีดีไซน์ ล้านนา คอลเลกชั่น ที่แสดงความเป็นภาคเหนือได้อย่างชัดเจน

นอกจากนี้ บริษัทยังได้จัดตั้งแผนกพัฒนาสินค้าขึ้นมาเฉพาะ เพื่อให้มีการผลิตสินค้าได้ตรงกับความต้องการของลูกค้าในแต่ละประเทศ รวมทั้งมีการทำการศึกษาข้อมูลและสำรวจตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้แบรนด์มีการพัฒนาได้ไม่หยุดยั้ง

 

สินค้าที่ผลิตที่มีทั้งของใช้ในบ้าน ของตกแต่งบ้าน และของใช้ในครัว ราคาตั้งแต่ 150 บาทขึ้นไปในชิ้นขนาดเล็ก จนถึงราคาระดับหลักหมื่นบาท มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 4 หมื่นชิ้น/เดือน โดยมีแรงงานในโรงงานประมาณ 130 คน

สัดส่วนการผลิตสินค้าจะมาจากตลาดส่งออกไปต่างประเทศมากสุด ในสัดส่วน 70% และตลาดในประเทศ 30% โดยตลาดส่งออกจะอยู่ในประเทศแถบยุโรป สหรัฐ และเอเชีย ซึ่งได้นำสินค้าไปขายในห้างสรรพสินค้าชื่อดังของแต่ละประเทศ ส่วนตลาดในประเทศจะผ่านโรงแรม เช่น โรงแรมในกลุ่มโฟร์ซีซั่นส์ ที่ถือเป็นลูกค้าหลักมายาวนาน

 

อุปสรรคของบริษัทในช่วงที่ผ่านมาอยู่ที่การสื่อสารกับพนักงาน เพื่อให้สามารถผลิตสินค้าได้ตรงตามแบบที่วางไว้ จึงต้องมีการทำความเข้าใจและต้องพูดคุยเพื่อหารือกับพนักงานให้สามารถผลิตสินค้าได้มีเอกลักษณ์ ซึ่งพนักงานคนไทยมีความสามารถที่สูงมาก

“เปรมประชาเน้นผลิตเซรามิกส์ที่มีความแตกต่าง ดีไซน์เด่น ทำให้เราต้องแข่งขันกับตัวเอง ไม่ได้แข่งขันกับประเทศจีนหรือเวียดนาม เพราะเป็นคนละตลาด ซึ่งสองประเทศดังกล่าวจะเน้นผลิตจำนวนมาก เพื่อขายสินค้าให้ได้มากที่สุด” อัมพร กล่าว

 

นอกจากนี้ ยังพบว่ามีคู่ค้าหลายประเทศที่เคยสั่งซื้อสินค้าเซรามิกส์จากต่างประเทศเพื่อนบ้านไทย เริ่มกลับมาสั่งแบรนด์ไทยผลิตสินค้าขึ้นมาอีกครั้ง เนื่องจากมีความเชื่อมั่นกับศักยภาพการผลิตของผู้ประกอบการไทย ที่สามารถผลิตสินค้าได้คุณภาพสูง และผลิตตรงกับคำสั่งซื้อในแต่ละแบบ

ส่วนการสร้างแบรนด์ “เปรมประชา” ในช่วงที่ผ่านมา ได้ร่วมงานแสดงสินค้าในประเทศ เช่น งานแสดงสินค้าของขวัญ และงานแสดงสินค้าของใช้ในบ้าน Bangkok International Gift Fair and Bangkok International Houseware Fair หรืองาน BIG+BIH ที่เข้าร่วมงานดังกล่าวทุกปี เพื่อพบคู่ค้าหลักและนำเสนอคอลเลกชั่นใหม่ รวมทั้งได้ไปร่วมงานแฟร์ในต่างประเทศ ทำให้ลูกค้าต่างชาติรู้จักแบรนด์ ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก

อีกทั้งบริษัทได้เข้าร่วมโครงการสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมไทย (iTAP) ของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เครือข่ายภาคเหนือ จึงช่วยเพิ่มศักยภาพการผลิตสินค้า ละการดีไซน์สินค้าต่างๆ รวมทั้งได้เข้าร่วมโครงการล้านนา คอลเลกชั่น ของ สวทช.ภาคเหนือ ที่ได้นำศิลปะของล้านนามาร่วมออกแบบสินค้าเพื่อต่อยอดดีไซน์ ล้านนา คอลเลกชั่น สู่ตลาดโลกให้สำเร็จ

 

ขณะที่ผลการดำเนินของบริษัทในช่วงที่ผ่านมา มียอดการส่งออกมูลค่ากว่า 2.5 ล้านเหรียญสหรัฐ/ปี รวมทั้งในปีนี้ที่มีผลการดำเนินงานในระดับที่น่าพอใจเช่นกัน ส่วนทุนจดทะเบียนของบริษัทอยู่ที่ 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐ

อัมพร กล่าวทิ้งท้ายว่า แบรนด์ “เปรมประชา” มีอายุครบ 27 ปีแล้ว โดยก่อตั้งในปี 2530 แต่สามารถผ่านทุกวิกฤต ทุกปัญหามาได้ เพราะบริษัทมุ่งให้ความสำคัญกับการดีไซน์ และรู้ว่าลูกค้าเป็นกลุ่มใด จึงตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ ทำให้แบรนด์มีการเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง เป้าหมายของบริษัทต่อจากนี้ไปจะมุ่งสร้างแบรนด์ “เปรมประชา” ให้รู้จักมากขึ้น เพื่อให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ได้มากที่สุด และเป็นแบรนด์ที่ทุกคนจะต้องนิยมซื้อ

แนวคิดธุรกิจ

มีดีไซน์ที่แตกต่าง

คุณภาพสินค้าอยู่ในระดับสูงและสม่ำเสมอ

ส่งมอบสินค้าได้ตรงตามกำหนด

เน้นตลาดกลางและบน