ร้องรัฐคุมรายย่อยเปิดร้านอาหารไร้ใบอนุญาต

ส.ภัตตาคารไทยร้องรัฐคุมกำเนิดรายย่อยแห่เปิดร้านอาหารไร้ใบอนุญาต สวนกระแสกำลังซื้อคนไทยฮวบ

นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย เปิดเผยว่า สมาคมฯต้องการให้ภาครัฐเข้ามาจัดระเบียบการเปิดร้านอาหารให้ถูกต้องตามกฎหมาย โดยต้องได้รับใบอนุญาตและผ่านการตรวจสอบตามขั้นตอนของกรมอนาอนามัย กระทรวงสาธารณสุข รวมถึงการจัดระเบียบสถานที่ตั้งร้านควรคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค เพื่อให้เกิดการพัฒนาในอุตสาหกรรมอาหารของประเทศในระยะยาว

ทั้งนี้การเปิดร้านอาหารในประเทศไทย เป็นกิจการที่คนไทยนิยมลงทุนในอันดับต้นๆ หากต้องการทำกิจการส่วนตัว  เนื่องจากอาจใช้เงินลงทุนไม่สูงนัก ขณะที่การเปิดร้านอาหารไม่ได้ศึกษาภาพธุรกิจอย่างถ่องแท้ เมื่อเกิดปัจจัยลบยอดขายไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ กลุ่มดังกล่าวเป็นสาเหตุของการก่อหนี้ระบบ

“ร้านอาหาร หาบเร่แผงลอยในประเทศไทยมีมากกว่า 2 แสนร้านค้า จดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมายเพียง 1.2 หมื่นร้านค้า สะท้อนให้เห็นภาพได้ว่าการเปิดร้านอาหารทำได้ง่าย แต่จะประคองให้อยู่รอดอย่างยืนนยาวได้ยาก ทำให้เกิดปัญหาต่างๆตามมา ทั้งหนี้นอกระบบ การปรุงอาหารไม่ถูกสุขลักษณะ ที่ตั้งร้านอาหารมีความแออัด ไม่สอดคล้องกับกำลังซื้อของผู้บริโภคทำให้กิจการเจ๊งตามมา”นางฐนิวรรณ กล่าว

สำหรับภาพรวมธุรกิจร้านอาหารช่วงไตรมาส 4 มีแนวโน้มลดลง 10% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากคนไทยมีกำลังซื้อลดลง ระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น เพราะทิศทางสภาวะเศณษฐกิจภายในประเทศไม่ฟื้นตัวและมีแนวโน้มซบเซาต่อเนื่องจนถึงปีหน้า ทำให้พฤติกรรมการรับประทานอาหาร การประชุม พบปะสังสรรค์นอกบ้านของคนไทยลดลงกว่าเท่าตัว เหลือเพียง 2 ครั้ง/สัปดาห์ จากเดิม 4-5 ครั้ง/สัปดาห์ ทำให้ภาพรวมรายได้ไตรมาส 4 ปีนี้ เฉลี่ยที่ 1 แสนล้านบาท เทียบกับไตรมาสที่ 4 ปีที่ผ่านมา 1.5-1.6 สนล้านบาท

นางฐนิวรรณ กล่าวว่า ด้านภาพรวมการเติบโตปีนี้ เฉลี่ย 5% ประมาณ 4.2 แสนล้านบาท เทียบกับปีที่ผ่านมา 4 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่ต่ำกว่าทุกปีที่ผ่านมา โตเฉลี่ย 10-15%ต่อปี ซึ่งผู้ประกอบการคาดหวังว่าเทสกาลลอยกระทง และเทสกาลนับถอยหลังวันขึ้นปีใหม่ จะช่วยกระตุ้นให้กลับลังซื้อกลับมาได่อย่างน้อย 10% โดยผู้ประกอบการได้ปรับกลยุทธ์การตลาดอย่างหนัก ผ่านการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย เช่น ร่วมกับบัตรเครดิตให้ส่วนลด การทานอาหารช่วงวันธรรมดามีส่วนลดมากกว่าช่วงวันศุกร์และเสาร์ เป็นต้น