กระบี่ชงเพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัยทางน้ำ-บก

สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว จ.กระบี่ชงกระทรวงท่องเที่ยวเพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัยทางน้ำและทางบก เพิ่มเรือเรสคิว สร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยว เผยแผนปีหน้ารุกโรดโชว์ตลาดอาเซียน 

นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจ.กระบี่ เปิดเผยว่า สมาคมฯเตรียมทำหนังสือถึง นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา พิจารณาเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวทั้งทางบกและทางน้ำในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวแถบอันดามัน นำร่อง จ.ภูเก็ต กระบี่ และบริเวณเกาะที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางจำนวนมาก เช่น เกาะพีพี เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวในระยะยาว

ทั้งนี้ต้องการให้ภาครัฐเร่งพิจารณาและดำเนินการใน 2 เรื่องหลัก ได้แก่ 1การเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวตลอด 24 ชั่วโมง การติดตั้งกล้องซีซีทีวี ในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ และ 2 การจัดซื้อเรือเรสคิว ที่มีประสิทธิภาพ สามารถเข้าให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยวทันทีกรณีเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน เพื่อลดความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน  ซึ่งที่ผ่านมาเรือดังกล่าวบางจุดไม่สามารถใช้งานได้จริง ทำให้การเข้าช่วยเหลือนักท่องเที่ยวไม่ทันต่อเหตุการณ์

“สมาคมฯต้องการให้รัฐเข้ามาจัดระบบการรักษาความปลอดภัยทางบำทางน้ำในพื้นที่อันดามันใหม่ทั้งหมด อาจตั้งศูนย์บริการที่มีประสิทธิภาพ มีเบอร์คอลเซ็นเตอร์ ที่สามารถรับเรื่องราวร้องทุกข์และเข้าให้ความช่วยเหลือกับนักท่องเที่ยวได้ เพราะจ.ภูเก็ต จ.กระบี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติ รัฐควรวงระบบที่ดี เพื่อสร้างความมั่นให้ให้กับชาวต่างชาติและคนไทย”นายชำนาญ กล่าว

อย่างไรก็ตามยอมรับว่าเหตุการณ์สปีด โบ๊ท ควีนสตาร์ บรรทุกนักท่องเที่ยว ชนกับเรือประมง อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นระยะสั้น หากรัฐมีมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเป็นรูปธรรม  เชื่อว่าจะช่วยฟื้นความเชื่อมั่นให้กลับคืนมาได้อย่างรวดเร็ว

นายชำนาญ กล่าวว่า สำหรับแผนกลยุทธ์การท่องเที่ยวจ.กระบี่ ปี 2558 สมาคมฯเตรียมร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) จัดโรดโชว์สินค้าทางการท่องเที่ยวจ.กระบี่ ไปยัง ประเทศ อินเดีย จีน ฮ่องกง เวียดนาม มาเลเซียและสิงคโปร์ ตามลำดับ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวตามแคมเปญวิถีไทย เตรียมนำเสนอแหล่งท่องเที่ยววิถีไทย การชมป่า การท่องเที่ยวเพื่อรับผิดชอบสังคม(ซีเอสอาร์) ซึ่งปัจจุบันจากชาติ โดยเฉพาะตลาดอาเซียน อย่าง สิงคโปร์ มาเลเซีย นิยมเดินทางมาทำกิจกรรมในประเทศไทยเพิ่มขึ้น การส่งเสริมกิจกรรมดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะทำให้กระบี่มีนักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติเดินทางในปีหน้า ประมาณ 5 ล้านคน เทียบกับปีนี้ 3.6 ล้านคน

นอกจากนี้การส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบซีเอสอาร์ จะช่วยเพิ่มอัตราการเข้าพักช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว(โลว์ซีซั่น) มีอัตราเท่ากับฤดูกาลท่องเที่ยว(ไฮซีซัน) เฉลี่ยที่ 80% เนื่องจากกลุ่มนักท่องเที่ยวซีเอสอาร์ สามารถเดินทางมาท่องเที่ยวไทยทุกฤดูกาลไม่จำกัดเฉพาะไฮซีซัน