บริหารสินทรัพย์สไตน์ "จอย รินลณี ศรีเพ็ญ"
“รินลณี ศรีเพ็ญ” หรือ “จอย”เป็นนักแสดงและพิธีกรในวงการบันเทิงไทยมาแล้ว 1617 ปี เข้าวงการมาตั้งแต่เป็นนิสิตคณะบริหารธุรกิจ (การเงิน) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ปี 3 รู้จักการเก็บออมเงินตามที่แม่สอนไว้เสมอ
“รินลณี ศรีเพ็ญ” หรือ “จอย”เป็นนักแสดงและพิธีกรในวงการบันเทิงไทยมาแล้ว 1617 ปี เข้าวงการมาตั้งแต่เป็นนิสิตคณะบริหารธุรกิจ (การเงิน) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ปี 3 รู้จักการเก็บออมเงินตามที่แม่สอนไว้เสมอ
การที่เธอเลือกเรียนมาทางด้านการเงินก็ทำให้เข้าใจและรู้ว่าควรจัดสรรหรือบริหารเงินอย่างไร สิ่งแรกที่เธอเลือกคือ การลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) โดยเข้าลงทุนตั้งแต่ปีแรกที่เริ่มให้ซื้อขายกองทุน LTF เพราะจุดประสงค์สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ ซึ่งทุกปีก็จะใส่เต็มที่
แรกๆ ยังไม่ค่อยแน่ใจการลงทุนก็จะเลือกบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ที่ดูมีความน่าเชื่อถือ และเลือกลงในกองที่ไปลงทุนตราสารหนี้สัดส่วนที่เยอะกว่า
เมื่อเริ่มมีความเข้าใจในระดับหนึ่งก็ค่อยขยับเปลี่ยนหรือเพิ่มกองที่มีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นเพิ่มขึ้น เพราะถือว่ารับความเสี่ยงได้มากขึ้น เมื่อครบอายุ 5 ปี ที่ไถ่ถอนได้ส่วนใหญ่ก็เลือกถือต่อไป และภายหลังก็เริ่มไปซื้อกองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ด้วย เพราะมองเป้าหมายเก็บเงินระยะยาวไปถึง 55 ปี ก็จะทำให้มีเงินอีกก้อนหนึ่งไว้ใช้
เธอแบ่งเงินไปลงทุนซื้อสลากออมสินเก็บไว้ หรือพันธบัตรรัฐบาลบ้าง ส่วนการลงทุนในหุ้นลงทุนมานานหลายปีจนจำช่วงเริ่มต้นไม่ได้ แรกๆ ก็ซื้อๆ ขายๆ บ้าง ถือไปโดยไม่ค่อยมีเวลาสนใจหรือดูพอร์ตอะไรมาก ทำให้บาดเจ็บไปบ้าง เพราะบางครั้งก็ไปเชื่อหุ้นที่มีข่าวตามกระแสก็จะขายตัดขาดทุนไปบ้าง
แต่หากต้องขายตัดขายทุนไปหลายสิบเปอร์เซ็นต์ส่วนใหญ่จะถือรอไประยะยาวได้ เพราะเงินที่เข้ามาลงทุนในหุ้นส่วนใหญ่เป็นเงินเย็น ไม่ต้องรีบไปใช้จ่ายอะไร เช่นเดียวกันหากได้ส่วนต่างราคาหุ้นประมาณ 15% ก็มักจะขายทำกำไรไปก่อนแล้วค่อยเข้าไปซื้อเก็บใหม่ แต่หลังๆ จะเน้นที่รอจังหวะหุ้นลงก็จะเข้าไปทยอยซื้อเก็บเข้าพอร์ต ซึ่งส่วนใหญ่เน้นไปที่หุ้นที่จ่ายปันผลสูงๆ
“จอย” เล่าว่า เมื่อได้รู้จัก “ฉันทวิชช์ธนะเสวี” หรือ “เต๋อ” พิธีกรร่วมรายการเปรี้ยวปาก ได้รับการแนะนำให้ไปลงทุนซื้อหุ้นกู้ของ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) เพราะเต๋อลงทุนมาก่อน
กลุ่มลงทุนหุ้นกู้ของ SCC จะมีแฟนคลับเหนียวแน่นและเข้าถึงได้ยาก อีกทั้งเธอก็มีการทำประกันชีวิตด้วย แรกๆ ก็ซื้อแบบสะสมทรัพย์ หลังๆ พออายุเพิ่มก็ไปซื้อเพื่อประกันสุขภาพไปด้วย
สินทรัพย์อีกประเภทหนึ่งที่เธอลงทุนคือทองคำ โดยช่วงที่ราคาทองคำขึ้นลงเธอก็จะซื้อราคาทองคำแท่งแบบซื้อกระดาษโดยไม่ต้องเอาทองคำแท่งมาเก็บไว้จริงๆ ตรงนี้จะเป็นการซื้อขายระยะสั้นมากกว่าได้กำไร 1,0002,000 บาทก็ขาย แต่หากช่วงที่ราคาทองไม่ดีก็จะซื้อทองคำแท่งจริงๆ มาเก็บไว้ เพราะมีมูลค่าเก็บไว้นานเท่าไรก็ได้ และเชื่อว่าอนาคตราคาทองต้องขึ้นอยู่ดีอีกทั้งยังทำธุรกิจอาหารเสริมร่วมกับ“วรายุฑ มิลินทจินดา” หรือ “ไก่” ชื่อ Varanoblink
23 ปีที่ผ่านมา เธอเริ่มไปลงทุนอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียม ส่วนใหญ่เน้นซื้อที่ทำเลดีเป็นหลักก่อน เช่นที่ผ่านมาซื้อแถวซอยสุขุมวิท 23 มีรถไฟฟ้าผ่าน และเป็นจุดที่คนต่างชาติต้องการอยู่ทำให้สามารถเลือกลูกค้าและกำหนดอัตราการเช่าได้ในระดับดีได้ โดยส่วนใหญ่เธอเลือกผู้เช่าที่เป็นคนญี่ปุ่น เพราะรู้สึกคุ้นเคยกับวิถีชีวิตและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของคนญี่ปุ่น
“จอย” เล่าต่อว่า ปกติเธอจะไม่กำเงินสดและไม่ค่อยเน้นฝากเงินเย็นไว้กับธนาคารพาณิชย์ เพราะผลตอบแทนต่ำ จึงเน้นลงทุนเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนที่ดี ในระดับที่พอดี ไม่จำเป็นต้องให้ได้อัตราผลตอบแทนที่สูงมาก ให้รู้สึกสนุกกับการลงทุน บริหารเงิน บริหารความเสี่ยงกับรายได้ที่รับมาให้เงินต่อยอดไป
“พอร์ตการลงทุนทั้งหมดวันนี้ก็เข้าสู่ตัวเลขหลักหลายสิบล้านบาท เพียงเท่านี้ก็ถือว่ามีชีวิตที่มีหลักประกันให้คนในครอบครัวได้ระดับหนึ่ง แต่ก็เชื่อว่าถ้าอายุ 55 ปี จะมีอิสรภาพทางการเงินได้ดี”
เธอคนนี้เป็นนักบริหารการเงินที่ดีคนหนึ่ง ที่สามารถติดตามบทบาทการเป็นพิธีกรและนักแสดงของเธอได้ทางช่อง 3 โดยเร็วๆ นี้กำลังจะเปิดกล้องละครเรื่องใหม่ “เจ้าบ้านเจ้าเรือน”


