ไกด์ภาษาไทยในฮ่องกง
ฮ่องกงเป็นจุดหมายปลายทางยอดฮิตแห่งหนึ่งของคนไทย ที่แม้คนท้องถิ่นจะสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดี แต่มัคคุเทศก์ หรือไกด์ ก็ยังมีบทบาทสำคัญสำหรับการท่องเที่ยวของกรุ๊ปทัวร์ต่างชาติ
ฮ่องกงเป็นจุดหมายปลายทางยอดฮิตแห่งหนึ่งของคนไทย ที่แม้คนท้องถิ่นจะสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดี แต่มัคคุเทศก์ หรือไกด์ ก็ยังมีบทบาทสำคัญสำหรับการท่องเที่ยวของกรุ๊ปทัวร์ต่างชาติ
ว่อง หม่าน ตั๊ก หรือ อาตั๊ก ไกด์หนุ่มวัย 33 ปี เล่าถึงการก้าวสู่วงการไกด์ภาษาไทยว่า เขาเป็นไกด์มาประมาณ 12 ปีแล้ว แม้ว่าจะไม่ได้เรียนจบมาด้านนี้ แถมยังพูดภาษาไทยไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่เมื่อมีโอกาสทำงานกับบริษัทคนไทยที่มาลงทุนที่ฮ่องกง ทำให้ได้เรียนรู้และฝึกพูดภาษาไทย เมื่อมีคนรู้จักทำบริษัททัวร์มาชวนเลยตัดสินใจมาทำงานด้วย เขายังแอบกระซิบเคล็ดลับเรียนลัดที่ทำให้ภาษาไทยของเขาชัดเจนและค่อนข้างแตกฉาน คือ การมีภรรยาเป็นคนไทยนั่นเอง
เมื่อถามถึงความรู้สึกที่ได้ดูแลทัวร์ไทยมานาน อาตั๊ก บอกว่า คนไทยใจดี ชอบมาช็อปปิ้งที่ฮ่องกง และไหว้พระ และด้วยความที่คนไทยมาเที่ยวฮ่องกงกันเยอะ ทำให้พนักงานในร้านอาหารและโรงแรมในฮ่องกงสามารถพูดภาษาไทยได้
ไกด์หนุ่มยังได้บอกเล่ามุมต่างๆ ของฮ่องกงให้ฟังว่า แม้ฮ่องกงเป็นเพียงเกาะเล็กๆ ไม่มีทรัพยากร แต่มาถึงวันนี้พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นแล้วว่า ทุนมนุษย์เป็นทรัพยากรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่ผ่านมาฮ่องกงใส่ใจกับการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของคนในชาติเป็นอย่างมาก จนกลายเป็นต้นแบบการเรียนการสอนในหลายประเทศ
เมื่อเข้าสู่ชีวิตการทำงานชาวฮ่องกงที่เรียนจบปริญญาตรีจะได้เงินเดือนเริ่มต้นประมาณ 1.21.3 หมื่นเหรียญฮ่องกง หรือประมาณ 45 หมื่นบาทไทย ซึ่งเมื่อเทียบกับค่าครองชีพของฮ่องกงแล้ว เรียกได้ว่าแค่พออยู่พอกิน ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจหากคนไทยจะเป็นว่าคนฮ่องกงต้องขยันทำงาน เพื่อให้มีรายได้สมดุลกับค่าครองชีพ
“คนที่ทำงานพาร์ตไทม์ไม่ได้มีเงินเดือนประจำ ก็จะทำงานกันวันละ 10 ชั่วโมง ไม่เหมือนกับคนไทยที่ทำงานกันแค่วันละ 8 ชั่วโมง”
นอกจากนี้รายได้ของเด็กจบปริญญาตรีใหม่ๆ กว่าจะเก็บเงินซื้อห้องได้สักห้องหนึ่งก็ต้องใช้เวลานาน เพราะราคาที่อยู่อาศัยของฮ่องกงค่อนข้างแพงมาก เพราะห้องขนาด 2628 ตารางเมตร ของที่นี่ก็เริ่มต้นไม่ต่ำกว่า 34 ล้านเหรียญฮ่องกง ขณะที่เมืองไทยราคาอยู่แค่ 12 ล้านบาทเท่านั้น และยิ่งห้องอยู่ชั้นสูงเท่าไหร่ ราคาก็ยิ่งแพงตามไปด้วย
“สาเหตุที่เป็นแบบนี้ เพราะมีการเก็งกำไรในที่ดิน เห็นตึกสูงๆ ที่สร้างขึ้นใหม่ทั่วเกาะฮ่องกง บางตึกยังไม่ทันสร้างเสร็จก็มีคนจองซื้อห้องหมดแล้ว เรียกว่าถ้ามีเงินตึกไหนขึ้นใหม่ก็ซื้อไว้ก่อนเลย แค่ไม่กี่วันราคาก็ขึ้น ได้กำไรหลายเท่าตัวแล้ว” อาตั๊ก ขยายความให้คลายความสงสัย
นอกจากนี้ การเก็งกำไรของคนฮ่องกงยังไม่ได้มีแค่ที่ดินหรืออาคารที่พักอาศัยเท่านั้น เพราะที่นี่สามารถเก็งกำไรได้ทุกอย่าง แม้กระทั่งป้ายทะเบียนรถแท็กซี่ก็ยังถูกนำไปขายเก็งกำไรได้ เพราะฮ่องกงมีกฎหมายบังคับอนุญาตให้มีรถแท็กซี่วิ่งได้ไม่เกิน 1.2 หมื่นคันเท่านั้น ด้วยปริมาณป้ายทะเบียนที่จำกัด ไม่มีการออกป้ายทะเบียนเพิ่มขึ้นแม้ว่าจำนวนรถจะเพิ่มขึ้น จึงทำให้เกิดการซื้อขายป้ายทะเบียนแท็กซี่ เพื่อเก็งกำไร


