posttoday

อาหารเทศกาลเจ เสี่ยงมีสารปนเปื้อน

04 ตุลาคม 2557

ปีนี้มีความพิเศษสำหรับคนที่รับประทานอาหารเจ เพราะว่าจะเป็นปีที่มีการกินเจถึง 2 ช่วง

ปีนี้มีความพิเศษสำหรับคนที่รับประทานอาหารเจ เพราะว่าจะเป็นปีที่มีการกินเจถึง 2 ช่วง ซึ่งช่วงแรกเพิ่งหมดไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา แต่ก็จะกลับมากินเจกันอีกครั้งช่วงปลายเดือน ต.ค.นี้

ทุกปีเมื่อถึงช่วงเทศกาลกินเจ หน่วยงานภาครัฐอย่างองค์การอาหารและยา (อย.) หรือกระทรวงสาธารณสุข ก็มักจะออกโรงมาเตือนคนที่กินเจว่าให้กินอย่างระมัดระวัง เพราะอาหารเจแม้จะมีภาพลักษณ์ของอาหารที่บริสุทธิ์ดีต่อสุขภาพ แต่ก็แฝงความเสี่ยงเรื่องอาหารไม่ปลอดภัยอยู่ไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสารเคมีปนเปื้อนในผัก สารกันบูดในอาหารหมักดอง ไม่เว้นแม้แต่เรื่องของน้ำมันทอดซ้ำในอาหารทอด

สำนักคุณภาพและความปลอดภัยอาหาร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้เก็บตัวอย่างอาหารเพื่อเฝ้าระวังความปลอดภัยของอาหารช่วงเทศกาลกินเจปี 2557 โดยได้เก็บตัวอย่าง กานาฉ่าย ไชโป๊ หัวผักกาดดอง และยำเกี้ยมไฉ่ รวม 30 ตัวอย่าง เพื่อตรวจวิเคราะห์หาวัตถุกันเสียทางห้องปฏิบัติการ พบว่ามีตัวอย่างที่ใช้วัตถุกันเสียถึง 29 ตัวอย่าง ไม่พบเพียง 1 ตัวอย่าง และพบตัวอย่างที่ใช้วัตถุกันเสียทั้งสองชนิด จำนวน 6 ตัวอย่าง

ในจำนวนนี้พบกรดเบนโซอิกเกินมาตรฐาน 22 ตัวอย่าง คิดเป็นร้อยละ 73.3 โดยพบปริมาณสูงสุด 5,995 มิลลิกรัม/กิโลกรัม ในตัวอย่างกานาฉ่าย ส่วนกรดซอร์บิกพบในตัวอย่างไชโป๊/ไชโป๊ฝอย อยู่ในช่วง 50418 มิลลิกรัม/กิโลกรัม แม้ว่ากรดเบนโซอิกจะมีความเป็นพิษต่ำ แต่ถ้าได้รับในปริมาณที่สูงมากอาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียน ปวดท้อง ท้องเสีย

ทั้งนี้ ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับที่ 281 อนุญาตให้ใช้วัตถุกันเสียกรดเบนโซอิกและกรดซอร์บิกในผักดอง ผักปรุงสุกได้ไม่เกิน 1,000 มิลลิกรัม/1 กิโลกรัมเท่านั้น

นอกจากนี้ นิตยสารฉลาดซื้อ ได้ลองสุ่มเก็บตัวอย่างกานาฉ่าย หนึ่งในเมนูยอดนิยมช่วงกินเจเพื่อนำมาวิเคราะห์หาปริมาณสารโพลาร์ สารที่เกิดจากน้ำมันทอดซ้ำเสื่อมสภาพ โดยการใช้ชุดทดสอบน้ำมันทอดซ้ำกับตัวอย่างกานาฉ่ายเมนูฮิตช่วงเทศกาลกินเจจากตลาดและซูเปอร์มาร์เก็ตในกรุงเทพฯ จำนวน 13 ตัวอย่าง พบว่ามีเพียง 3 ตัวอย่างเท่านั้น ที่พบการปนเปื้อนของสารโพลาร์ในปริมาณที่ไม่เกินเกณฑ์มาตรฐาน

ส่วนตัวอย่างกานาฉ่ายอีก 10 ตัวอย่างที่เหลือตรวจวิเคราะห์พบปริมาณสารโพลาร์ปนเปื้อนเกินค่ามาตรฐานที่กำหนดไว้คือ มากกว่า 25% ของน้ำหนักอาหาร ซึ่งจากการทดสอบด้วยชุดทดสอบ พบว่าตัวอย่างเปลี่ยนเป็นสีเหลืองเข้ม คิดเป็นสารโพลาร์ที่อยู่ในช่วง 27% ของน้ำหนักอาหาร ซึ่งถือเป็นน้ำมันที่เสื่อมสภาพแล้ว ไม่ควรนำมาใช้ประกอบอาหาร

โดยกระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดให้มีปริมาณสารโพลาร์ได้ไม่เกิน 25% ของน้ำหนัก ผู้ประกอบการอาหารที่ใช้น้ำมันทอดอาหารที่มีค่าปริมาณสารโพลาร์เกินมาตรฐานที่กำหนดและจำหน่ายอาหารผิดมาตรฐานจะระวางโทษปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท

ใครที่อยากรู้ข้อมูลดีๆ เรื่องผู้บริโภค สามารถติดตามและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ นิตยสาร “ฉลาดซื้อ” นิตยสารเพื่อการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นของผู้บริโภค www.ฉลาดซื้อ.com, www.facebook.com/chaladsue และโทร 02-248-3737

ข่าวล่าสุด

"พลังงาน" สั่งเข้ม! ตรวจสอบปริมาณส่งออกน้ำมัน ทางบก-เรือ พร้อมร่วมมือกองทัพสกัดลักลอบส่งน้ำมันเข้ากัมพูชา