เมื่อ SET50 Options และ SET50 DW ครบกำหนดอายุ
เมื่อพูดถึงความแตกต่างระหว่าง Options และ DW เรามักหยิบยกประเด็นของลักษณะสินค้า และรูปแบบการซื้อขายมาเปรียบเทียบความแตกต่าง ซึ่งหากพิจารณาเพิ่มเติมต่อเนื่องไปจนสัญญาครบอายุ ยังมีประเด็นที่สินค้าทั้งสองประเภทมีความแตกต่างกัน ดังนั้นในสัปดาห์นี้คอลัมน์นัดพบ TFEX ขอนำเสนอประเด็นที่ควรทราบเกี่ยวกับการใช้สิทธิของ Options และ DW เพื่อเป็นข้อมูลก่อนตัดสินใจซื้อขายกันนะครับ
เมื่อพูดถึงความแตกต่างระหว่าง Options และ DW เรามักหยิบยกประเด็นของลักษณะสินค้า และรูปแบบการซื้อขายมาเปรียบเทียบความแตกต่าง ซึ่งหากพิจารณาเพิ่มเติมต่อเนื่องไปจนสัญญาครบอายุ ยังมีประเด็นที่สินค้าทั้งสองประเภทมีความแตกต่างกัน ดังนั้นในสัปดาห์นี้คอลัมน์นัดพบ TFEX ขอนำเสนอประเด็นที่ควรทราบเกี่ยวกับการใช้สิทธิของ Options และ DW เพื่อเป็นข้อมูลก่อนตัดสินใจซื้อขายกันนะครับ
เงื่อนไขการใช้สิทธิของผู้ถือ SET50 Options เมื่อสัญญาครบกำหนดไม่แตกต่างจากรูปแบบที่ใช้ในการตัดสินใจ สำหรับการลงทุนใน SET50 DW เนื่องจากทั้งสองสินค้าให้สิทธิแก่ผู้ถือในการเลือกใช้ที่จะซื้อหรือขายดัชนี SET50 ตามราคาใช้สิทธิที่กำหนดในสัญญาที่ถืออยู่ หากท่านเป็นผู้ถือ Call Options หรือ Call DW จะตัดสินใจใช้สิทธิก็ต่อเมื่อราคาใช้สิทธิที่กำหนดไว้ในสัญญามีระดับต่ำกว่าดัชนี SET50 เพราะจะได้ประโยชน์จากการซื้อดัชนี SET50 ต่ำกว่าราคาตลาด แต่หากเป็นผู้ถือ Put Options หรือ Put DW ก็จะตัดสินใจสิทธิขายดังกล่าวเมื่อราคาใช้สิทธิขายที่ระบุไว้ในสัญญามีระดับสูงกว่าดัชนี SET50 เพราะถือว่าขายได้สูงกว่าราคาตลาด
อย่างไรก็ตาม Option และ DW ที่อ้างอิง SET50 มีความแตกต่างกันในสองประเด็นหลักๆ คือ (1) เงื่อนไขของราคาใช้สิทธิ และ (2) คู่กรณีในการใช้สิทธิ
สำหรับเรื่องแรกเงื่อนไขของราคาใช้สิทธินั้น Options จะมีการกำหนดวิธีการคำนวณดัชนีสำหรับชำระราคาวันสุดท้ายไว้ชัดเจนในลักษณะของสัญญา ดังนั้น Options ทุกๆ สัญญาที่ซื้อขายในตลาด TFEX จะอ้างอิงแนวทางการคำนวณค่าดัชนี SET50 เหมือนกันหมดทุกตัว โดยจะคำนวณมาจากดัชนี SET50 ที่ปรากฏในช่วง 15 นาทีสุดท้ายก่อนปิดตลาดหุ้นในวันที่สัญญา Options ครบกำหนดอายุ มาตัดค่าที่สูงสุด 3 ค่า และตัดค่าที่ต่ำสุด 3 ค่า ออกก่อนนำข้อมูลที่เหลือมาคำนวณหาค่าเฉลี่ยและใช้เป็นตัวแทน ดัชนี SET50 สำหรับอ้างอิงการใช้สิทธิ เพื่อป้องกันการทำราคาและยังคงคุณลักษณะการเป็นตัวแทนของดัชนีช่วงท้ายตลาดไปพร้อมๆ กัน
ในขณะที่เงื่อนไขของการคำนวณค่าอ้างอิงของดัชนี SET50 ที่จะใช้กับ DW จะถูกกำหนดโดยผู้ออกแต่ละราย โดยในปัจจุบันแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ คือ รูปแบบที่หนึ่ง อ้างอิงค่าที่ TFEX ประกาศเป็นราคาดัชนี SET50 ที่ใช้ชำระราคาให้กับออปชั่นที่ครบอายุวันเดียวกัน ดังนั้น DW ประเภทนี้ก็จะซื้อขายและครบอายุได้ในวันเดียวกับ Options และเมื่อสิ้นสุดเวลาซื้อขายของวันสุดท้ายก็จะอ้างอิงค่ามาจากที่ TFEX ประกาศ รูปแบบที่สอง ผู้ออกอาจเลือกกำหนดใช้ค่าปิดของดัชนี SET50 ณ วันซื้อขายวันสุดท้ายของ DW มาเป็นตัวแทนโดยตรงและรูปแบบที่สามคือ ผู้ออกอาจกำหนดให้นำค่าปิดของดัชนี SET50 ในช่วง 5 วันทำการก่อนที่ DW จะครบอายุมาคำนวณหาค่าเฉลี่ยและใช้เป็นตัวแทนดัชนี SET50 กับราคาใช้สิทธิเพื่อทำการชำระราคาครั้งสุดท้ายก็ได้
อีกประเด็นที่มีความแตกต่างในเรื่องการใช้สิทธิของ Options และ DW บน SET50 คือ คู่กรณีที่ผู้ถือสัญญาจะไปใช้สิทธิเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนจากส่วนต่าง หากเป็น Options จะมีการดำเนินการให้โดยอัตโนมัติหากการใช้สิทธิดังกล่าวสร้างผลตอบแทนให้ หรือที่ในวงการใช้คำว่า In the money โดยจะมีหน่วยงานที่ดูแลคือสำนักหักบัญชี ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูและเรื่องหลักประกันการซื้อขายสินค้าทุกๆ ประเภทใน TFEX อยู่แล้ว ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าหากมีกำไรท่านก็จะได้รับชำระเงินอย่างแน่นอน ในขณะที่หากต้องการใช้สิทธิใน DW ท่านต้องไปติดต่อโบรกเกอร์ผู้ออก DW ซึ่งในส่วนนี้ได้มีการแสดงข้อมูลว่าเป็นความเสี่ยงอีกประเภทที่ DW มีเพิ่มเติมเข้ามา หรือที่เรียกว่า Issuer Risk ที่ผู้ออกอาจไม่สามารถชำระเงินหรือกำไรได้เมื่อผู้ถือต้องการใช้สิทธิ
ดังนั้น การซื้อขาย Options หรือ DW ที่อ้างอิงดัชนี SET50 เช่นเดียวกัน แต่ก็ยังมีรายละเอียดบางด้านที่แตกต่างกัน ซึ่งอาจส่งผลให้ต้องปรับกลยุทธ์หรือเลือกใช้ให้เหมาะสมตามความต้องการของผู้ลงทุน และต้องศึกษารายละเอียดของสินค้าเล่านั้นให้ครบถ้วนก่อนตัดสินใจลงทุนกันนะครับ


