ประวิทย์ท้าชนช่อง3ไม่ออกคู่ขนาน

บิ๊กช่อง 3 ยืนยันไม่ยอมออกคู่ขนานทีวีดิจิทัล โวลงทุนพัฒนาคอนเทนต์ปีละหมื่นล้าน

นายประวิทย์ มาลีนนท์ กรรมการบริหาร สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสี ช่อง 3 ตัวแทนบริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ กล่าวระหว่างร่วมงานเสวนาเรื่อง “อยู่รอดอย่างรับผิดชอบในยุคทีวีดิจิทัล” ว่า ไม่คิดที่จะนำช่อง 3 อะนาล็อกไปออกคู่ขนานกับทีวีดิจิทัล แต่ขณะนี้อยู่ในสภาวะถูกบีบให้เข้าร่วมในระบบทีวีดิจิทัล ซึ่งยังไม่มีโครงข่ายและไม่มีผู้ชม เพราะยังไม่มีการจำหน่ายกล่องรับสัญญาณ และยังสิ้นเปลืองงบประมาณในการขอลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสัญญาณ

“มีคำถามว่าทำไมไม่ยกเลิกระบบอะนาล็อก ตอบเลยว่าก็เป็นสิทธิของผม ยืนยันว่าช่อง 3 ไม่เคยคิดไปออกคู่ขนานตั้งแต่ต้น ผมเป็นผู้ชาย จะให้เปลี่ยนเป็นผู้หญิงและทำศัลยกรรมด้วย มีใครจะทำ วันนี้ผมเป็นธุรกิจฟรีทีวี กสทช.มีอำนาจอะไรให้ผมเปลี่ยนจากฟรีทีวีเป็นเพย์ทีวี ซึ่งผมทำธุรกิจฟรีทีวีมาโดยตลอด ซึ่งการขอเพย์ทีวีแต่ออกเป็นฟรีทีวี นั่นหมายความว่าเป็นการเริ่มธุรกิจใหม่ทั้งหมด ซึ่งผมต้องไปรื้อทุกอย่าง” นายประวิทย์ กล่าว

นายประวิทย์ กล่าวอีกว่า ขอเสนอให้กล่องรับสัญญาณระบบดิจิทัลรับสัญญาณอะนาล็อกได้ด้วยหรือไม่ แต่ไม่ใช่บังคับให้ช่อง 3 ไปออกทีวีดิจิทัลคู่ขนาน ซึ่งที่ผ่านมาช่อง 3 ต้องการทำคอนเทนต์ดีๆ จนพัฒนาสถานีมาเป็นเวลา 45 ปีแล้ว มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานปีละกว่าหมื่นล้านบาท แต่ทีวีดิจิทัล 24 ช่อง มีช่องไหนที่ลงทุนเกินหมื่นล้านบาท หากลงทุนไม่ถึงก็ทำรายการไม่ถึง

“ดังนั้นช่อง 3 จะถ่ายทอดสัญญาณโทรทัศน์ในระบบอะนาล็อกไปจนกว่าจะหมดสัมปทานในปี 2563 และขอให้ไปว่ากันในชั้นศาล” นายประวิทย์ ระบุ

นายประวิทย์ กล่าวว่า คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ควรจะเร่งรัดลงทุนโครงข่ายทีวีดิจิทัลให้เข้าถึงประชาชน ไม่ควรลงมายุ่งทุกเรื่อง เช่น เรื่องการวิจัยเรตติ้ง ไม่เช่นนั้นอาจเกิดเดดล็อก หรือตายทั้งระบบ ส่วนเรื่องมัสต์แฮฟหรือรายการที่ต้องถ่ายทอดสดผ่านฟรีทีวี เช่น ฟุตบอลโลก ฯลฯ และมัสต์แครี่ หรือการบังคับให้เคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียมต้องออกอากาศช่องฟรีทีวีนั้นควรจะยุติ ทบทวน หรือยกเลิก

“ถ้าทีวีดิจิทัลไม่มีอนาคต ไม่ถึงคนดู ผมถามว่าเดือน มิ.ย.ก.ค.ที่ผ่านมาอาร์เอสจะเป็นที่หนึ่งได้อย่างไร เขาเป็นที่หนึ่งได้ ก็เพราะว่าเขามีคนดูเพราะมีฟุตบอลโลก เรื่องนี้ใครเถียงผม และรายการฟุตบอลโลกอยู่หลังเที่ยงคืนเสียเป็นส่วนใหญ่ด้วยซ้ำ ไม่ใช่ช่อง 3 ที่เป็นปัญหา” นายประวิทย์ กล่าว

ด้าน น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ กสท. กล่าวว่า ในวันที่ 15 ก.ย.นี้ บอร์ด กสท.จะพิจารณาว่าจะรับข้อเสนอของนายประวิทย์ที่อ้างเรื่องปัญหาลิขสิทธิ์และค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นทำให้ไม่สามารถนำช่อง 3 ออกอากาศในทีวีดิจิทัลได้ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับ กสท.ว่าจะหาทางออกอย่างไร

“หากช่อง 3 ยืนยันที่จะไม่ออกอากาศคู่ขนาน ทาง กสทช.จะปฏิบัติตามระเบียบโดยการระงับการถ่ายทอด ยืนยันว่าไม่ใช่การลิดรอนสิทธิ แต่ช่อง 3 เป็นผู้เลือกเองที่ไม่เดินตามนโยบายใหม่ของ กสทช.” น.ส.สุภิญญา กล่าว