ไฟดับไม่สิ้นแสง
“ไฟดับไม่สิ้นแสง” เป็นนวนิยายของ “ส.สีนนทอง” ที่สะท้อนชีวิตของชาวบ้านสามัญชนลาว ในช่วงที่มีการต่อสู้กับอำนาจเผด็จการเพื่อไขว่คว้าอิสรภาพ เสรีภาพ และประชาธิปไตยท่ามกลางความมืดมนของสงครามและการพลัดพรากสูญเสียของหลายๆ ครอบครัว
“ไฟดับไม่สิ้นแสง” เป็นนวนิยายของ “ส.สีนนทอง” ที่สะท้อนชีวิตของชาวบ้านสามัญชนลาว ในช่วงที่มีการต่อสู้กับอำนาจเผด็จการเพื่อไขว่คว้าอิสรภาพ เสรีภาพ และประชาธิปไตยท่ามกลางความมืดมนของสงครามและการพลัดพรากสูญเสียของหลายๆ ครอบครัว
ไฟดับไม่สิ้นแสง มีเนื้อหาเป็นประวัติศาสตร์แห่งความสำเร็จในขบวนการปฏิวัติของ “กลุ่มลาวอิสระ” ที่เล่าผ่านครอบครัวหนึ่ง ซึ่งเจอเหตุการณ์สะเทือนใจ จนลุกขึ้นมาสู้กับอำนาจอันมิชอบทั้งจากภายนอกและภายในประเทศ
นวนิยายเรื่องนี้ได้รับรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียนของประเทศลาว ประจำปี 2552 และได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงต่างประเทศและสมาคมไทยลาว เพื่อมิตรภาพ โดยมี “จินตรัย” เป็นผู้ถอดและถ่ายทอดเป็นภาษาไทย นอกจากจะได้เรียนรู้ถึงวิถีชีวิตของชาวลาวที่ต้องต่อสู้กับความอยุติธรรมของผู้มีอำนาจในขณะนั้นแล้ว ในเรื่องนี้ยังมีการสอดแทรกถึงภาษาถิ่น
นอกจากนี้ ยังอาจเป็นการส่ง “สัญญาณ” บางอย่างถึงคนไทยที่กำลัง “ต่อสู้” ให้ตระหนักถึงคำว่า “มวลชน” ซึ่งเป็นเจ้าของอำนาจประชาธิปไตยอย่างแท้จริงก่อนจะสายไป
อย่างไรก็ดี เนื้อหาของ “ไฟดับไม่สิ้นแสง” น่าจะให้สิ่งดีๆ ที่สื่อไปสู่ผู้อ่านที่จะได้เรียนรู้ถึงผลร้ายของสงคราม ซึ่งมีแต่นำความหายนะมาสู่ประเทศ รวมทั้งได้เรียนรู้ถึงจิตวิญญาณที่รักชาติของคนรุ่นบรรพบุรุษที่ยอมเสียสละเลือดเนื้อ ต่อสู้กอบกู้ชาติต่อต้านการรุกรานของต่างชาติ จนเป็นคติเตือนใจที่ใช้ได้เสมอว่า “ความชอบธรรมย่อมชนะอธรรม” เสมอ
นวนิยายเล่มนี้จึงเป็นอีกเล่มที่เยาวชนไทยและคนไทยควรจะหามาอ่าน เพราะลาวเป็นเหมือนเมืองคู่แฝด จึงจำเป็นที่คนไทยจะต้องเรียนรู้และเข้าใจความเป็นมาของลาวไปบ้าง เพื่อที่จะนำไปสู่ความสามัคคี ปรองดองกัน โดยเฉพาะเมื่อกำลังจะก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี)


