ครูสอนภาษาเขมร
อาชีพ “ครู” มีหน้าที่สร้างเยาวชนให้เติบโตมามีความรู้ เป็นคนดีของสังคมและใฝ่ที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อชีวิต ซึ่งครูจะต้องทำตัวเป็นต้นแบบที่ดีของนักเรียน เป็นตัวอย่างให้นักเรียนได้ทำตาม
อาชีพ “ครู” มีหน้าที่สร้างเยาวชนให้เติบโตมามีความรู้ เป็นคนดีของสังคมและใฝ่ที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อชีวิต ซึ่งครูจะต้องทำตัวเป็นต้นแบบที่ดีของนักเรียน เป็นตัวอย่างให้นักเรียนได้ทำตาม
ธรัช ไชยประทุม ครูชั้นมัธยมศึกษา วัย 27 ปี โรงเรียนซับม่วงวิทยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว หรือที่นักเรียนเรียกกันอย่างติดปากว่า ครูบีท เป็นครูสอนวิชาฟิสิกส์ให้กับนักเรียน แต่ด้วยความสนใจส่วนตัว ครูบีทยังเป็นครูประจำชุมนุมภาษาเขมร นำความรู้ด้านภาษาเขมรที่ตัวเองมีอยู่มาถ่ายทอดให้กับนักเรียนที่สนใจเรียนได้ศึกษาเพิ่มเติมเพื่อเป็นความรู้ติดตัวไปใช้ เพราะใน จ.สระแก้วเองก็เป็นจังหวัดที่อยู่ติดชายแดนไทยกัมพูชา การใช้ภาษาเขมรในการสื่อสารจึงมีความจำเป็น
ครูบีท อธิบายว่า ในชุมชน จ.สระแก้ว โดยเฉพาะในอำเภอติดชายแดน บางครอบครัวใช้ภาษาเขมรสื่อสารกันอยู่แล้ว ทำให้นักเรียนบางคนมีพื้นฐานการพูด การฟัง แต่ยังไม่สามารถอ่านออกเขียนได้ หากสามารถเพิ่มพูนทักษะที่ขาดอยู่ได้ จะเป็นประโยชน์ต่อไปในอนาคต
ในโรงเรียนซับม่วงวิทยา เปิดวิชาภาษาเขมรเป็นชุมนุม หรือเป็นวิชาเรียนตามความสนใจ ปัจจุบันมีนักเรียนเข้าร่วมชุมนุมภาษาเขมร 20 คน เข้าร่วมชุมนุมสัปดาห์ละ 1 ครั้ง โดยมีกิจกรรมการสอนคำศัพท์ พยัญชนะ ฝึกให้เด็กสื่อสาร สร้างประโยค รู้จักอักษรเขมร ฝึกเขียน เป็นต้น ครูจะพยายามพูดให้เด็กเห็นความสำคัญของการใช้ภาษาเขมร เพราะในพื้นที่มีคนเขมรเข้ามาอยู่เป็นจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องสื่อสารให้ได้เพื่อไม่ให้เสียเปรียบคนอื่น และเป็นประโยชน์ต่อการหางานทำ
สำหรับตัวครูเอง ที่บ้านสื่อสารภาษาเขมรกันอยู่แล้วจึงมีพื้นฐานอยู่บ้าง แต่แค่สื่อสารพูดได้ฟังได้นั้นไม่เพียงพอ ครูจึงเข้ามาเรียนภาษาเขมร ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม กรุงเทพฯ ทุกสัปดาห์ โดยเรียนทุกวันเสาร์อาทิตย์ เป็นเวลา 1 ปีแล้ว ตามคอร์สที่เปิดสอน
“ที่บ้านเคยสงสัยว่าจะขับรถไปเรียนทำไมทั้งๆ ที่พูดได้ สื่อสารได้อยู่แล้ว แต่เราคิดว่าเราขับรถไปได้ความรู้กลับมา ได้อะไรมากกว่าเงิน ซึ่งสามารถนำมาพัฒนานักเรียนในโรงเรียนได้ด้วย”
ในวันศุกร์ ครูจะขับรถจาก จ.สระแก้ว เข้ามาเรียนภาษาเขมรในกรุงเทพฯ ทุกสัปดาห์ หรือบางครั้งจะออกจากสระแก้วเช้ามืดวันเสาร์เพื่อมาเรียน ใช้เวลาเดินทางมาประมาณ 3-4 ชั่วโมง ขับรถมาเป็นประจำจึงไม่ได้รู้สึกว่าไกลเท่าไหร่ ซึ่งปกติในวันหยุดสุดสัปดาห์ก็ไม่ได้ทำอะไรอยู่แล้ว จึงมาเข้าเรียนให้เป็นประโยชน์ดีกว่า
ปัจจุบันครูบีทสามารถอ่านออกเขียนได้ และนำความรู้ที่ได้มาประยุกต์ใช้สอนเด็กในห้อง ขณะเดียวกันได้ประสานงานไปยังโรงเรียนอื่นๆ ในพื้นที่ที่มีการสอนภาษาเขมรเหมือนกัน เพื่อแลกเปลี่ยนสื่อการเรียนการสอนภาษาเขมรซึ่งกันและกัน ซึ่งก่อให้เกิดความร่วมมือระหว่างโรงเรียน
สำหรับการเรียนภาษาเขมร มองว่าเป็นภาษาที่ยากมาก แต่ด้วยความที่มีพื้นฐานอยู่บ้างแล้ว ฟังครูผู้สอนรู้เรื่อง พูดได้อยู่แล้ว จึงอาจทำให้ไปไวกว่าคนที่ไม่เคยเรียนมาก่อนเลย แต่ยังไงก็ต้องตั้งใจฝึกฝนเพราะการเขียนการอ่านยังเป็นทักษะใหม่ที่เพิ่งเริ่มเรียนเหมือนคนอื่นๆ
ทั้งนี้ ครูบีท บอกอีกว่า ในปัจจุบันคนส่วนใหญ่ใน จ.สระแก้ว ต้องการที่จะออกไปทำงานนอกพื้นที่หรือเข้าไปทำงานในกรุงเทพฯ หรือโรงงานใหญ่ๆ ที่ จ.ชลบุรี จ.ระยอง แต่สำหรับครูบีทนั้นไม่อยากอยู่ในเมืองใหญ่ เพราะมองว่าอยู่ที่บ้านสามารถทำประโยชน์ได้มากกว่าอยู่ในเมือง
หลังจากนี้ ครูบีทมีแนวคิดที่จะเปิดสอนพิเศษภาษาเขมรทุกเย็นวันพุธโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ให้เด็กๆ มีโอกาสเข้ามาเรียน เป็นการคืนประโยชน์ให้กับชุมชน ซึ่งอยู่ระหว่างการขออนุญาตจากผู้ใหญ่บ้าน


