posttoday

บัดดี้กรุ๊ปปักหลังข้าวสารลงทุนเพิ่มร้านอาหาร-โรงแรม

18 กรกฎาคม 2557

โดย...จารุพันธ์ จิระรัชนิรมย์

โดย...จารุพันธ์ จิระรัชนิรมย์

ถนนข้าวสารคือย่านท่องเที่ยวสำคัญในกรุงเทพฯ และเป็นย่านที่นักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มที่สะพายเป้ลุยเดี่ยวนิยมมาพักแรม ทว่าในช่วงเวลาที่มีกฎอัยการศึก นักท่องเที่ยวต่างชาติยังไม่กล้ากลับมาเที่ยวไทยแบบเต็มเหนี่ยว ผู้ประกอบการในย่านนี้ก็ได้รับผลกระทบต้องปรับกลยุทธ์ธุรกิจไปตามกัน ไม่ว่าจะเป็นรายเล็กหรือรายใหญ่

สง่า เรืองวัฒนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บัดดี้ กรุ๊ป เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจโรงแรมย่านถนนข้าวสารที่บัดดี้ กรุ๊ป ดำเนินการ 5 แห่ง อัตราเข้าพักอยู่ที่ 30-40% ต่ำกว่าปกติแม้ไตรมาส2-3 จะเป็นช่วงไม่ใช่ฤดูกาลท่องเที่ยว (โลว์ซีซั่น) อัตราเข้าพักก็ยังมี 60-70% อย่างไรก็ตามบริษัทมีแผนจับมือผู้ประกอบการย่านถนนข้าวสารจัดกิจกรรมต่อเนื่อง เพื่อตอกย้ำให้ต่างชาติเห็นว่าสามารถมาเที่ยวไทยได้ปกติ แม้มีกฎอัยการศึก โดยคาดว่าจะช่วยผลักดันอัตราเข้าพักไตรมาสสุดท้ายให้กลับมาอยู่ที่70-75% ได้ แต่หากไม่มีเหตุการณ์อะไรมากระทบไตรมาสสุดท้ายอัตราเข้าพักจะอยู่ที่ 80-90%

ขณะที่ระยะยาว เชื่อว่าถนนข้าวสารจะยังเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติที่สำคัญอยู่ เพราะมีจุดเด่นคือ อยู่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวเก่าแก่ วัด วัง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ยังมีบ้านเก่า สะท้อนเสน่ห์เมืองไทยแบบเก่าๆ ได้อยู่ แต่ก็มีจุดอ่อน คือ ขาดความเป็นระเบียบเรียบร้อยในพื้นที่ หากภาครัฐมีมาตรการที่ดีมาจัดระเบียบร้านขายอาหารรถเข็น ให้จำหน่ายอาหารที่สะอาดจัดระเบียบแผงลอย รวมทั้งเข้ามาดูแลไม่ให้มีการเอาเปรียบ หลอกลวง พร้อมดูแลไม่ให้มีสิ่งผิดกฎหมายจำหน่ายในพื้นที่ อนาคตถนนข้าวสารก็คงจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้อีกนาน

“ไทยได้เปรียบเรื่องค่าครองชีพที่ไม่สูงมาก เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ต้องการเดินทางท่องเที่ยวหลายประเทศในอาเซียนมักจะเลือกมาหยุดพักท่องเที่ยวที่ถนนข้าวสาร ก่อนหรือหลังเดินทางไปเที่ยวประเทศเพื่อนบ้าน โดยราคาห้องพักเฉลี่ยต่อคืนในย่านนี้มีให้เลือกหลากหลายตั้งแต่ 250 บาท/คืน ไปจนถึง 2,500 บาท/คืน ทำให้นักท่องเที่ยวมีทางเลือกมาก ส่วนผู้ประกอบการย่านถนนข้าวสาร 6070% เป็นร้านจำหน่ายสินค้าประเภทต่างๆ อีก 30-40% เป็นโรงแรมและร้านอาหาร” สง่า กล่าว

อย่างไรก็ตาม แม้ภาวะท่องเที่ยวจะยังไม่ปกตินัก แต่ บัดดี้ กรุ๊ป ก็ยังมีแผนการลงทุนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพราะเชื่อว่าถนนข้าวสารยังเติบโตได้อีก

สง่า กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมีโรงแรมในย่านถนนข้าวสาร 5 แห่ง ปากเกร็ด 1 แห่ง ร้านอาหารทั้งกลางวันและกลางคืนย่านถนนข้าวสาร 7 แห่ง และจะยังเดินหน้าลงทุนเน้นหนักในย่านถนนข้าวสารเช่นเดิม โดยไม่นานมานี้เพิ่งจะซื้อกิจการร้านอาหารในย่านถนนข้าวสาร พื้นที่ 800 ตารางเมตรอยู่ใกล้กับร้านอาหารเดิมที่บัดดี้ กรุ๊ปดูแลอยู่แล้ว เพื่อนำพื้นที่มารวมกันแล้วปรับปรุงเป็นร้านอาหารสไตล์ใหม่ตั้งเป้าหมายเป็นสถานที่พักผ่อนของนักท่องเที่ยวใจกลางถนนข้าวสาร คาดว่าจะใช้งบปรับปรุง 25ล้านบาท ไม่รวมค่าที่ดิน

นอกจากนี้ อยู่ระหว่างปรับปรุงพื้นที่บ้านเก่าอายุกว่า 100 ปี ที่ซื้อเก็บไว้ 2 ปีแล้ว มาปรับปรุงเป็นร้านอาหารกลางคืน ที่จำลองบรรยากาศริมทะเลมา เพื่อให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่งเดินทางกลับจากแหล่งท่องเที่ยวชายทะเล เช่น เกาะพะงัน แล้วยังคิดถึงบรรยากาศของสถานที่ท่องเที่ยวชายทะเลมาผ่อนคลาย คาดว่าจะใช้งบปรับปรุงกว่า 100 ล้านบาท และเปิดได้ปีหน้า

ขณะเดียวกัน ในเดือน เม.ย. 2558 ได้เตรียมงบอีก 50 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงโรงแรมโฮเต็ล เด ม๊อค จำนวน 92 ห้อง บริเวณใกล้อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยที่ซื้อกิจการมา 4-5 ปีแล้ว ให้มีรูปลักษณ์ทันสมัยขึ้น

“ยังเน้นลงทุนย่านถนนข้าวสารอยู่เหมือนเดิม เพราะเชื่อว่าการท่องเที่ยวถนนข้าวสารยังเติบโตต่อไปได้ อีกทั้งที่ผ่านมาบัดดี้ กรุ๊ป ก็เติบโตมาจากพื้นที่นี้ ต้องการสร้างรากฐานให้แข็งแกร่งในพื้นที่ก่อนที่จะออกไปเติบโตพื้นที่อื่น แต่ถึงแม้จะลงทุนก็ทำอย่างระมัดระวังมากขึ้น ส่วนพื้นที่อื่นนอกเหนือจากถนนข้าวสาร ที่มองไว้ คือ พัทยา” สง่า กล่าว

สำหรับในอดีตบัดดี้ กรุ๊ป เคยลงทุนโรงแรมบนเกาะสมุยเช่นกัน แต่ประสบปัญหาขาดทุนอย่างต่อเนื่อง จึงตัดสินใจขายโรงแรมให้ผู้ประกอบการรายอื่นแล้วตั้งแต่ปลายปีก่อน ส่วนแผนการขยายลงทุนไปยังพัทยานั้นคงต้องรออีกระยะ เพราะปัจจุบันธุรกิจท่องเที่ยวยังได้รับผลกระทบจากการประกาศกฎอัยการศึกอยู่ คงต้องรอให้สถานการณ์ท่องเที่ยวดีขึ้นผลประกอบการธุรกิจโรงแรมและร้านอาหารในย่านถนนข้าวสารกลับมาดีเช่นเดิม จึงจะมั่นใจออกไปลงทุนพัทยาได้ เบื้องต้นคาดว่าจะเห็นความชัดเจนของแผนไปลงทุนในพัทยาปีหน้า และกำลังพิจารณาแนวทางการรับบริหารโรงแรมให้กับเจ้าของโรงแรมอื่นเช่นกัน คาดว่าจะพร้อมดำเนินการได้กลางปีหน้า

เมื่อย่านถนนข้าวสารเป็นศูนย์กลางดึงดูดนักท่องเที่ยวที่สำคัญของไทย ก็ควรจะได้รับการจัดระเบียบให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์และภาพลักษณ์ที่ดี นักท่องเที่ยวต่างชาติมาแล้วจะได้ประทับใจ หากไม่รีบจัดการให้ดีตั้งแต่วันนี้ ไทยก็เตรียมระวังประเทศคู่แข่งปั้นพื้นที่ท่องเที่ยวขึ้นมาแข่งกับถนนข้าวสารแล้วมีมาตรการดูแลที่ดี ถึงเวลานั้นจะเสียแชมป์ไม่รู้ตัว

ข่าวล่าสุด

วปอ.68 มอบตาข่ายป้องกันโดรน ทิ้งระเบิด และสิ่งของ ช่วยทหารชายแดนภาค 2