posttoday

ส่องธุรกิจดาวรุ่ง เพชรพลอยสังเคราะห์

15 กรกฎาคม 2557

เครื่องประดับและอัญมณี ที่มีโอกาสไปได้ดีคือ ธุรกิจเพชรสังเคราะห์ และเครื่องประดับสังเคราะห์

โดย...วราภรณ์ เทียนเงิน

ตลาดอัญมณีและเครื่องประดับของไทย มีมูลค่าในประเทศประมาณ 200,000 ล้านบาท และตลาดส่งออกมีมูลค่ามากกว่า 300,000 ล้านบาท ตามที่สมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับได้ประมาณการไว้ โดยตลาดส่งออกในปีนี้คาดว่าจะเติบโต 6-7% แต่ในประเทศไม่มีการเติบโตตามเศรษฐกิจที่หดตัวลง และประชาชนระมัดระวังใช้จ่าย

ดังนั้นเครื่องประดับและอัญมณี ที่มีโอกาสไปได้ดีคือ ธุรกิจเพชรสังเคราะห์ และเครื่องประดับสังเคราะห์ ที่มีราคาคุ้มค่าบวกกับแนวคิดการสร้างสรรค์ไอเดียออกแบบของคนไทย จึงกลายเป็นเครื่องประดับชิ้นใหม่ ไม่ซ้ำใคร เหมาะสมกับเทรนด์ของหนุ่มสาว ยุคดิจิตอล คือ สวยหล่อ แบบคุ้มค่า น่าค้นหา

“ดารณี พงษ์สาระนันทกุล” กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจมแมกซ์ อินเตอร์เทรด ที่ผลิตและออกแบบ เครื่องประดับ และของใช้จาก เพชรสังเคราะห์ พลอยสังเคราะห์ พลิกผันจากการทำงานพนักงานเอกชนเกี่ยวกับบริษัทส่งออกพลอย ก้าวสู่การเป็นเจ้าของธุรกิจของตัวเองในปี 2551 ด้วยทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท เพราะเชื่อมั่นตลาดเพชร พลอยสังเคราะห์ มีช่องว่างทำตลาดอีกมหาศาล และคนไทยยังไม่รู้จักเพชร พลอยสังเคราะห์ มากนัก

เอกลักษณ์ของ เพชรและพลอยสังเคราะห์ ที่เห็นชัดคือ มีความงามใกล้เคียงกับเพชรแท้ แต่มีราคาที่แตกต่างกันมากถึง 100 เท่าขึ้นไป จึงทำให้กลุ่มลูกค้าระดับกลาง สามารถเลือกซื้อสินค้าได้ และให้ความสวยงามเช่นเดียวกัน โดยเพชร พลอยสังเคราะห์เข้ามาในประเทศไทยมากกว่า 30 ปี ส่วนในโลกมีอายุมากกว่า 100 ปี

แนวคิดการทำธุรกิจของบริษัท คือ 1.นำเข้าเพชรสังเคราะห์เข้ามาจากประเทศสหรัฐ ที่ขึ้นชื่อว่าวัตถุดิบมีคุณภาพสูง โดยจะเลือกคัดเกรดวัตถุดิบ ที่มีคุณภาพสูงก่อนนำมาเจียระไน แตกต่างจาก บริษัทอื่นที่เจียระไนก่อนที่จะมีการคัดเกรดวัตถุดิบ ซึ่งบริษัทที่เจียระไนในประเทศมีจำนวนไม่มากนัก 2. สามารถสร้างคัตติ้งแปลกๆ มีรูปแบบใหม่มากกว่า 200-300 แบบ และเป็นแบบแฟนซีที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เป็นผลงานชิ้นเดียวในโลกได้

3.มีเอกลักษณ์ในการสร้างสรรค์งานจาก คริสตัล และพลอย หลากหลายรูปแบบ 5.มีความซื่อสัตย์แก่ลูกค้า พร้อมกับได้ร่วมโครงการกับ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.)  เพื่อพัฒนาสินค้าและร่วมงานแสดงสินค้าต่างประเทศ โดยได้มาร่วมงานที่ประเทศมาเลเซีย กับ กสอ. พบว่า ตลาดเพชรและพลอยสังเคราะห์ มีคู่แข่งน้อย และชาวมาเลเซีย ชื่นชอบเครื่องประดับมาก และเน้นราคาไม่แพง บริษัทจึงสามารถเข้ามาทำตลาดได้

ทั้งนี้จากจุดเด่นที่มีหลากหลาย โดยเฉพาะสร้างสรรค์งานคัตติ้งแบบใหม่ ทำให้มีลูกค้าจากต่างประเทศสั่งซื้อสินค้าเข้ามาต่อเนื่อง ซึ่งยอดการผลิตส่วนใหญ่ 95% จะส่งออกไปประเทศจีน อาเซียน ยุโรป และ สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ ส่วนอีก 5% รับงานตามคำออเดอร์ของลูกค้าในประเทศ ส่วนใหญ่เน้นผลิตในรูปแบบ การรับจ้างผลิต (โออีเอ็ม) เป็นหลัก

ผลจากการที่ได้ทำตลาดเพื่อส่งออกในรูปแบบโออีเอ็ม มานานกว่า 6 ปี ทำให้บริษัทมีแผนสร้างแบรนด์ เพชรและพลอยสังเคราะห์ เพื่อทำตลาดในประเทศไทย เพราะมั่นใจว่า การสร้างแบรนด์ จะทำให้ลูกค้ารู้จักเพชรและพลอยสังเคราะห์มากขึ้น และจะเปิดตัวแบรนด์อย่างเป็นทางการในปี 2558 พร้อมกับหาตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศ รวมทั้งมุ่งทำตลาดผ่านสื่อออนไลน์ เว็บไซด์ และเฟซบุ๊ค จากปัจจุบัน สินค้าได้ทำตลาดผ่านเว็บไซด์ www.gemax-gem.com

พร้อมกันนี้จะมุ่งทำให้งานเพชร พลอยสังเคราะห์ สามารถอยู่ร่วมกับงานออกแบบต่างๆ ทั้งเครื่องประดับส่วนตัว เฟอร์นิเจอร์ในบ้าน ของใช้ต่างๆ เครื่องใช้ส่วนตัว เครื่องหนัง ที่มีรูปแบบใหม่ เพื่อเพิ่มความหลากหลาย รวมทั้ง ทำให้เพชรและพลอยสังเคราะห์ไม่ถูกจำกัดว่าจะต้องอยู่ในรูปแบบเครื่องประดับเท่านั้น เช่น ทำรองเท้าที่มีเครื่องประดับจากเพชรสังเคราะห์ครั้งแรกในโลก

อีกทั้งได้แบ่งกลุ่มลูกค้า ตั้งแต่ผู้สูงอายุ คนทำงาน นักศึกษา และตลาดเด็ก จากเดิม จะแบ่งกลุ่มลูกค้าเป็นผู้หญิงและผู้ชาย เพราะตลาดสินค้าในปัจจุบันมีกลุ่มที่หลากหลายอย่างมาก ดังนั้น การเข้าไปเจาะกลุ่มลูกค้าแต่ละกลุ่มที่ชัดเจนยิ่งขึ้น เชื่อว่า จะทำให้แบรนด์เข้าถึงลูกค้าได้รวดเร็ว โดยตั้งเป้าหมายว่าในปี 2558 ผลประกอบการของบริษัทจะเติบโต 20% ส่วนในปีนี้คาดว่าจะเติบโต 5%

ดารณี กล่าวต่อว่า จากการทำงานในธุรกิจพลอยมานานกว่า 13 ปี สะสมประสบการณ์มายาวนาน และการออกแบบงานดีไซน์ในรูปแบบใหม่ เชื่อว่า ประเทศไทยจะสามารถเป็น ศูนย์กลางของ การออกแบบและผลิตเพชรและพลอยสังเคราะห์ในตลาดโลก แม้ว่า ในปัจจุบันจะมีคู่แข่งเป็นจีน ที่มีราคาสินค้าถูกกว่าไทย 10-30% แต่ไทยมีจุดเด่นเรื่องคุณภาพ งานสร้างสรรค์งาน และความซื่อสัตย์ อนาคตอุตสาหกรรมนี้จึงมีทิศทางสดใสแน่นอน

แนวคิดทำธุรกิจ เพชรและพลอยสังเคราะห์

1.มุ่งสร้างงานคัตติ้ง แบบ แปลกใหม่

2.เพิ่มกลุ่มสินค้าให้หลากหลาย เพื่อให้สินค้าใกล้ชิดลูกค้า

3.ราคาคุ้มค่า มีคุณภาพสม่ำเสมอ ให้ความซื่อสัตย์

4.สร้างแบรนด์สู่ตลาดในประเทศ

ข่าวล่าสุด

โปรแกรมบอลวันนี้ ดูบอลสด ถ่ายทอดสด บอลวันนี้ วันเสาร์ที่ 20 ธ.ค. 68