อีเทอร์นิตี้มุ่ง1ใน5ผู้นำขนส่ง
อีเทอร์นิตี้ฯ หวัง 3 ปีขึ้นท็อปไฟว์โลจิสติกส์ เล็งผุดดีซีชายแดนเปิดตลาดลาวปลายปีนี้
อีเทอร์นิตี้ฯ หวัง 3 ปีขึ้นท็อปไฟว์โลจิสติกส์ เล็งผุดดีซีชายแดนเปิดตลาดลาวปลายปีนี้
นายพูนศักดิ์ เธียไพรัตน์ ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการบริษัท อีเทอร์นิตี้ แกรนด์ โลจิสติคส์ หรือ ETG เปิดเผยว่า บริษัทได้วางเป้าหมายจะเป็น 1 ใน 5 ผู้นำธุรกิจโลจิสติกส์ในประเทศไทย จากปัจจุบันอยู่อันดับที่ 7 พร้อมตั้งเป้าเพิ่มรายได้จากปัจจุบัน 1,500 ล้านบาท เป็น 2,500 ล้านบาท ในอีก 3 ปีนับจากนี้
ทั้งนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่กลุ่มฮิตาชิ ทรานสปอร์ต บริษัทผู้ให้บริการโลจิสติกส์รายใหญ่จากญี่ปุ่นเข้าซื้อกิจการบริษัทเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา และสนับสนุนทั้งด้านเงินลงทุน ลูกค้าและเทคโนโลยีการขนส่ง โดยปัจจุบันบริษัทมีลูกค้าเป็นญี่ปุ่น 10%
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนจะเข้าไปตั้งศูนย์กระจายสินค้าในจังหวัดชายแดนเพื่อขยายธุรกิจโลจิสติกส์ในประเทศลาวปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า คาดใช้งบลงทุนไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งจะมองหาพันธมิตรในลาวเข้าร่วมลงทุนหากไม่มีก็พร้อมลงทุนเอง
ปัจจุบันบริษัทได้เปิดศูนย์กระจายสินค้ารวม 6 แห่ง ได้แก่ ถนนบางนาตราด 2 แห่ง แหลมฉบัง นครศรีธรรมราช เชียงใหม่ และพระนครศรีอยุธยา มีลูกค้าระดับโลก 20 ราย อาทิ เนสท์เล่ บริดจสโตน คาวาซากิ เซ็นทรัล โรบินสัน เป็นต้น
สำหรับแผนงานในปีนี้ บริษัทได้ใช้งบลงทุน 120-150 ล้านบาท ส่วนหนึ่งใช้สำหรับเพิ่มรถใหม่ 20 คัน จากปัจจุบันมีอยู่ 150 คัน เพื่อเพิ่มการบริการขนส่งให้ลูกค้า
ขณะเดียวกัน ล่าสุดบริษัทได้ลงนามสัญญาความร่วมมือเป็นพันธมิตรกับ บริษัท ปตท. บริหารธุรกิจค้าปลีก เพื่อให้บริการขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภคไม่รวมน้ำมันเชื้อเพลิง รองรับการให้บริการแก่ร้านสะดวกซื้อจิฟฟี่ 150 สาขา ทั่วประเทศ ระยะสัญญา 3 ปี ตั้งเป้ายอดขาย 50 ล้านบาทอีก เนื่องจากเห็นว่าการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี ในปี 2558 งานด้านโลจิสติกส์จะเป็นกลไกสำคัญ และจะทำเกิดการแข่งขันของผู้ให้บริการโลจิสติกส์จากหลายๆ ประเทศ ซึ่งมีทั้งเรื่องของเทคโนโลยี และลูกค้าระดับโลก ดังนั้นการจะก้าวขึ้นไปให้บริการในระดับภูมิภาคและระดับโลกได้นั้น ต้องเตรียมพร้อมทั้งการบริหารงานภายใน และต้องสร้างความเชื่อมั่นผ่านการให้บริการบริษัทที่มีขนาดใหญ่
สำหรับภาพรวมธุรกิจของ ETG แม้จะมีสถานการณ์การเมืองและเศรษฐกิจในช่วง 6 เดือนแรก แต่บริการโลจิสติกส์ถือเป็นปัจจัยสำคัญในทางอุตสาหกรรม โดย ETG มีผลประกอบการครึ่งปีแรก ประมาณกว่าเจ็ดร้อยล้านบาท เติบโตขึ้นจากปีที่ผ่านมา 6.7% ขณะที่เป้าการเติบโตปีนี้อยู่ที่ 5% ใช้กลยุทธ์มุ่งเน้นรักษาฐานลูกค้าเดิม พร้อมกับขยายฐานลูกค้าใหม่ ควบคู่กับการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการโลจิสติกส์เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดเออีซีและรับมือการแข่งขันจากผู้ให้บริการหลากหลายประเทศ อีกทั้งเพื่อลดค่าใช้จ่ายในกระบวนการโลจิสติกส์แบบครบวงจรให้กับลูกค้า