ศุลกากรรับลูกดีเอสไอไล่บี้รีดภาษีรถหรู

กรมศุลกากรรับลูกดีเอสไอตั้งกรรมการสอบรถหรู 236 คัน ต้องสงสัยเลี่ยงภาษี 1,812 ล้านบาท

นายราฆพ ศรีศุภอรรถ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ทางกรมกำลังรอ รับเอกสารจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เกี่ยวกับการดำเนินคดีขบวนการรถจดประกอบที่เป็นรถหรูราคาตั้งแต่ 4 ล้านบาทขึ้นไป จำนวนทั้งสิ้น 236 คัน เพื่อตรวจสอบการเก็บภาษี 1,812 ล้านบาท ตามที่ดีเอสไอตรวจสอบ ซึ่งกรมต้องเข้าไปตรวจสอบองค์ประกอบของรถหรูเหล่านี้ว่า เข้าข่ายตามพิกัดอัตราศุลกากรหรือไม่

ทั้งนี้ กรมได้ตั้งคณะกรรมการผู้ เชี่ยวชาญตรวจสอบรถหรู ประกอบด้วย ผู้เชี่ยวชาญในด้านกฎหมาย รถยนต์ และเจ้าหน้าที่ของกรมเข้ามาตรวจสอบรถหรูทั้ง 236 คัน เนื่องจากรถยนต์จดประกอบจะมีชิ้นส่วนจากหลายบริษัทและหลายพื้นที่เพื่อประกอบรถหรู โดยคาดว่าจะต้องใช้ระยะเวลาในการตรวจสอบพอสมควร

อย่างไรก็ตาม หากกรมยังมีข้อสงสัยข้อมูลทางกายภาพของรถหรู เช่น กรณี ที่ดีเอสไอระบุว่ารถหรูดังกล่าวเสียภาษีไม่ถูกต้อง กรมก็จะทำหนังสือเพื่อสอบถามว่าเป็นรถยนต์ที่จดประกอบหรือเป็นการนำเข้ามาทั้งคัน เพราะคิดอัตราภาษีไม่เหมือนกัน

“การที่กรมศุลกากรจะเก็บภาษีจากผู้ที่ถือครองรถหรู ต้องพิจารณากฎหมาย ให้รอบคอบ ยังบอกไม่ได้ว่าจะได้ข้อสรุปเมื่อไรต้องขึ้นอยู่กับข้อมูลที่จะตรวจสอบว่าชัดเจนแค่ไหน เรื่องนี้เป็นการกล่าวหาดังนั้นการดำเนินการต้องรอบคอบ เพราะคำตัดสินจะเป็นถือเป็นบรรทัดฐานในการจัดเก็บภาษีในกรณีอื่นๆ ด้วย” นายราฆพ กล่าว

นายราฆพ ยังกล่าวด้วยว่าการตรวจสอบหรือตัดสินเก็บภาษีหรือไม่ ต้องไม่ให้เกิดการฟ้องร้อง เนื่องจากที่ผ่านมากรณีการเรียกเก็บภาษีรถหรู ผู้ถือครองส่วนใหญ่จะไม่ยอมจ่ายและต้องนำไปสู่การฟ้องร้องคดีในศาลตามมาในที่สุด

ด้าน นายยุทธนา หยิมการุณ รองอธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า ปัจจุบันทางกรมยังไม่พบการหลีกเลี่ยงหรือลักลอบนำเข้ารถยนต์จดประกอบตั้งแต่ปี 2556 ที่ผ่านมา ซึ่งเชื่อว่าเป็นผลมาจากการประกาศกระทรวงพาณิชย์ห้ามนำเข้าโครงตัวถังรถ ขณะที่การนำเข้ารถหรูทั้งคันนั้นพบว่ามีจำนวนลดลงกว่า 40%

ทั้งนี้ ทางดีเอสไอกำลังอยู่ระหว่างการรื้อกรณีรถจดประกอบเลี่ยงภาษีตั้งแต่รถสปอร์ตหรูอย่างปอร์เช่ เฟอร์รารี ไปจนถึงเบนท์ลีย์ ซึ่งดีเอสไอเคยรับเป็นคดีพิเศษ 5 คดีก่อนหน้านี้ ทว่ามีปัญหาต้องชะงักไป จนได้กลับมาปัดฝุ่นอีกครั้งหลังการรัฐประหารของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)