ออมสิน-กรุงไทยเป้าหมายเปลี่ยนบอร์ด

โดย...ชลลดา อิงศรีสว่าง

อดีตสมาชิกวุฒิสภา ประสาร มฤคพิทักษ์ ระบุว่า รัฐบาลของพรรคเพื่อไทยได้ส่งคนเข้าไปเป็นคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจทั้ง 58 แห่ง มากกว่า 200 คน ตัวเลขดังกล่าวนับว่าไม่น้อย หากสังเกตจะเห็นการเลือกส่งคนเข้าไปนั่งเป็นบอร์ดรัฐวิสาหกิจใด จะดูจากความสำคัญและขนาดของสินทรัพย์

สำหรับธนาคารเฉพาะกิจของรัฐทุกแห่งมีคนจากฝ่ายการเมืองเข้าไปนั่งทั้งสิ้น แต่ที่ดูจะเยอะและ  ให้ความสำคัญมากคือ “ธนาคารกรุงไทย” และ “ธนาคารออมสิน” ซึ่งมีขนาดใหญ่ และถูกใช้เป็นเครื่องมือดำเนินนโยบายประชานิยมของรัฐบาล

ธนาคารออมสินนั้นมีกระทรวงการคลังถือหุ้น 100% ในอดีตจะใช้คนของคลังมานั่งเป็นกรรมการ แต่ปัจจุบันบอร์ดตกอยู่ภายใต้การครหาของสังคมว่ามีแต่คนใกล้ชิดคนใน ตระกูลชินวัตร เข้ามานั่งเกินครึ่ง ไล่ตั้งแต่ ประธานกรรมการ “ชูจิรา กองแก้ว” ที่เคยสร้างความฮือฮาในการโยกย้ายประจำปี 2552 ในกระทรวงยุติธรรม จากรองปลัดมาเป็นอธิบดี  กรมบังคับคดี เพราะใกล้ชิดกับ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ สามีของ เยาวภา วงศ์สวัสดิ์

สำหรับกรรมการทั้งหมด ได้แก่ สุธรรม ศิริทิพย์สาคร เป็นอดีตกรรมการบริหาร บริษัท บีทีเอส แอสเสทส์ มีความใกล้ชิดกับคนแดนไกล ได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจใหญ่ 3 แห่งในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งรวมบริษัทการบินไทย นงลักษณ์ พินัยนิติศาสตร์ อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการตลาด บริษัท ไทยคม สุเมธ ดำรงชัยธรรม หลานชาย ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม เจ้าของกลุ่มแกรมมี่ ปัจจุบันเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ และ ประเสริฐ หลุยเจริญ สามีของ เบญจา หลุยเจริญ อดีต รมช.คลัง

ขวัญชัย วงศ์นิติกร อดีต ผวจ.สมุทรปราการ  ในปี 2551-2552 ปัจจุบันเป็นอธิบดีกรมพัฒนาชุมชน ชัยธวัช เสาวพนธ์ เป็นเจ้าของบริษัท เทคโนโลยี อินโนเวชั่น และเกี่ยวข้องกับการก่อตั้งสถานีโทรทัศน์เอเชียอัพเดท สุรชัย โฆษิตเสรีวงค์ กรรมการผู้บริหารระดับสูงบางจากปิโตรเลียม

ส่วนกรรมการที่คลังส่งมาเป็นตัวแทนคือ อำนวย ปรีมนวงศ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง จุฬารัตน์ สุธีธร ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ วุฒิพงศ์ วิบูลย์วงศ์ รองอัยการสูงสุด วิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ อธิบดีกรมบังคับคดี ประภาศ คงเอียด ที่ปรึกษากฎหมายกระทรวงการคลัง

ขณะที่ วัชรา ตันตริยานนท์ ได้รับแต่งตั้งมาในฐานะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ

ทั้งนี้ ออมสินจะปล่อยกู้ให้รายย่อยและรับฝากเงินจากประชาชนเป็นหลัก และอนุมัติงบประชาสัมพันธ์  ตามใบสั่งจากค่ายการเมือง ซึ่งในปี 2556 ว่ากันว่า ได้ให้งบโฆษณาสถานีวอยซ์ทีวีถึง 100 ล้านบาท เป็นต้น

ด้านธนาคารกรุงไทย นับว่ามีความขัดแย้งในตัวเอง โดยกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน และกระทรวงการคลังถือหุ้น 55% ส่วนนักลงทุนสถาบันและรายย่อยถือหุ้นรวมกัน 45% จากการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงอยู่ภายใต้ พ.ร.บ.รัฐวิสาหกิจและ พ.ร.บ.ตลาดหลักทรัพย์ แต่การตั้งกรรมการยังคงอยู่ภายใต้ผู้ถือหุ้นใหญ่ แต่ต้องปรึกษาคลังก่อน

เดิมธนาคารกรุงไทยจะมีปลัดคลังเป็นประธาน โดยตำแหน่ง แต่ในยุคที่พรรคไทยรักไทยขึ้นมาได้เปลี่ยนประเพณีปฏิบัติส่งคนนอกเข้ามานั่งคือ พล.อ.มงคล อัมพรพิสิฏฐ์ ช่วงที่กรุงไทยอื้อฉาวที่สุดเรื่องการปล่อยสินเชื่อหละหลวมและยังเป็นคดีความ คือปล่อยกู้ให้เอ็นพีแอลจากธนาคารอื่น อย่างบริษัท กฤษดามหานคร บริษัท ธนบุรีประกอบรถยนต์

สำหรับบอร์ดแบงก์ในปัจจุบันก็อื้อฉาวไม่แพ้บอร์ดแบงก์ออมสิน มี วรวิทย์ จำปีรัตน์ อดีต  ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เป็น ประธานกรรมการธนาคาร พยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล อดีตประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ที่มีเรื่องอื้อฉาวการ คัดเลือกกรรมการ ส.อ.ท. มานั่งเป็นกรรมการธนาคาร และประธานกรรมการบริหาร โดยมีความสนิทสนม กับ กิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีต รมว.คลัง

จุลสิงห์ วสันตสิงห์ อดีตเลขาธิการสำนักงานอัยการ เป็นประธานกรรมการอิสระ ประธานกรรมการตรวจสอบ และกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน ส่วน ประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการอิสระ ประธานกรรมการบริหารความเสี่ยง ประธานกรรมการกำกับการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์และกรรมการตรวจสอบ ไม่มีใครปฏิเสธเรื่องความสามารถ แต่มีความใกล้ชิดกับพรรคเพื่อไทยเป็นพิเศษ

อรุณภรณ์ ลิ่มสกุล กรรมการ บริษัท บัตรกรุงไทย ดังสนั่นทั่วทั้งบอร์ดว่ามากด้วยความสามารถและมีคอนเนกชั่นกับพรรคเพื่อไทยอย่างมาก โดยเป็นกรรมการในคณะกรรมการบริหารนโยบาย 1 คอมพิวเตอร์แท็บเล็ตต่อ 1 นักเรียน กรรมการ  ผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการบริหารกองทุนตั้งตัวได้ และเป็นอดีตผู้ช่วยผู้อำนวยการ สายงานการตลาด บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส)

วีรภัทร ศรีไชยา มีประวัติเด่น คือเป็นทนายความให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในคดีเลี่ยงภาษี  1.2 หมื่นล้านบาท ของพานทองแท้และพินทองทา ชินวัตร และเป็นทนายความพรรคเพื่อไทยอีกด้วย ขณะที่ ยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ บุคคลผู้นี้ก็คือ ยงยุทธ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กฤษดา  มหานคร หรือ KMC ซึ่งเป็นหนี้ที่ซื้อมาจากธนาคารกรุงไทย และได้เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น เอคิว เอสเตท และยังเป็นกรรมการในการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย รวมถึงบริษัท อสมท อีกด้วย

และที่โดนวิจารณ์มากอีกคน คือ กัลยาณะ วิภัติภูมิประเทศ ลูกของ โรจน์ หนึ่งในผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย โดยกัลยาณะ เป็นอุปทูตไทย ณ ย่างกุ้ง และขึ้นเป็นกรรมการตั้งแต่ยังเป็นข้าราชการซี 8

แค่เพียงส่วนหนึ่งของบอร์ดแบงก์กรุงไทย ก็ตกเป็นเป้าใหญ่ที่จะทำให้ธนาคารจะถูกเปลี่ยนบอร์ดแล้ว

แต่ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ. ผู้ดูแลงานด้านเศรษฐกิจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ คสช.) จะจิ้มให้บอร์ดรัฐวิสาหกิจแห่งใดถูกปลดก่อน เป็น เรื่องที่ต้องจับตาดูอย่ากะพริบตา ปฏิบัติการล้างบ้านครั้งใหญ่จะสำเร็จลุล่วงอย่างไร โปรดติดตาม