คนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก

ในโลกแห่งธุรกิจทุกวันนี้ คงไม่มีใครหลีกหนีการแข่งขันพ้นและแน่นอนว่าเมื่อมีการแข่งขันก็ต้องมีฝ่ายชนะและฝ่ายแพ้ หลายคนเชื่อว่าเมื่อไรที่มีการเปิดประชาชนเศรษกิจอาเซียน หรือเออีซี (AEC) จะมีผลกระทบกับการนำเข้าเสรีแรงงานจากต่างประเทศ เพราะแรงงานไทยอาจตกงานหรือการนำเข้าสินค้าคุณภาพใกล้เคียงกันจากต่างประเทศมาขายในราคาถูก สินค้าไทยก็คงขายไม่ออก หรือการคลั่งไคล้กระแสต่างประเทศ ชอบบริโภคสินค้าต่างประเทศและรับวัฒนธรรมต่างประเทศ จนเอกลักษณ์ความเป็นไทยถูกกลืนไปหมด

อุปสรรคในการแข่งขันเหล่านี้ ส่วนหนึ่งมาจากนิสัยของคนไทยเอง ทำให้การเติบโตและความสามารถในการแข่งขันของเราอยู่ในเกณฑ์ต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้านของเรา วันนี้ผมมี 12 แนวคิดดีๆ ที่อ่านเจอใน www.MThai.com ที่น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการปรับวิธีคิดและรูปแบบการใช้ชีวิต “คนไทย” ให้พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะมาถึงในไม่ช้า

1.เปลี่ยนความคิดที่ว่า “แข่งเรือแข่งพายแข่งได้ แต่แข่งบุญวาสนาแข่งไม่ได้” มาเป็น “แข่งกับตัวเองทุกวัน” : คนเราต้องวิ่งเข้าชนโอกาส ไม่ใช่รอโอกาสให้เข้ามาหา

2.เปลี่ยนความคิดที่ว่า “ทุกอย่างขึ้นอยู่ที่ดวง” มาเป็น “ทุกอย่างขึ้นอยู่ที่การตัดสินใจของเรา” : ไม่มีใครที่จะดูถูกตัวเองได้มากกว่าที่ตัวเองทำ อย่ามัวแต่กังวลเรื่องของโชค ลาภ บุญพาวาสนาส่ง เพราะชั่วโมงนี้มีแต่ใครเร็วใครได้

3.เปลี่ยนความคิดที่ว่า “รู้จักถ่อมตัว” มาเป็น “รู้จักเป็นตัวของตัวเอง” มากขึ้น : ค้นหาตัวตนที่แท้จริงของตัวเองให้เจอ อย่ามัวรอให้ใครมากำหนดความเป็นตัวตนของคุณ ที่สำคัญอย่ารอจนกว่าเราจะพร้อมเพราะความพร้อมที่ 100% ไม่มีอยู่ในโลก

4.เปลี่ยนความคิดที่ว่า “ค่าของคนไม่ได้อยู่ที่ผลของงาน แต่อยู่ที่คนของใคร” มาเป็น “ค่าของคนอยู่ที่ความสุขจากการให้” : เปลี่ยนจากวัฒนธรรมเห็นแก่ตัวมาเป็นผู้ให้กันบ้าง สังคมจะดีขึ้นเยอะ ตัวคุณเองก็จะภูมิใจและเห็นคุณค่าในชีวิตมากขึ้น

5.เปลี่ยนความคิดที่ว่า “หน้าใหญ่ใจโต” มาเป็น “รู้จักความเป็นอยู่แบบพอเพียง” : ปรัชญาของในหลวง เริ่มต้นง่ายๆ คือบริโภคเท่าที่จำเป็นต่อการดำรงชีพมากกว่าที่บริโภคของฟุ่มเฟือย เพราะการไม่มีหนี้เป็นลาภอันประเสริฐ

6.เปลี่ยนความคิดที่ว่า “ทำได้ตามใจคือไทยแท้” มาเป็น “เคร่งครัดมีวินัยในการดำเนินชีวิต” : วินัยช่วยให้ชีวิตเราถูกจัดสรรอย่างมีระบบ แต่เมื่อไรที่เราขาดวินัย ปล่อยให้กระแสนิยมเข้ามามีอิทธิพลต่อการใช้ชีวิตของเรา เมื่อนั้นเราก็จะตกเป็นทาสทางเศรษฐกิจของชาติอื่นแทน

7.เปลี่ยนความคิดที่ว่า “รำไม่ดีโทษปี่โทษกลอง” มาเป็น “รู้จักผิดชอบชั่วดี” : โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากคุณเป็นเจ้าของสินค้าหรือบริการ จะต้องเปิดกว้างยอมรับคำตำหนิ ติชมจากลูกค้า เพื่อนำมาแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นอยู่ตลอดเวลา

8.เปลี่ยนความคิดที่ว่า “ข้ามาคนเดียว” มาเป็น “ทีมเวิร์กนำพาสู่ความสำเร็จ” : ไม่มีใครที่สามารถเก่งได้คนเดียวอีกต่อไปในสังคมเออีซี ทุกอย่างอยู่ที่พลังของเครือข่ายที่รวมผู้มีความสามารถเฉพาะในแต่ละด้านเข้าด้วยกัน ถึงจะอยู่รอดและประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน

9.เปลี่ยนความคิดที่ว่า “สุกเอาเผากิน” มาเป็น “การวางแผนเป็นเท่ากับสำเร็จไปเกือบครึ่ง” : จะทำอะไรก็ตามเราต้องประมาณการไตร่ตรองให้รอบคอบ ใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าให้มากที่สุด ต้นทุนต่ำที่สุด

10.เปลี่ยนความคิดที่ว่า “แมวไม่อยู่หนูร่าเริง” มาเป็น “รับผิดชอบที่ตัวเราเอง” : เราต้องเป็นผู้นำของตัวเราเองและสามารถรับผิดชอบควบคุมตนเองได้ นั่นเป็นพื้นฐานของการเป็นมืออาชีพ

11.เปลี่ยนความคิดที่ว่า “กีฬาแพ้แต่คนไม่แพ้” มาเป็น “รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย” : ให้ความรู้สึกแพ้ชนะดังกล่าวอยู่แค่ในกิจกรรมหรืองานที่ทำเท่านั้น อย่าให้มันกลายเป็นความแค้นเคืองที่ไร้จุดจบ

12.เปลี่ยนความคิดที่ว่า “พบกันครึ่งทาง” มาเป็น “ทำอะไรทำให้สุดๆ” : มองหาจุดแข็งของตัวเองให้เจอ และเริ่มต้นจากจุดนั้นจะทำให้คุณประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน

การเปลี่ยนแปลงความคิดไปในทางที่ถูกต้อง จะนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่ทางพฤติกรรมและการใช้ชีวิต ถึงเวลาแล้วที่คนไทยควรหันมาเริ่มแข่งกันพัฒนาตัวเอง เพื่อให้ก้าวขึ้นมาอยู่ในระดับที่ทุกคนสามารถยอมรับซึ่งกันและกันและอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข และเมื่อวันที่เออีซีเปิดมาถึงเราอาจไม่ต้องกังวลกับการเปลี่ยนแปลงอะไรอีก ขอให้ระลึกอยู่เสมอว่า “ชาติไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก” ถ้าคนไทยไม่ดูถูกตนเองและเปิดใจให้กว้างยอมรับกับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะมาถึง แล้วมาเตรียมนับถอยหลังด้วยกันนะครับ