ส่องมอเตอร์เวย์เชื่อมทวายเอกชนไม่ปลื้มตัวเลือกรัฐ

โดย...ชลธิชา ภัทรสิริวรกุล

“ทางหลวงพิเศษเส้นกาญจนบุรีบ้านพุน้ำร้อน” เป็นอีกหนึ่งโครงการที่รองรับการเชื่อมต่อ “โครงการท่าเรือน้ำลึกและนิคมอุตสาหกรรมทวาย” แต่แผนดังกล่าวต้องสะดุดลง เมื่อภาคเอกชน จ.กาญจนบุรี คัดค้านผลการคัดเลือกแนวเส้นทางของกรมทางหลวง พร้อมเรียกร้องให้พิจารณาทบทวนใหม่

วิเชียร เจนตระกูลโรจน์ รองประธานหอการค้าจังหวัดกาญจนบุรี และนายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวกาญจนบุรี กล่าวว่า ภาคเอกชนในจังหวัดมีความเห็นสอดคล้องกันว่า ทางเลือกที่ 1 ซึ่งเป็นเส้นที่ต่อจากโครงการมอเตอร์เวย์บางใหญ่หนองขาว แล้วอ้อมตัวเมืองตอนเหนือไปออกที่บริเวณเขาชนไก่ และไปเชื่อมกับเส้นทางชายแดนบ้านพุน้ำร้อนน่าจะเป็นเส้นทางที่เหมาะสมและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนในพื้นที่

สอดคล้องตามยุทธศาสตร์ของจังหวัดที่ต้องการให้ธุรกิจท่องเที่ยวผลักดันการเติบโตของเศรษฐกิจ ซึ่งหากเลือกเส้นทางที่ 1 จะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวใน อ.บ่อพลอย ศรีสวัสดิ์ ไทรโยค ทองผาภูมิ สังขละบุรี และหนองปรือ ซึ่งเป็นที่ตั้งของแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของจังหวัด ที่แต่ละปีสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ประมาณ 6 ล้านคน

ขณะเดียวกัน เส้นทางดังกล่าวจะผ่านพื้นที่ของสำนักงานราชพัสดุและพื้นที่ทหารเป็นส่วนใหญ่ ทำให้มีผลกระทบและภาระค่าใช้จ่ายในเรื่องของการเวนคืนที่ดินมีน้อยกว่า อีกทั้งยังสามารถลดค่าใช้จ่ายการเจาะอุโมงค์ได้ และลดปัญหามลพิษและผลกระทบต่อวิถีชีวิตคนในพื้นที่

นอกจากนี้ ภาคเอกชนยังได้ตั้งข้อสังเกตถึงความไม่โปร่งใสของการเลือกเส้นทางที่อาจมีผลประโยชน์แอบแฝง เพราะผู้ดำเนินการไม่ยอมเปิดเผยแนวทางรายละเอียดการให้คะแนนเลือกเส้นทาง และยังเป็นการดำเนินการสรุปผลที่เร่งรัดเกินไป พร้อมคาดว่าผลออกมาเป็นเช่นนี้อาจเกิดจากการรวมกลุ่มของคนที่หวังประโยชน์จากการเวนคืนที่ดิน

“หากเดินหน้าตามแนวทางที่ 4 ชุมชนที่อยู่ตามแนวเส้นทางในรัศมี 200-300 เมตรจะต้องถูกเวนคืนที่ดิน เพื่อขยายทางให้เป็นมอเตอร์เวย์ ทำให้วิถีชีวิตในการเดินทางสัญจรของชาวบ้านในพื้นที่ต้องเปลี่ยนไปแน่นอน นอกจากนี้ที่ดินตามแนวนั้นยังเป็นพื้นที่เกษตรกรรมด้วย”

ด้าน ชัชวาลย์ บุญเจริญกิจ อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวว่า ยังไม่ได้รับหนังสือคัดค้าน พร้อมยืนยันว่าการเลือกเส้นทางได้พิจารณาจากหลายปัจจัยทั้งด้านการลงทุน ผลกระทบและผลตอบแทนที่จะได้ว่าเหมาะสมหรือไม่ แต่ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมามีแรงกดดันจากหลายฝ่ายที่มีส่วนได้เสียกับโครงการดังกล่าวด้วย

สุรชัย ศรีเลณวัติ ผู้อำนวยการสำนักแผนงานกรมทางหลวง อธิบายว่าเสริมว่า ผลการศึกษาเบื้องต้นพบว่า แนวเส้นทางที่ 4 มีความเหมาะสมที่สุด เมื่อพิจารณาจาก 3 ด้าน คือ ด้านวิศวกรรม (การจราจรขนส่ง) ด้านเศรษฐกิจ (การลงทุน) และด้านสิ่งแวดล้อม โดยผลคะแนนเฉลี่ยจากทั้ง 3 ด้านออกมาดังนี้ จากคะแนนเต็ม 100 แนวเส้นทางที่ 1 ได้คะแนน 70.4 แนวเส้นทางที่ 2 ได้ 68.8 คะแนน แนวเส้นทางที่ 3 ได้ 75.6 คะแนน แนวเส้นทางที่ 4 ได้ 81 คะแนน และแนวเส้นทางที่ 5 ได้ 75.8 คะแนน

“กรมทางหลวงจะชี้แจงให้เอกชน จ.กาญจนบุรี เข้าใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ และส่วนตัวมองว่าโครงการนี้ยังต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าจะเป็นรูปเป็นร่าง เพราะตอนนี้ในส่วนของเส้นทางบางใหญ่กาญจนบุรี ก็ยังไม่ได้ก่อสร้าง ส่วนอนาคตของโครงการทวายก็ยังไม่ชัดเจนว่าจะเกิดขึ้นได้เมื่อไหร่ และหากไม่เกิดก็อาจไม่คุ้มที่จะลงทุนเส้นทางนี้”

ถึงตอนนี้โครงการทางหลวงพิเศษกาญจนบุรีบ้านพุน้ำร้อน ยังเป็นหนังม้วนยาวที่ต้องติดตามต่อไป