บลิส-เทลเรียกขวัญหุ้นไม่เข้าเกณฑ์ฟื้นฟู
BLISS มั่นใจไตรมาส 3 ล้างสำรองขาดทุนแท็บเล็ต ชี้ทำโปร่งใสไม่ติดเกณฑ์ ต้องมีกำไร 3 ไตรมาส
BLISS มั่นใจไตรมาส 3 ล้างสำรองขาดทุนแท็บเล็ต ชี้ทำโปร่งใสไม่ติดเกณฑ์ ต้องมีกำไร 3 ไตรมาส
นายจักรกฤษณ์ ธนวิรุฬห์ ประธานกรรมการบริหาร (ซีอีโอ) และกรรมการผู้จัดการ บริษัท บลิสเทล (BLISS) เปิดเผยว่า บริษัทได้รับผลกระทบจากปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง ส่งงานไม่ได้ โดยเฉพาะงานภาครัฐ ไม่มีการตั้งหน่วยงานรับมอบงาน และคู่ค้าที่รับงานจากรัฐบางโครงการได้ยกเลิกงานทั้งหมด เช่น โครงการคอมพิวเตอร์พกพา (Tablet) จึงได้ตั้งสำรองขาดทุน 64 ล้านบาท ทำให้ตลาดหลักทรัพย์สบายใจว่าบริษัทไม่มีการหมกเม็ด เป็นการทำตามมาตรฐานบัญชี
ทั้งนี้ ไตรมาสแรกขาดทุน 78 ล้านบาท เป็นการตั้งสำรอง 64 ล้านบาท ขาดทุนดำเนินงาน 14 ล้านบาท จากการส่งงานไม่ได้ ซีอีโอ BLISS มั่นใจว่า ไตรมาส2-3 นี้ จะทยอยส่งมอบงานและมีรายได้เข้ามาปีนี้ประมาณ 1,000 ล้านบาท เป็นงานรัฐ 30 ล้านบาท และเอกชนกว่า 600 ล้านบาท
“ไตรมาสแรกส่งงานมีรายได้เข้ามาเพียง 48 ล้านบาท จากเป้า 200 ล้านบาท ปัญหาการเมืองทำให้บริษัทวางบิลไม่ได้ ทำให้การเก็บเงินช้าออกไปในไตรมาส 3 เชื่อว่ารายได้จากล้างการตั้งสำรองหมดไตรมาส 4 เหลือเป็นกำไรของปีนี้ล้างขาดทุนสะสมหมด 230 ล้านบาท” นายจักรกฤษณ์ กล่าว และว่าเดือน มิ.ย. เตรียมประมูลงานอีก 2 งาน มูลค่า 400 ล้านบาท เป็นงาน กสทช. มูลค่า 300 ล้านบาท และงานการประปา 100 ล้านบาท มั่นใจได้งาน
นายจักรกฤษณ์ กล่าวว่า การขาดทุนของบริษัทไม่อยู่ในเงื่อนไขการกลับมาซื้อขายต้องกำไรติดต่อกัน 3 ไตรมาสเนื่องจาก BLISS ไม่ได้อยู่ในแผนฟื้นฟูออกจากศาลล้มละลาย แต่ถูกห้ามซื้อขายเพราะไม่ได้ส่งงบการเงิน กิจการไม่สามารถดำรงธุรกิจต่อไปได้ เพราะไม่มีธุรกิจหลักในมือ
“หุ้น BLISS ไม่ได้ถูกฟ้องล้มละลาย ผู้ถือหุ้นไม่ได้ติดลบ แต่ธุรกิจหลักไม่มี เลยถูกแขวนป้าย ยังไงก็กลับมาเทรดแน่นอน แต่ไม่สามารถกำหนดได้ว่าจะเทรดเมื่อไร ตอนนี้ไม่ติดเงื่อนไขอะไร บริษัทได้เพิ่มกรรมการ นำนายสุริย์ บัวคอม อดีตผู้บริหารกรมสรรพากร ที่เป็นคนวางระบบคอมพิวเตอร์ เข้ามาเพิ่ม หรือนายสุรพล โอภาสเสถียร จากเครดิตบูโร ให้ตลาดและ ก.ล.ต.มั่นใจว่าผู้ถือหุ้นใหม่ตั้งใจทำธุรกิจจริง” ซีอีโอ BLISS กล่าว


