ยุคลอัดอสย.สิ้นลายดันแปรรูปยางเหลว

ยุคลอัดยับ อสย. ผลักดันนโยบายแปรรูปยางเหลว หมดหวังก้าวเป็นเสือตัวที่ 6 ต่อกร ยักษ์เอกชน 5 ราย

แหล่งข่าวจากคณะกรรมการบริหารองค์การสวนยาง (อสย.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการ อสย. เมื่อเร็วๆ นี้ นายยุคล ลิ้มแหลมทอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธาน อสย. ได้ตำหนิการทำงานขององค์การสวนยาง (อสย.) อย่างรุนแรง เนื่องจากไม่สามารถผลักดันนโยบายแปรรูปยางแผ่นดิบเป็นยางแท่ง หรือยางเอสทีอาร์ 20 ได้อย่างราบรื่น ส่งผลให้นโยบายไม่คืบหน้าตามเป้าหมายที่กำหนด

ก่อนหน้านี้ นายยุคลเสนอนโยบายให้ อสย.เป็นหนึ่งในผู้ผลิตยางแท่งและเป็นทางเลือกของชาวสวนยาง นอกเหนือการขายยางให้เอกชนรายใหญ่ 5 ราย โดยในปี 2553 อสย.ได้รับอนุมัติงบ 450 ล้านบาท สร้างโรงงานแปรรูปยางใน 3 แห่งใน จ.อุดรธานี ศรีสะเกษ และ นครพนม กำลังการผลิตรวม 6 หมื่นตัน โดยเริ่มเปิดดำเนินการเมื่อปลายปี 2556 แต่ปรากฏว่ายางแท่งที่ อสย.ผลิตได้นั้น ไม่ผ่านการรับรองมาตรฐานจากกรมวิชาการเกษตรทำให้ส่งออกไม่ได้ และไม่เป็นที่ยอมรับของผู้ผลิตยางล้อ อีกทั้งต้นทุนแปรรูปของ อสย.สูงกว่าเอกชน 1 บาทต่อกิโลกรัม

ทั้งนี้ ยางเอสทีอาร์ 20 เป็นวัตถุดิบในการผลิตยางล้อยานยนต์ ซึ่งศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าในปี 2557 มูลค่าส่งออกยางล้อจะอยู่ที่ 1.1 แสนล้านบาท

นายยุคล ระบุว่า บอร์ดมีมติให้ อสย.ลดค่าบริการแปรรูปยางแท่งจาก 6.90 บาทต่อกิโลกรัม เหลือ 5.54 บาทต่อกิโลกรัม เพื่อจูงใจให้ชาวสวนยางมาใช้บริการของ อสย.เพิ่ม เนื่องจากการแปรรูปยางทำได้น้อยกว่ากำลังการผลิตมาก

นายชนะชัย เปล่งศิริวัธน์ ผู้อำนวยการ อสย. ระบุว่า ได้ประสานงานกับกรมวิชาการเกษตรเพื่อให้ออกใบรับรองมาตรฐานการผลิตยางแท่งเอสทีอาร์ 20 แต่ติด เงื่อนไขที่โรงงานแปรรูปยังขาดแคลนห้องแล็บทดสอบคุณภาพยาง และหากโรงงานแปรรูปยาง อสย.ได้รับการรับรองฯ อสย.มีแผนขยายโรงงานเพิ่มให้ครอบคลุมผลผลิตของสมาชิกกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง 1.2 ล้านตัน