ศึกชิงแชมป์โรงพยาบาลระอุวิภาวดีลุยปั้นแบรนด์วิภาราม
ช่วงที่ผ่านมาธุรกิจโรงพยาบาลผนึกกำลังมากขึ้น สร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจ
โดย...จารุพันธ์ จิระรัชนิรมย์
ช่วงที่ผ่านมาธุรกิจโรงพยาบาลผนึกกำลังมากขึ้น สร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจ เพิ่มส่วนแบ่งตลาดที่เห็นชัดคือ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ ที่ผนึกกำลังจนมีแบรนด์โรงพยาบาลใหญ่ในเครือ 4 แบรนด์ คือ โรงพยาบาลกรุงเทพ สมิติเวช พญาไท และเปาโล เมโมเรียล
ขณะที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จับมือ บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล หรือเครือโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ปั้นแบรนด์ใหม่ เวิลด์เมดิคอลเซ็นเตอร์ ควบคู่กับซื้อกิจการโรงพยาบาลระดับบน ส่วนโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ก็ปั้นแบรนด์โรงพยาบาลการุณยเวช เจาะกลุ่มประกันสังคม
อีกเครือที่ลุยเพิ่มความแข็งแกร่งทางธุรกิจเช่นกัน คือ โรงพยาบาลวิภาวดี ที่ผนึกโรงพยาบาลรามคำแหงและโรงพยาบาลสินแพทย์ ปั้นแบรนด์โรงพยาบาลวิภาราม ควบคู่กับขยายธุรกิจบริการด้านอื่น
ชัยสิทธิ์ วิริยะเมตตากุล กรรมการผู้จัดการ โรงพยาบาลวิภาวดี วิเคราะห์ว่า หลังจากนี้จะเห็นการควบรวมเครือโรงพยาบาลต่างๆ อีกแน่นอน ในที่สุดน่าจะเหลือเครือโรงพยาบาลใหญ่แค่ 4 เครือ ที่จะครองส่วนแบ่งมากที่สุดในตลาด ซึ่งโรงพยาบาลวิภาวดีตั้งเป้าหมายต้องเป็นอันดับ 3
กลยุทธ์ที่ใช้ขยายธุรกิจหลังจากนี้ จะเน้นขยายโรงพยาบาลวิภารามเป็นหลัก ซึ่งโรงพยาบาลวิภาวดีถือหุ้น 40% โรงพยาบาลรามคำแหง 30% โรงพยาบาลสินแพทย์ 10% ที่เหลือเป็นผู้ถือหุ้นรายย่อย โดยนับแต่ปีนี้ถึง 3 ปีข้างหน้า จะมีโรงพยาบาลวิภารามเปิดใหม่ 56 แห่ง ใช้เงินลงทุนแห่งละ 600-800 ล้านบาท โรงพยาบาลวิภาวดีก็คงใช้ โดยเงินลงทุนในโรงพยาบาลวิภารามไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาทแน่นอนโดยเมื่อต้นปีที่ผ่านมาได้เปิดโรงพยาบาลวิภารามเพิ่มแล้ว 1 แห่ง ที่แหลมฉบังลงทุน 200 ล้านบาท เพราะซื้อโรงพยาบาลเดิมมาปรับปรุง เน้นรับกลุ่มประกันสังคมและบริเวณนิคมแหลมฉบัง
ขณะที่ช่วงปลายปีนี้จะเปิดโรงพยาบาลวิภาราม อมตะนคร ลงทุน 800 ล้านบาท ขนาด 100 เตียง เจาะกลุ่มคนที่อาศัยและทำงานในนิคมอมตะนคร และกลางปีหน้าจะเปิดโรงพยาบาลวิภาราม สมุทรสาคร เจาะกลุ่มแรงงานพม่า ส่วนโรงพยาบาลวิภารามที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง และน่าจะเปิดได้ 34 ปีนี้ ได้แก่ เทพารักษ์ ศรีนครินทร์ และอ่อนนุช
จากแนวทางลงทุนดังกล่าวจะทำให้โรงพยาบาลวิภาวดีนับรวมกับโรงพยาบาลที่เป็นพันธมิตร มีเตียงรวมกันกว่า 2,000 เตียง เพิ่มขึ้นเท่าตัวจากปัจจุบันมีรวมกัน 1,000 เตียง ผลักดันมูลค่าตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) โรงพยาบาลวิภาวดีและพันธมิตรเพิ่มเป็น 78 หมื่นล้านบาท จากปัจจุบัน 45 หมื่นล้านบาท
“โครงสร้างธุรกิจโรงพยาบาลวิภาวดี โรงพยาบาลรามคำแหง และโรงพยาบาลสินแพทย์ต่างกัน แต่34 ปีข้างหน้า ต้องรวมทุกโรงพยาบาลให้ใช้แบรนด์เดียวกัน เพื่อให้ธุรกิจแข็งแกร่งขึ้นแต่ยังไม่มีนโยบายไปขยายในต่างประเทศ เพราะต้องการให้ธุรกิจในประเทศแข็งแรงก่อน ซึ่งส่วนกรณีจะหาพันธมิตรเพิ่ม จะเน้นพันธมิตรที่มีความรู้ นวัตกรรมใหม่ ที่เสริมธุรกิจได้ ไม่ใช่มีเพียงเงินลงทุนอย่างเดียว ” ชัยสิทธิ์ กล่าว
อีกแนวทางที่โรงพยาบาลวิภาวดีทำ คือขยายขาธุรกิจบริการอื่น เช่น ซื้อกิจการสนามกอล์ฟ และโรงแรมในเชียงใหม่ ใช้เงินลงทุนรวม 2,000 ล้านบาท เพื่อมาดำเนินกิจการเอง โดยมีสนามกอล์ฟพร้อมโรงแรม 2 แห่งอยู่ในพื้นที่ติดกัน แต่ละแห่งมีห้องพัก 80 ห้อง ขณะนี้อยู่ระหว่างปรับปรุงและเปลี่ยนชื่อ คาดว่าจะเปิดได้ ส.ค.นี้ และยังมีพื้นที่ว่างอีก700-800 ไร่ ตั้งใจแบ่งทำเป็นโฮมสเตย์ 10-20 ไร่ที่เหลือทำที่อยู่อาศัยและพื้นที่ให้เช่าทำโรงงาน เพื่อสร้างเมืองที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ
ก่อนหน้านี้ บริษัทเคยซื้อกิจการโรงแรมในกรุงเทพฯ มาทำเองแล้ว ภายใต้ชื่อ โรงแรมปริ้นซตัน ระดับ 3 ดาวครึ่ง บนถนนดินแดง เปิดแล้ว 3 ปี ยังขาดทุนเพราะเผชิญปัญหาการเมือง ทำให้อัตราเข้าพักบางช่วงได้รับผลกระทบ เช่น ตั้งแต่การชุมนุมเริ่มปลายปีก่อน ทำให้อัตราเข้าพัก เหลือ 20% จากปกติควรอยู่ที่ 90% เพิ่งเริ่มดีขึ้น มี.ค. กลับมามีอัตราเข้าพักกว่า 70% ส่วนอนาคตจะขยายธุรกิจโรงแรมอีกหรือไม่ อยู่ที่โอกาส หากมีโรงแรมน่าสนใจราคาไม่แพง ก็พร้อมซื้อ ส่วนปีนี้ตั้งเป้าหมายรายได้เครือโรงพยาบาลวิภาวดีโต 1015% จากปีก่อนที่มีรายได้กว่า 4,600 ล้านบาท ผลจากการเปิดโรงพยาบาลใหม่ทำให้ฐานลูกค้าเพิ่ม และการขยายบริการโรงพยาบาลเดิม เช่น โรงพยาบาลวิภาวดี เพิ่งเปิดตัวศูนย์สูตินรีเวชแบบครบวงจร
นอกเหนือจากเครือโรงพยาบาลไทยแข่งกันเองแล้ว จากนี้คงต้องจับตาเครือโรงพยาบาลต่างชาติที่เล็งเข้ามาร่วมทุนหวังส่วนแบ่งตลาดในเมืองไทยด้วย เพราะถือเป็นคู่แข่งอีกฟากที่น่ากลัวทีเดียว


