สมาร์ทโฟนดัมพ์ราคา!เปิดศึกเดือดทุกตลาด

ค่ายผู้ผลิตโทรศัพท์มือถืองัดโปรโมชั่นแข่งเดือดงานไทยแลนด์โมบาย เอ็กซ์โป หวังชิงยอดขายสู้มรสุมการเมือง

งานไทยแลนด์โมบาย เอ็กซ์โป 2014 ไฮเอนด์ครั้งนี้ ถูกหวยโดยตรงเพราะเจอม็อบการเมืองประกาศเดินขบวนและชุมนุมใหญ่เลื่อนมาชนพอดี ทำให้ผู้จัดงานและแบรนด์มือถือที่มาร่วมงานกังวลพอสมควรว่า คนจะมาเดินงานและยอดขายจะชะลอหรือไม่

แต่หลังจากดูกระแสในวันแรกแล้ว ถือว่าจำนวนคนลดลงไปไม่ถึง 10% แสดงให้เห็นว่า คนไทยที่กำลังมองหา สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรืออุปกรณ์ไอทีสวมใส่ได้ ต้องมาเดินที่งานนี้

สำหรับการแข่งขันในตลาดสมาร์ทโฟนปัจจุบันถือว่ารุนแรงมาก หากไม่นับระบบปฏิบัติการไอโอเอสของแอปเปิ้ลแล้ว ซัมซุงยังครองส่วนแบ่งตลาดอันดับหนึ่งอยู่ และในงานนี้ซัมซุงเน้นขาย กาแล็คซี่ เอส 5 รุ่นไฮเอนด์ที่ราคา 2.38 หมื่นบาท ซึ่งไม่ใช่การเปิดตัวรุ่นใหม่ ขณะที่รุ่นรองลงไป เช่น กาแล็คซี่ โน้ต 3 หรือ กาแล็คซี่ แกรนด์ 2 ก็ถือว่าวางตลาดมาระยะเวลาหนึ่งแล้ว ดังนั้น อาจจะเห็นว่ากลุ่มผู้ซื้ออาจจะไม่แรงเท่ากับการจัดงานครั้งที่ผ่านๆ มา

ส่วนกลุ่มแบรนด์โทรศัพท์มือถือที่เปิดตัวสินค้าใหม่และวางจำหน่ายในงาน เช่น โซนี่ มาพร้อมกับ โซนี่ เอ็กซ์พีเรีย แซด 2 ราคา 2.39 หมื่นบาท รุ่นไฮเอนด์จากโซนี่ ที่การออกแบบและคุณสมบัติทำออกมาได้ดี มีสาวกโซนี่ติดตาม รวมถึงผู้ใช้ใหม่ๆ ที่ต้องการใช้งานแบรนด์ที่แตกต่าง ซึ่งยอดขายในปัจจุบันโซนี่ตามมาเป็นอันดับ 2 ในตลาดแต่ยังห่างจากผู้นำอยู่พอสมควร ทั้งในตลาดไทยและตลาดต่างประเทศ

อีกแบรนด์ที่เปิดตัวรุ่นใหม่และขายในงานนี้ คือ เอชทีซี วัน เอ็ม 8 ที่เปิดราคามา 2.59 หมื่นบาท แต่ทำโปรโมชั่นลดในงานเหลือ 2.38 หมื่นบาท ดังนั้น สมาร์ทโฟนไฮเอนด์ที่ประชันกันตรงๆ ขายราคาใกล้เคียงกันในงานนี้ เพื่อให้ผู้ใช้ตัดสินใจเลือกเลยว่า ชอบการดีไซน์ การสัมผัส และการใช้งานของแบรนด์ใดมากกว่ากัน แต่ถ้าชื่นชอบ เอชทีซี วัน เอ็ม 8 สามารถซื้อกับดีแทค พร้อมเปิดเบอร์ จะซื้อได้ในราคา 2.19 หมื่นบาท โดยเป็นโปรโมชั่นที่ดีแทคกับเอชทีซีทำร่วมกัน จึงมีส่วนดึงดูดคนซื้อได้มากกว่า

ในมุมของสมาร์ทโฟนไฮเอนด์นั้น จะแข่งขันกันที่ความสวยงามของการออกแบบดีไซน์ ฟังก์ชั่นการใช้งาน และคุณภาพวัสดุที่ใช้ในการผลิต แต่ก็มีอีกหลายแบรนด์ที่เน้นสินค้าระดับโลว์เอนด์ ระดับราคาประมาณ 3,000-1 หมื่นบาท เพื่อกระตุ้นยอดขาย

นนทวัน สินธวานนท์ หัวหน้าฝ่ายการตลาด ไมโครซอฟท์ ดีไวซ์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า โนเกียเตรียมวางขาย โนเกีย ลูเมีย 630 ใช้ระบบวินโดวส์โฟน 8.1 รุ่นซิมเดียวราคา 4,990 บาท และ รุ่น 2 ซิม ราคา 5,190 บาท และยังมีโนเกีย เอ็กซ์แอล สำหรับคนที่ชอบแอนดรอยด์ ราคา 5,650 บาท

“หลังจากไมโครซอฟท์ซื้อกิจการโนเกียไปแล้ว การทำงานจะผสานกันมากขึ้น แต่ยังใช้ชื่อโนเกียต่อไป โดยเชื่อว่าด้วยสถานการณ์การเมืองแบบนี้ คนจะเปลี่ยนมาซื้อเครื่องราคาต่ำกว่าหมื่นมากขึ้น”นนทวัน กล่าว

ขณะที่เอซุส นำเซนโฟน 4 สมาร์ทโฟนราคา 2,990 บาท ซึ่งสินค้าจะเริ่มขายวันนี้ (9 พ.ค.) โดยวันแรกของงานมีผู้ซื้อมาจองแล้ว ถือว่าเป็นรุ่นที่คาดว่าได้รับความนิยม และทำยอดขายให้กับเอซุสในการเปิดตลาดเข้าสู่สมาร์ทโฟน

สุภสิทธิ์ รักกสิกร หัวหน้าคณะผู้บริหารการตลาด บริษัท สามารถ ไอ-โมบาย เปิดเผยว่า ตลาดมือถือได้รับผลกระทบจากการเมือง ทำให้ค่าเฉลี่ยเครื่องที่ขายดีจะถูกลง ราคา 4,000-5,000 บาท คนมาซื้อเครื่องระดับล่างมากขึ้น จากเดิมที่จะอยู่ประมาณ 6,000-7,000 บาท ซึ่ง ไอ-โมบาย ได้วางขาย ไอคิว 5.8 ดีทีวี ราคา 5,990 บาท และรุ่นอื่นๆ อีก 3 รุ่น สมาร์ทโฟนที่รองรับการดูทีวีดิจิทัลได้เป็นจุดเด่นที่แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ

ด้าน โอภาส เฉิดพันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็ม วิชั่น ผู้จัดงานไทยแลนด์โมบาย เอ็กซ์โป กล่าวว่า งานครั้งนี้คาดว่าจะมีเงินสะพัด 1,200 ล้านบาท คนมาเดินงานกว่า 6 แสนราย เชื่อว่าแม้จะมีสถานการณ์การเมือง การชุมนุมใหญ่ แต่จากจำนวนผู้มาใช้บริการในวันแรก และผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนใหม่จะมาในงานนี้ รวมทั้งแบรนด์ต่างๆ ก็เตรียมสินค้ามาขายกันเต็มที่ ถือว่ามีส่วนช่วยสร้างยอดขายได้