เอแคลร์ สักชิ้นมั้ย?　

โดย...ศิศิรากร อัครัช / ภาพ แพสเทล

ได้รับการกล่าวขานให้เป็นขนมที่อินเทรนด์ที่สุดในยุโรป ณ ขณะนี้ โดยนิตยสารชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็นนิตยสารแอล หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทมส์ นิตยสารกอนเดอ นาสต์ หนังสือพิมพ์เดลี เทเลกราฟ หรือ บีบีซีดอตคอม ฯลฯ ล้วนยกให้ “เอแคลร์” (Eclair) เป็นแชมป์ขนมหวานแห่งปี แทนที่มาการง (Macaron) ที่ครองบัลลังก์มานาน

ขนมหวานชิ้นเล็กๆ สัญชาติฝรั่งเศส ที่มีลักษณะเป็นแป้งด้านนอก และสอดไส้ครีมแบบรสออริจินัล หรือรสกาแฟ รสช็อกโกแลต รสชา ก็ว่าไป สำหรับบ้านเราอาจจะคุ้นเคยกับเอแคลร์ไส้ครีมก้อนเล็กๆ กลมๆ ทว่า เอแคลร์สูตรดั้งเดิม จะเป็นแป้งชูซ์เพสตรี้รูปไข่ออกยาวๆ สอดไส้ครีม โรยหน้าด้วยไอซิ่ง (แอแคลร์กลมๆ แบบบ้านเราฝรั่งเรียกว่า โปรฟิเตอโรลProfiterole)

การสอดไส้ครีมเข้าไปในเอแคลร์ มักจะทำโดยการบีบออกจากถุงเพสตรี้ ไม่ว่าจะเป็นครีมวานิลลา กาแฟ ช็อกโกแลต คัสตาร์ด (ครีมปาติสสิแยร์) วิปครีม หรือชิบูสต์ครีม (ครีมไข่ขาว) ซึ่งปัจจุบันมีการพัฒนาครีมที่สอดไส้ในเอแคลร์ไปอีกมากมาย ทั้งครีมถั่วพิสตาชิโอ รัมคัสตาร์เชสนัทพูเร (เชสนัตบด) โดยทั้งหมดนั้นจะต้องเป็นครีมเย็น กินแล้วได้ความสดชื่น ปิดท้ายด้วยไอซิ่ง ซึ่งบางครั้งก็ใช้ครีมช็อกโกแลต/ชา/กาแฟ/คาราเมลราดหน้าแทน

เอแคลร์ ภาษาฝรั่งเศส แปลว่า แสงวูบวาบ ที่เรียกแบบนี้เพราะว่า เป็นขนมชิ้นเล็กๆ ที่กินง่ายๆ กินแป๊บเดียวก็หมด (แต่บางตำราก็บอกว่าเพราะครีมไอซิ่งที่โรยหน้ามีลักษณะเป็นเงาสะท้อนแสง) ตามประวัติบอกว่า คนแรกที่เริ่มทำเอแคลร์ตั้งแต่ตวรรษที่ 19 คือ อองโตแนง กาแรม (มีชีวิตระหว่างปี 1784-1833) ซึ่งเป็นเชฟชื่อดังของราชสำนักฝรั่งเศส โดยสร้างสรรค์ให้เป็นหนึ่งในขนมกินเล่นของบรรดาผู้สูงศักดิ์ท่ามกลางพายนานาชนิด โดยสมัยก่อนเรียกกันว่า ขนมของดัชเชส (Pain a la Duchesse หรือ Petite Duchesse) สำหรับชื่อเอแคลร์ ปรากฏพร้อมสูตรภาษาอังกฤษครั้งแรกในบอสตันคุ้กกิ้งสกูล คุ้กบุ๊ก เขียนโดย ดี. เอ. ลินคอล์น ตีพิมพ์ในปี 1884

 

เอแคลร์ลักษณะแบบต้นตำรับ เดี๋ยวนี้หากินได้ง่ายๆ แล้ว เพราะเทรนด์ร้านขนมสไตล์ฝรั่งเศสเริ่มเป็นที่นิยมมาตั้งแต่เลอโนตร์มาบุกตลาด หลังจากนั้นก็มีร้านอื่นๆ มากมาย อย่าง แฮร์รอดส์ ที รูม ที่สยามพารากอนก็มีเอแคลร์ไส้ครีมชาเอิร์ลเกรย์เป็นที่เลื่องลือ ส่วนใหม่ล่าสุด ก็คือ ร้านแพสเทล (Pastel) ที่สาวกคนรักเอแคลร์ไม่ควรพลาด เพราะได้นำ ปารีส เอแคลร์ ต้นแบบเอแคลร์สไตล์ฝรั่งเศสที่เลื่องลือ มาให้ได้ลองลิ้มชิมรสกันโดยเฉพาะเป็นครั้งแรก

ท่ามกลางบรรยากาศร้านแบบคาเฟ่ริมถนนย่านแซงต์แชร์กแม็ง ในนครปารีส เก๋ไก๋ด้วยดีไซน์คอนเทนเนอร์สีสันสดใส ประดับด้วยสัญลักษณ์หอไอเฟลรอบด้าน เสมือนนั่งจิบกาแฟยามบ่ายในแบบชาวปารีเซียงผู้มีรสนิยมสุนทรี นอกจากรสชาติดั้งเดิมแล้ว ยังผสมผสานศิลปะและความเป็นแฟชั่นนิสตา ด้วยเทคนิคพิเศษสกรีนภาพลวดลายกราฟฟิกบนแผ่นช็อกโกแลตกินได้ ภายใต้คอนเซปต์ “Colors of Life”

ปารีส เอแคลร์ มีให้เลือกชิมมากกว่า 30 รสชาติ อย่างเช่น Eiffel (ไอเฟล) ซิกเนเจอร์เอแคลลร์สอดไส้กับสุดยอดครีมขึ้นชื่อ อย่าง ดิโพลแมต ครีม เนื้อนุ่มเบา ละลายในปาก ท็อปปิ้งด้วยดาร์กช็อกโกแลต Fleur de Sel (เฟลอ เดอ เซล) เอแคลร์ไส้ครีมผสมเกลือทะเลเลื่องชื่อจากฝรั่งเศส รสชาติหอม หวาน อมเค็มนิดๆ Pastel (แพสเทล) เอแคลร์สายรุ้ง 7 สี สอดไส้คัสตาร์ดครีม ผสมเมล็ดวานิลลาแท้จากเกาะมาดากัสการ์

 

นอกจากนี้ยังมี รสชาติสุดแฟนซี ตั้งแต่ Popcorn (ป๊อปคอร์น) เอแคลร์รสป๊อปคอร์นเคลือบคาราเมล โรยหน้าด้วยป๊อปคอร์น และเนยเค็ม Fromage (โฟรมาจ) เอแคลร์ไส้มาสคาโปเนชีสครีม Praline (พราลีน) เอแคลร์สอดไส้พราลีนคาราเมลผสมถั่ว หอม หวานมัน ท็อปด้วยถั่ว 4 ชนิด ทั้ง อัลมอนด์, พิสตาชิโอ, แมกคาเดเมีย และเม็ดมะม่วงหิมพานต์ Fraisier (เฟรเซีย) สตรอเบอร์รี ชอร์ตเค้กในรูปแบบเอแคลร์ อร่อยด้วยครีมดิโพลแมตผสมวานิลลาและคัสตาร์ด พร้อมสตรอเบอร์รีสดๆ

Tokyo Cube Choux (Animal Series) ชูส์ครีมยอดนิยมสไตล์ญี่ปุ่นในรูปแบบลูกเต๋า พิเศษสุดๆ กับช็อกโกแลตคอลเลกชั่น “Animal Series” สุดน่ารักกว่า 10 ลวดลาย ทั้งหมีขาว, โลมา, นกฟลามิงโก, ยีราฟ, ม้าลาย, เสือดาว ฯลฯ จับคู่ความอร่อยด้วยครีมดิโพลแมต และอีก 10 ไส้ อย่างชาเขียวมัทฉะ, ช็อกโกแลต, คาราเมล, ชีส, เฟลอ เด เซล ฯลฯ

ปิดท้ายด้วยเอแคลร์เมนูพิเศษแบบลิมิเต็ด เอดิชั่น Mango Mosaic Eclair เอแคลร์ลายโมเสกกับมะม่วงน้ำดอกไม้และพุดดิ้งมะม่วง (เฉพาะฤดูร้อนนี้เท่านั้น)

สาวกเอแคลร์ไปชิมกันได้ที่ ชั้น G ศูนย์การค้าสยามพารากอน โซนสวีต อเวนิว บริการทุกวัน เวลา 10.00-22.00 น. โทร 02-610-7596 ชมเมนูเด็ดก่อนที่ www.pastelbkk.com หรือ Facebook/Pastelbkk