เมกา โฮม มุ่งสร้างความต่างรับศึกใหญ่ชนใหญ่ค้าปลีกวัสดุ
แม้ว่าธุรกิจก่อสร้างจะยังอยู่ในภาวะชะลอตัว แต่ธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้างกลับอยู่ในภาวะที่ต้องแข่งขันกันอย่างรุนแรง
โดย...รัชนีย์ ศรีวัฒนชัย
แม้ว่าธุรกิจก่อสร้างจะยังอยู่ในภาวะชะลอตัว แต่ธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้างกลับอยู่ในภาวะที่ต้องแข่งขันกันอย่างรุนแรง เมื่อผู้ประกอบการรายใหญ่ต่างหันลงมาเล่นในตลาดนี้อย่างเอาจริงเอาจัง ไม่ว่าจะเป็นสยามโกลบอลเฮ้าส์ ของกลุ่มเอสซีจี ไทวัสดุของกลุ่มเซ็นทรัล และ เมกา โฮม ในเครือเดียวกับโฮมโปร ของกลุ่มแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ โดยมีมูลค่าตลาดระดับ 34 แสนล้านบาทเป็นเดิมพัน
สำหรับผู้มาใหม่อย่าง เมกา โฮม แม้ว่าจะมีแบ็กอัพที่แน่นปึ้กอย่างโฮมโปรคอยเป็นพี่เลี้ยงอยู่ แต่ก็ไม่ใช่งานง่ายที่จะแข่งกับขาใหญ่ในตลาดวัสดุก่อสร้างอย่างเอสซีจี และขาใหญ่ในตลาดค้าปลีกอย่างเซ็นทรัล การสร้างความแตกต่างและการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายให้ได้มากที่สุดและกว้างที่สุดจึงเป็นโจทย์สำคัญในการทำตลาดของ เมกา โฮม
สุพรศรี นาคธนสุกาญจน์ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการและบริหารกลุ่มสินค้า บริษัท เมกา โฮม เซ็นเตอร์ กล่าวว่า สินค้าของเมกา โฮม จะแตกต่างจากคู่แข่ง โดยมีสินค้าทุกชนิดที่เกี่ยวข้องกับบ้านแบ่งออกได้ถึง 29 หมวด ซึ่งตอบสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย 4 กลุ่ม ได้แก่ ผู้รับเหมา เจ้าของโครงการ ร้านค้าช่วง และเจ้าของบ้านได้อย่างครอบคลุมทั้งขายปลีกและขายส่ง
“เมกา โฮม จึงไม่ได้ขายเฉพาะวัสดุก่อสร้างเพียวๆ สินค้าที่เกี่ยวเนื่องต่างๆ ที่คิดว่าลูกค้าต้องการก็มีรวมอยู่ในที่เดียวกัน ยกเว้นของกินอย่างเดียวเมกา โฮม ไม่มี นอกนั้นสินค้าที่เกี่ยวกับบ้านเรามีให้ครบ ถ้าใครได้ไปเดินดูแล้วจะรู้ว่าเราแตกต่างจากคู่แข่งอย่างไร” สุพรศรี กล่าว
ขณะเดียวกัน ในภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัวอาจจะมองว่าเป็นปัจจัยด้านลบ แต่สำหรับงานก่อสร้างที่ได้เริ่มไปแล้วถึงอย่างไรก็ต้องเดินหน้าต่อ ทำให้ตลาดวัสดุก่อสร้างยังเดินต่อไปได้ เพียงแต่ผู้บริโภคเปลี่ยนพฤติกรรมประหยัดมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นผู้รับเหมา เจ้าของโครงการ หรือเจ้าของบ้าน บริษัทจึงตอบสนองด้วยสินค้าที่ทำให้ลูกค้าประหยัดได้มากยิ่งขึ้น
“สินค้าของเมกา โฮม จะต้องประหยัดเวลา ลดต้นทุน งานเสร็จเร็ว ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการผู้รับเหมา เจ้าของโครงการ รวมทั้งผู้ซื้อบ้าน ในยุคที่ทุกคนต้องการรัดเข็มขัด นอกจากนี้ยังการันตีวัสดุก่อสร้างที่ขายดีและผู้รับเหมาต้องใช้ร่วม 100 รายการจะไม่ขาดสต๊อก เพื่อลดต้นทุนทั้งเวลาและค่าแรงงาน” สุพรศรี กล่าว
จากการสร้างความต่างและการเข้าถึงความต้องการของลูกค้า แม้แต่เวลาเปิดปิดศูนย์ที่เปิดเร็วและปิดช้า เพื่อให้สอดคล้องกับการทำงานของผู้รับเหมา ร้านค้าช่วง ทำให้ เมกา โฮม ได้รับการตอบรับที่ดีเกินกว่าที่คาดหมายไว้ หลังจากเปิดตัวศูนย์จำหน่ายสินค้าและวัสดุก่อสร้างเมกา โฮม 5 เดือนที่ผ่านมา รายได้มีอัตราการเติบโตสูงเกินเป้าหมายที่วางไว้ แม้ว่าภาพรวมธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้างจะเติบโตลดลงก็ตาม
สำหรับแผนการขยายสาขา เมกา โฮม 5 ปี มุ่งจะเปิดให้ครบ 20 สาขา วางโมเดลเข้าไปยึด 3 พื้นที่ด้วยกัน ได้แก่ โซนปริมณฑล บริเวณชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน และนิคมอุตสาหกรรม ส่วนการเลือกทำเลต้องไม่ทับซ้อนกับโฮมโปร มีขนาดพื้นที่ 1.52 หมื่น ตร.ม. ภายในปีนี้เมกา โฮม เดินหน้าทุ่มงบร่วม 1,000 ล้านบาท ขยายสาขาเพิ่มอีก 2 สาขา ที่ปริมณฑลและชายแดน จากปัจจุบันมีทั้งหมด 3 สาขา ได้แก่ ที่ จ.ตาก หนองคาย รังสิต และกำลังจะเปิดนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ อ.บ่อวิน จ.ชลบุรี เป็นสาขาที่ 4
สิ่งสำคัญในช่วง 3 ปีนี้ เมกา โฮม ต้องการสร้างการจดจำให้ลูกค้านึกถึงเป็นอันดับแรก จึงต้องพยายามสร้างแบรนด์ภายใต้กลยุทธ์ปากต่อปากมากกว่าโหมโฆษณาประชาสัมพันธ์ทางทีวี เพราะสาขาจำหน่ายยังไม่ครอบคลุม ควบคู่กับการมุ่งขยายฐานลูกค้ากลุ่มผู้รับเหมาและเจ้าของโครงการภายใน 2 ปี วางเป้าหมายเพิ่มจากสัดส่วน 30% เป็น 50% และกลุ่มผู้บริโภคสัดส่วน 70% เหลือเป็น 50%
ทุกวันนี้ปริมาณลูกค้าเข้ามาใช้บริการ เมกา โฮม 1,200 คนต่อวัน และมียอดสมาชิกร่วม 6 หมื่นราย คงเป็นก้าวแรกๆ ที่ปูทางไปสู่เป้าหมาย 5 ปีข้างหน้า กับการสร้างรายได้ 1.6 หมื่นล้านบาท ช่วงชิงส่วนแบ่ง 34% จากมูลค่าตลาดรวม 4 แสนล้านบาท ถึงวันนั้นจะทำได้แค่ไหนคงต้องรอพิสูจน์ฝีมือ


