ดันสินค้าโอท็อป5กลุ่มบุกขยายตลาดอาเซียน

กสอ.ดันโอท็อป 5 กลุ่ม บุกตลาดอาเซียน คาดช่วยเพิ่มยอดขายได้ 10%

นางอรรชกา สีบุญเรือง อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) เปิดเผยว่า ในปี 2557 กรมวางแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์โอท็อปไทยใน 5 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่ กลุ่มเครื่องแต่งกาย อาหาร เครื่องดื่ม สมุนไพร รวมถึงสบู่ แชมพู ผลิตภัณฑ์สปา และกลุ่มของใช้ของตกแต่ง รวมจำนวน 1,330 ผลิตภัณฑ์ และพัฒนาผู้ประกอบการ 5,340 ราย จาก 425 กลุ่มผู้ผลิต เพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดตลาดอาเซียน

ทั้งนี้ คาดว่าจะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับกลุ่มโอท็อปไม่น้อยกว่า 10% จากยอดขายรวมในปี 2556 ที่มีมูลค่า 8.7 หมื่นล้านบาท

สำหรับวิธีการส่งเสริมผลิตภัณฑ์โอท็อปจะดึงเอกลักษณ์ วัฒนธรรมภูมิปัญญามาเชื่อมโยงกับเทคโนโลยี ระบบบริหารจัดการ หรือนวัตกรรมสมัยใหม่ เพื่อให้สินค้าสามารถขยายตลาดได้ทั้งในและต่างประเทศ และพร้อมเข้าสู่การแข่งขัน ซึ่งโอทอปไทยจะต้องมีความพร้อมรองรับการเปิดตลาดอาเซียน เพราะเมื่อเข้าสู่การรวมตัวเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) แล้ว จะมีสินค้าเข้ามาแข่งเป็นจำนวนมาก

“หากสินค้าไทยได้รับการพัฒนาอย่างมีระบบ มีคุณภาพมาตรฐานเป็นที่ยอมรับ จะสามารถรักษาตลาดและครองความเป็นหนึ่งในตลาดไว้ได้” นางอรรชกา กล่าว

ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการโอท็อปไทยมีความสนใจที่จะบุกตลาดอาเซียนมากขึ้น เช่น ในกลุ่มผู้ผลิตสบู่ มีการรวมตัวกันไปเปิดตลาดในประเทศเวียดนาม ทำกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ ซึ่งสินค้าไทยค่อนข้างได้รับความสนใจจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาก รวมถึงสินค้าในกลุ่มอาหาร ของใช้ของตกแต่งบ้าน มีแนวโน้มที่จะขายดีในตลาดอาเซียน

“กรมฯมีแผนเรื่องพัฒนาผู้ประกอบการเข้าสู่ตลาดอาเซียนมา 2 ปีแล้ว โดยจะมุ่งเน้นการสร้างความพร้อมด้านการผลิต นำมาตรฐานไปใช้ในการผลิต เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า ซึ่งในแต่ละปีจะมีการพัฒนาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีแผนจะพาผู้ประกอบการไปเปิดตลาดในอาเซียนเช่นเดียวกัน เช่น ในประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย และสิงคโปร์” นางอรรชกา กล่าว

นางอรรชกากล่าวว่า จะพัฒนาผู้ประกอบการในกลุ่มอาหารให้มุ่งเน้นการผลิตระบบเกษตรอินทรีย์ (ออร์แกนิก) เพื่อออกไปบุกตลาดต่างประเทศ เนื่องจากสินค้าเป็นที่ต้องการอย่างมากในประเทศสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป ซึ่งจะเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและขายได้ในราคาดี

สำหรับจำนวนผู้ประกอบการโอท็อปที่มีศักยภาพในการส่งออกมีประมาณ 10% ของผู้ประกอบการทั้งหมด โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มโอท็อประดับ 5 ดาวขึ้นไป ส่วนผู้ประกอบการโอทอปที่อยู่ในการดูแลของกรมฯ จะเป็นโอทอปตั้งแต่ระดับ 3 ดาว ถึง 5 ดาว ซึ่งในกลุ่มดังกล่าวคิดเป็น 80% ของผู้ประกอบการทั้งหมด ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยมีสินค้าโอท็อปจำนวน 7.09 หมื่นผลิตภัณฑ์มีมูลค่ายอดขายทั้งสิ้นตั้งแต่ปี 25452556 รวม 6.5 แสนล้านบาท