พายหมูแดงร้อยล้าน เส้นทางของเอพริล เบเกอรี่

เบ็ญจวรรณ รัตนวิจิตร

เส้นทางการทำธุรกิจของแต่ละคน ไม่มีที่ไหนโรยด้วยกลีบกุหลาบ ทุกคนต่างเผชิญขวากหนาม มากน้อยแค่ไหนต้องถามใจว่าสู้หรือเปล่า เหมือนสาวน้อย เอพริล เบเกอรี่ กว่าจะมาถึงวันนี้ ไม่ว่าจะล้มกี่ครั้งต้องลุกขึ้นสู้เสมอ

ณธนพร เอื้อวันทนาคูณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยไดมอนด์ฟูด เจ้าของธุรกิจเอพริล เบเกอรี่ (April’ Bakery) เปิดเผยว่า กว่าธุรกิจของเอพริล เบเกอรี่ จะมาถึงวันนี้ ต้องล้มมาแล้วหลายครั้ง นับจากตัดสินใจลาออกจากการเป็นแอร์โฮสเตสเพื่อมาเป็นเจ้าของธุรกิจของตัวเอง ภายใต้แบรนด์ “เอพริล เบเกอรี่”

ด้วยความที่มีหัวการค้ามาตั้งแต่เด็ก เพราะที่บ้านทำธุรกิจขายอุปกรณ์ก่อสร้าง ณธนพร หรือ อร จึงเริ่มทำการค้าขายมาตั้งแต่สมัยเด็ก โดยตื่นตั้งแต่ตี 4 เพื่อทำขนมปังไส้ต่างๆ ไปขายตลาดนัดใกล้บ้าน ขายดีเรื่อยมา จนจบการศึกษา จึงสมัครเป็นแอร์โฮสเตสซึ่งเป็นอาชีพที่ใฝ่ฝัน ได้เดินทางไปต่างประเทศ ระหว่างนั้น เธอซื้อสินค้าจากการไปบินต่างประเทศมาขายต่อ ทำให้เก็บเงินได้กว่า 7 แสนบาท

เป็นแอร์ฯ อยู่ 2 ปีกว่า ตัดสินใจว่าจะต้องมีธุรกิจของตัวเอง จึงลาออกจากแอร์ฯ มาทำร้านเบเกอรี่ และขายกาแฟไปด้วย ที่คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ (ซีดีซี) ซึ่งมีค่าเช่าพื้นที่ค่อนข้างสูง เดือนละ 3.5 หมื่นบาท แต่ด้วยความที่เป็นคนไม่กินกาแฟ จึงไม่ได้ทดลองทดสอบว่ารสชาติกาแฟของตัวเองเป็นอย่างไร ขณะที่ลูกค้าเริ่มลดน้อยลงเรื่อยๆ จากขายได้หลักพันบาทต่อวัน บางวันขายไม่ได้เลย

“อร กัดฟันทำเรื่อยมา เพราะคิดว่านี่เป็นธุรกิจแรกของตัวเอง ทู่ซี้ทำมา 89 เดือน จนเงินเก็บที่มาลงทุนก้อนแรกหมดลง และยังไปเอาเงินที่บ้านมาอีก จนสุดท้ายไปไม่ไหวแน่จึงตัดสินใจเลิก” ณธนพร กล่าว

จากนั้น จึงสู้ต่อด้วยการขายเบเกอรี่ในห้างสรรพสินค้า โดยเลือกผลิตพิซซ่า โรลล์ ซึ่งคิดว่าแตกต่างจากร้านเบเกอรี่ที่อยู่ในห้างฯที่มีอยู่เดิม ช่วงแรกขายดีมากวันละ 23 หมื่นบาท ต่อมายอดขายเริ่มลดลงเรื่อยๆ เหลือวันละ 8001,000 บาท จึงตัดสินใจเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งเค้ก คุกกี้ มัฟฟิน จนเปลี่ยนมาเป็นพายหมูแดงสูตรฮ่องกง เมื่อช่วง 23 ปีที่ผ่านมา โดยใช้เวลาคิดสูตรกว่า 3 เดือน

ณธนพร กล่าวว่า การทำธุรกิจเบเกอรี่ของเอพริลฯ เป็นการชิมเอง คิดสูตรเอง ปรับจนได้สูตรที่ลงตัว สิ่งสำคัญในการสร้างผลิตภัณฑ์ คือ คุณภาพ เช่น สูตรพายหมูแดงฮ่องกง นำเข้าส่วนผสมบางอย่างมาจากฮ่องกง แป้งนำเข้าจากอิตาลี ไส้ฟักทองนำเข้าญี่ปุ่น เป็นต้น ในปริมาณที่คุ้มค่า คุ้มราคา ทำให้ผลิตภัณฑ์พายของเอพริล เบเกอรี่ ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว จากการบอกต่อแบบปากต่อปาก

ขณะที่มีลูกค้าส่วนหนึ่งติดต่อขอแฟรนไชส์ไปเปิดร้านเองก็มี ปัจจุบันร้านเอพริล เบเกอรี่ มีกว่า 50 สาขา และวางเป้าหมายในปีนี้จะขยายให้ได้ 100 สาขาทั่วประเทศ จากยอดขาย 7.2 ล้านบาทในปี 2554 เพิ่มเป็น 15 ล้านบาทในปี 2555 และในปี 2556 ที่ผ่านมา มียอดขายรวมมากกว่า 100 ล้านบาท ขณะนี้เอพริล เบเกอรี่มียอดขาย 10 ล้านบาทต่อเดือน

สำหรับสาวน้อยเอพริล เบเกอรี่ ยังไม่หยุดแค่นี้ เพราะขณะนี้กำลังเตรียมแผนขยายตลาดต่างประเทศอย่างจริงจัง โดยมีสินค้านำร่อง คือ เค้กสับปะรด สูตรไต้หวัน สินค้าใหม่นี้หากติดตลาดจะทำให้ธุรกิจของบริษัทขยายตัวได้รวดเร็วยิ่งขึ้น เพราะเค้กสับปะรด สูตรไต้หวัน สามารถใช้เครื่องจักรทำแทนคนได้ ปัจจุบันมีกำลังการผลิต 2 หมื่นชิ้นต่อวัน พนักงาน 60 คน หากใช้เครื่องจักรผลิตได้ 6,000 ชิ้นต่อชั่วโมง

“ช่วงที่ผ่านมา เริ่มมีชาวต่างชาติเข้ามาซื้อสินค้าของเรา อาทิ จากสิงคโปร์ ลาว การพัฒนาสินค้าใหม่เค้กสับปะรด สูตรไต้หวัน มีข้อดี คือ สามารถอยู่ได้ประมาณ 1 เดือน เพราะฉะนั้น จึงเหมาะแก่การทำตลาดต่างประเทศ ซึ่งช่วงนี้บริษัทจะเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ รวมทั้งในประเทศไทย เพื่อแนะนำสินค้าให้เป็นที่รู้จักในตลาดอย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้น” ณธนพร กล่าว

นอกจากนี้ ยังได้ติดต่อขอวางจำหน่ายในสนามบินสุวรรณภูมิ หากเข้าวางจำหน่ายได้จะทำให้ผลิตภัณฑ์ของเอพริล เบเกอรี่ เป็นที่รู้จักจากชาวต่างชาติมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน ณธนพร ยังไม่หยุดแค่นี้ ทุกวันนี้ยังคงคิดสูตรผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งทดลองวางจำหน่ายน้ำพริกคุณอร รวมทั้งเตรียมขยายธุรกิจใหม่ด้านอาหารเสริมความงามอีกด้วย

นี่คืออีกหนึ่งตัวอย่างของนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่หัวใจไม่ยอมแพ้