posttoday

ลองขับ"โคโรลาโด"กับขุมพลังดูราแม็กซ์ใหม่

10 มกราคม 2557

ลองขับเชฟโรเลต โคโรลาโด ใหม่กับเครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ที่มาพร้อมแรงบิดแน่นๆตั้งแต่รอบต่ำ

โดย....พลพัต สาเลยยกานนท์

ว่ากันว่าเป็นรถกระบะที่กล้าเคลมตัวเองด้านประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ในรถกระบะ “เชฟโรเลต โคโรลาโด ใหม่” ที่ได้ปรับโฉมไปหมาดๆ หลังจากเปิดตัวออกสู่ตลาดในประเทศไทยครั้งแรกในปี 2554 ซึ่งมาพร้อมกับการพัฒนาที่ทีมวิศวกรมีความภาคภูมิใจในการนำเสนอขุมพลัง “ดูราแม็กซ์”

“โพสต์ทูเดย์” จึงไม่รอช้าตกลงร่วมเดินทางไปกับ “เชฟโรเลต โคโรลาโด ใหม่” บนเส้นทาง กรุงเทพฯ-กาญจนบุรี ด้วยระยะทางกว่า 300 กม. พร้อมการรายงานผลการลองขับให้ท่านผู้อ่านได้สัมผัสไปพร้อมๆกัน โดยมีทั้งรุ่น 2 ประตูและ 4 ประตู ขับเคลื่อน 2 ล้อและ 4 ล้อ ขนาดเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร และ 2.8 ลิตร เกียร์อัตโนมัติและเกียร์ธรรมดา ให้เป็นทางเลือกมากมาย

โดยคันที่ได้ลองเป็นรุ่นท็อปของตัว 4 ประตู (C-Cab) เกียร์อัตโนมัติ ที่มาพร้อมด้วยเครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรล เทอร์โบ ขนาด 2.8 ลิตร ให้พละกำลังสูงสุดที่ 200 แรงม้าที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดที่ 500 นิวตันเมตรที่ 2,000 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ที่มีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ไว้ให้ได้ลุยอีกต่างหาก

ลองขับ"โคโรลาโด"กับขุมพลังดูราแม็กซ์ใหม่

ที่กล่าวถึงเครื่องยนต์ขึ้นมาเป็นอันดับแรกเนื่องจาก เชฟโรเลต ย้ำนักย้ำหนาเลยว่าอยากให้ได้สัมผัสอย่างเต็มอรรถรส ซึ่งเส้นทางที่จัดไว้ให้ค่อนข้างมีครบครัน ทั้งสภาพการจราจรในเมือง, ทางตรงยาวๆ, ทางคดโค้งสลับขึ้นเขา และทางออฟโรด ซึ่งขุมพลังและแรงบิดที่ว่าให้อัตราการตอบสนองดีที่ช่วงความเร็วติดลมบนไปแล้ว แต่หากเป็นช่วงที่ต้องใช้ความเร็วต่ำ, ขณะออกตัว หรือเปลี่ยนความเร็วขึ้นลงบ่อยๆ ส่วนนี้อาจจะให้ความรู้สึกอาจจะตอบสนองได้ไม่ทันใจเท่าไรนัก ซึ่งหากถอนคันเร่งความเร็วลดลงกว่าจะไล่รอบความเร็วให้กลับขึ้นไปใหม่อาจจะเหนื่อยสักนิด จึงขอนิยามสั้นๆง่ายๆแล้วกันว่า “มาช้าแต่มาหนัก”

ขณะที่ช่วงล่างและสมรรถนะการทรงตัวในรุ่นนี้ให้ความนุ่มนวลจากความตั้งใจที่จะให้ได้สัมผัสในรุ่น 4 ประตูที่เน้นความสะดวกสบายของผู้โดยสารและผู้ขับขี่มากกว่าการบรรทุกสัมภาระ พร้อมกันนี้การเกาะถนนและการซับแรงกระแทกในการขับขี้ในลักษณะรถกระบะที่เป็นแบบ 4 ประตูยกสูงแล้วนั้นถือว่าเชฟโรเลตทำการบ้านมาได้ค่อนข้างดี ให้ความมั่นใจในการขับขี่ได้ดีบนถนนทางปกติ

มาถึงช่วงเส้นทางที่เป็นแบบออฟโรดให้ได้ลองกันระยะทางไม่ยาวมากนักราวๆ 12 กม. ที่ตลอดเส้นทางมีลำห้วยความลึกระดับ 50-60 ซม. อยู่หลายจุด และทางดินซึ่งเป็นหลุมเป็นบ่อแถมโคลนให้ได้วัดสมรรถนะของระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบเล็กๆ รวมถึงให้ได้ลองใช้ระบบความคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (HDC) ซึ่งก็สามารถผ่านไปได้อย่างไม่ยากเย็นนัก

ลองขับ"โคโรลาโด"กับขุมพลังดูราแม็กซ์ใหม่

ไฮไลท์สำคัญของการเดินทางในครั้งนี้ที่ “บ้าน ช.ช้างชรา” กับภาระกิจหาอาหารให้ช้างชราที่มีอายุมากถึง 60 ปีขึ้นไปที่ด้อยโอกาส, บาดเจ็บ, ช้างเร่ร่อน แต่อย่างไรช้างก็คือช้างเพราะความต้องการอาหารของช้างแต่ละเชือกอยู่ในระดับประมาณ 10% ของน้ำหนักตัว ซึ่ง “เชฟโรเลต โคโรลาโด ใหม่” คันที่ลองขับนี้ถึงแม้จะเป็น 4 ประตูแต่ก็สามารถแบกน้ำหนักบรรทุกได้กว่า 900 กก. ซึ่งงานนี้น่าจะพอทำให้ช้างชราอิ่มท้องได้อยู่บ้าง ทำให้ได้รับรู้ว่าแรงบิด 500 นิวตันเมตร สามารถเป็นแรงฉุดอันมหาศาลบนทางลาดชันในการบรรทุกได้ดีกว่าการทำความเร็ว

ด้านระบบความปลอดภัยในเจ้ารถกระบะคันนี้ก็มีมาให้ไม่น้อยเลยทีเดียว อาทิ ระบบกระจายแรงเบรกด้วยวงจรไฟฟ้า, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี, ระบบไฮดรอลิกช่วยเบรก, ระบบควบคุมเบรกขณะเข้าโค้ง

ส่วนการออกแบบภายนอกยังคงความเป็นเอกลักษณ์ แข็งแกร่งดุดัน ไม่แตกต่างจากเดิมเท่าไรนัก แต่สำหรับภายในค่อนข้างโดดเด่นกับความใหม่ในการออกแบบอย่างระบบแอร์ดิจิตอลออกแบบเป็นรูปวงกลม, หน้าจอทัชสกรีนขนาด 7 นิ้วพร้อมระบบนำทางเนวิเกชั่น, ลำโพงชุด 9 ตัว พร้อมระบบอินโฟเทนเมนท์ “มายลิงค์” ที่สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเพื่อเปิดฟังวิทยุออนไลน์ได้ทั่วโลก

“เชฟโรเลต โคโรลาโด ใหม่” ยังมีสีตัวถังเพิ่มขึ้นมาใหม่อีก 1 สีในชื่อว่า “ออเรนจ์ ร็อค” ให้ได้เลือกมากขึ้น โดยราคาค่าตัวเริ่มต้นที่ 5.7-9.98 แสนบาท

ลองขับ"โคโรลาโด"กับขุมพลังดูราแม็กซ์ใหม่

 

ลองขับ"โคโรลาโด"กับขุมพลังดูราแม็กซ์ใหม่

 

ลองขับ"โคโรลาโด"กับขุมพลังดูราแม็กซ์ใหม่

 

ข่าวล่าสุด

ยก Pandora บุกกลางกรุง! คนดังร่วมเปิดตัว “Avatar” อลังการส่งท้ายปี