ลูกติดดูดนิ้ว แก้อย่างไรก็ไม่หาย

โดย...มีนา

อาการติดดูดนิ้วในเด็กบางคน บางครั้งก็สร้างความไม่สบายใจให้กับคุณพ่อคุณแม่ เพราะกลัวติดดูดนิ้วไปยันโต อาการดูดนิ้วจะเห็นเมื่อยามที่เด็กเคลิ้มๆ ใกล้จะหลับ มักยกนิ้วโป้งขึ้นมาดูดอย่างเอร็ดอร่อย ซึ่งปัญหาเหล่านี้มีหนทางแก้ แต่ต้องอาศัยความใจเย็นสักนิด

สถานการณ์ : ลูกชายวัยขวบเศษๆ ติดดูดนิ้วมาก ถ้าบังคับด้วยการดึงออกก็จะทำท่างอน บางครั้งดึงออกหลายๆ ครั้งถึงกับร้องไห้ไม่หยุด พูดโน้มน้าวใจเท่าไรก็ไม่ฟัง กลัวเขาจะติดดูดนิ้วไปจนโต กลัวลูกโดนล้อว่าไม่รู้จักโต อาการเช่นนี้มีโอกาสหายหรือเปล่า

วิธีแก้ไข : วิธีแก้แบบโบราณ คือ คุณแม่บางคนจะนำบอระเพ็ดมาป้ายที่นิ้ว เวลาเด็กนำนิ้วไปดูดก็จะเกิดอาการขม แต่คงต้องอาศัยการทาบอระเพ็ดหลายๆ ครั้ง เดี๋ยวเด็กก็เลิกไปเอง แต่จริงๆ แล้วการดูดนิ้วเป็นภาวะปกติที่พบในเด็กบางคน เด็กที่ชอบดูดนิ้วตัวเองจะทำให้เขาเกิดความรู้สึกสบายใจและเพลิดเพลินได้ เด็กบางคนดูดทุกเวลาที่รู้สึกสบายใจ แต่เด็กบางคนดูดเฉพาะตอนกลางคืนเพื่อกล่อมให้ตัวเองนอนหลับได้ง่ายขึ้น เด็กที่ชอบดูดนิ้วตอนนอนพบปัญหาตื่นแล้วร้องกลางดึกน้อยมาก แต่เด็กที่ชอบดูดนิ้วส่วนใหญ่จะเลิกดูดไปเองตอนอายุ 45 ขวบ ถึงกระนั้นก็ตามหากเด็กมีนิสัยดูดนิ้วอาจเกิดปัญหาตามมา เช่น มือไปหยิบจับของที่มีเชื้อโรค ก็อาจทำให้เด็กมีอาการท้องเสีย หรือผิวหนังบริเวณนิ้วโป้งถูกดูดจนเกิดอาการอักเสบที่เล็บ เกิดอาการบวมและแดง หากเกิดอาการอักเสบหนังอาจถึงกับเกิดบาดแผลก็ได้

สำหรับวิธีฝึกให้เด็กเลิกดูดนิ้ว พยายามอย่าดึงออกทันที แต่ให้ใช้วิธีเบี่ยงเบนความสนใจ หยิบหรือหากิจกรรมให้ลูกทำ หรือไปนั่งเล่นเพื่อทำให้ลูกมือไม่ว่าง แล้วเด็กก็จะลืมยกนิ้วขึ้นมาดูดเอง ถ้าดูดนิ้วจนถึง 4 ขวบแล้วยังไม่มีวี่แววว่าจะเลิก ลองดึงดูดใจด้วยการให้ของรางวัล ให้สติกเกอร์สะสมแล้วได้รางวัลชิ้นใหญ่ เพื่อให้ลูกได้คิดว่า ดูดนิ้วเป็นสิ่งไม่ควรทำ เพราะหากทำจนถึงวัยที่มีฟันน้ำนมขึ้น อาจทำให้ฟันหน้าเกิดอาการเหยินได้ แต่คุณพ่อคุณแม่ก็อย่ากังวลใจว่าลูกดูดนิ้วเป็นปัญหาใหญ่ จริงๆ ปัญหาเล็กนิดเดียว หากผู้ใหญ่ไม่ปล่อยปละละเลย ใช้วิธีรุนแรง เช่น ลูกยกนิ้วขึ้นดูดปุ๊บตีลูกหรือตำหนิทันที หากสังเกตว่าลูกมักดูดนิ้วเมื่อเขาเกิดอาการง่วงนอน ต้องดูดนิ้วเท่านั้นจึงจะหลับ ก็ให้หากิจกรรมให้ลูกทำ เช่น อ่านหนังสือนิทานให้ลูกฟังจนกล่อมเขาให้หลับไปเอง หากใช้วิธีที่แนะมาข้างต้นยังไม่ได้ผล ให้ค่อยๆ แก้ปัญหาด้วยการปรึกษาหมอฟัน หรือหมอเด็กก็น่าจะช่วยลดปัญหาได้

Ask the Expert

Q : ดิฉันต้องดูแลคุณแม่วัย 70 กว่า ท่านขี้น้อยใจเหมือนเด็กๆ เลยค่ะ ถ้าพูดอะไรผิดหูท่านจะตึงไปเลย เมื่อก่อนท่านก็ไม่เป็นนะคะ เพิ่งมาเป็น 23 ปีนี้เอง ตอนนี้จะพูดอะไรต้องระวังมากจนเครียดเลยค่ะ เราจะสื่อสารกับท่านอย่างไรดีคะ?

A: นพ.พันธ์ศักดิ์ ศุกระฤกษ์ ผู้อำนวยการด้านการแพทย์ ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์ ในเครือโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ กล่าวว่า “ปัญหานี้เกิดขึ้นกับทุกคนและแก้ได้ยากจริงๆ เพราะเมื่อคนเราอายุมากขึ้น เนื้อสมองจะบางลง ทำให้ต่อมที่ไวต่อการแสดงออกแบบดุร้าย ใจน้อย และไม่น่ารัก จะแสดงออกมาทันทีที่ได้รับการกระตุ้น เพราะฉะนั้นคุณจะต้องระวังคำพูดให้มากที่สุด ทางที่ดีพยายามรับฟังให้มาก และตอบเฉพาะที่เป็นคำตอบในทางบวก ห้ามโต้เถียงเด็ดขาดเพราะจะยิ่งทำให้ท่านโมโหมากขึ้น สิ่งที่ทำได้อีกอย่างก็คือพยายามพาท่านไปยังสถานที่ที่ท่านมีความสุข เช่น ไปวัด เที่ยวสถานที่เก่าๆ ในอดีตที่ท่านชื่นชอบ และพยายามพูดชื่นชมท่านในทุกเรื่องที่เป็นจริง และรู้ว่าท่านอยากฟัง รวมทั้งต้องทำจิตให้เปี่ยมไปด้วยความเมตตาต่อท่าน อย่าคิดในแง่รำคาญ เพราะจะทำให้ภาษากายที่แสดงออกมาเป็นแบบนั้น ถ้าเป็นไปได้เวลาไปทำบุญก็ตั้งจิตอธิษฐานขอให้ท่านแข็งแรง สุขภาพดีและอารมณ์ดีก็จะได้คุณแม่ที่น่ารักเหมือนฝัน”

He Said / She Said

เต้พนักงานบริษัท

“ชอบผู้หญิงที่มีความสามารถครับ ดูเธอมีของ น่าสนใจดี ไม่ชอบผู้หญิงที่ดีแต่คุย ดีแต่ช็อปปิ้ง ดูแล้วเหนื่อยครับ (หัวเราะ) และถ้าเธอสวยด้วยก็ยิ่งดีครับ”

ญาณินท์พนักงานบริษัท

“ชอบหนุ่มๆ ที่หล่อ เท่ ดูดี มีเสน่ห์ค่ะ (หัวเราะ) ผู้หญิงส่วนใหญ่ก็ต้องการแฟนมีคุณสมบัติแบบนี้ แต่ลึกๆ แล้วขอให้เขาเป็นคนดี หน้าตาพอใช้ได้ก็โอเคแล้วค่ะ”

Quote

“การรับมือกับพวกที่ชอบแทงข้างหลังนั้นไม่ยากหรอกครับ ผมได้เรียนรู้มาอย่างดีแล้วว่า คนพวกนี้จะมีพลังก็ต่อเมื่อยามที่เราเริ่มหันหลังให้เขาเท่านั้นแหละ”

เอมิเนม แร็พเปอร์หนุ่ม